ปัจจุบันไม่ว่าเราจะหันไปทางไหนก็จะแต่คนทำธุรกิจ ซึ่งมีธุรกิจใหม่เกิดขึ้นมากมาย เพราะการเริ่มทำธุรกิจเป็นเรื่องที่ง่าย แต่ด่านโหดของการทำธุรกิจก็คือ จะทำยังไงให้ธุรกิจอยู่รอดได้

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ (Vending Machine) ว่ากันว่ามีตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ 1 เครื่องต่อ 34 คนที่อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่น ล่าสุดได้มีการคิดรถขายสินค้าอัตโนมัติเคลื่อนที่ออกมาแล้ว

จากกระแสบริโภค Plant based ที่กำลังมาแรง “โรแยล พลัส” หรือ "Plus" บริษัทส่งออกน้ำมะพร้าวและน้ำนมมะพร้าว จึงได้คิดค้นพัฒนา “โคโคนัท โยเกิร์ต” นอกจากเอาใจผู้บริโภคสายกรีนแล้ว ยังสามารถเก็บรักษาได้นานถึง 18 เดือน โดยไม่ต้องแช่เย็นด้วย

ในขณะที่หลายธุรกิจกำลังหมกหมุ่นว่าจะผลิตสินค้าอะไรดี จริงๆ แล้วพวกเขามีนักออกแบบที่ดีอยู่ใกล้ๆ ตัวตลอดนั่นเอง ซึ่งก็ไม่ใช่ใคร "ลูกค้า" ของพวกเขานั่นเอง

CX : Customer Experience คือ ประสบการณ์ของลูกค้า รวมถึงความสัมพันธ์ที่ลูกค้ามีต่อองค์กรธุรกิจโดยการสร้างประสบการณ์ของลูกค้านั้น

ในยุคที่ข้าวยากหมากแพงแบบนี้ การหาลูกค้ารายใหม่คงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่มีวิธีหนึ่งที่สามารถสร้างรายได้ให้บริษัทด้วยกลยุทธ์การพัฒนาประสบการณ์ของลูกค้า ซึ่งไม่ใช่แค่จะสร้างความภักดี แต่ยังส่งผลต่อยอดผลกำไรระยะยาวได้อีกด้วย

ต่อให้ไม่เคยเดินทางไปญี่ปุ่น เชื่อว่าหลายคนคงได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างถึงความเยี่ยมยอดในงานบริการในประเทศนี้ และคนส่วนใหญ่พูดถึงในทิศทางเดียวกันจนญี่ปุ่นขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในประเทศที่ผู้คนมี service mind หรือจิตใจบริการมากที่สุด

ก่อนหน้าวิกฤต COVID-19 อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวโรงแรมของไทยเปรียบเสมือนเป็นพระเอกที่ทำรายได้ดี ใครๆ ก็อยากมาลงทุน มาทำงานด้วย แต่ปัจจุบันกำลังเกิดปัญหาขาดแคลนแรงงานกลับเข้าระบบอย่างหนัก

ความสำเร็จในการทำธุรกิจของผู้ประกอบการหลายคน อาจเริ่มจากการเป็นพนักงานกินเงินเดือน แต่ทำยังไงถึงจะไปรอดได้ เรามีตัวอย่างจาก 3 ธุรกิจที่แต่ละแบรนด์อยู่มาไม่ต่ำกว่าสิบปีมาฝากกัน

ถ้าพูดถึงร้านหนังสืออิสระเพียงหนึ่งเดียวในเมืองนครพนม คนอ่านหนังสือต้องรู้จัก “พนมบุ๊ค สโตร์” ในขณะเดียวกันถ้าบอกว่าร้านกาแฟดีๆ ที่ขายหนังสือ คนหลายคนยังนึกถึง พนมบุ๊คสโตร์ เช่นกัน

 ย้อนไปเมื่อสิบกว่าปีก่อน หากเอ่ยถึงโรงแรมดังเมืองภูเก็ต หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ “Foto Hotel” โรงแรมดังสุดชิคที่ทุกจุดถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์คนรักการถ่ายภาพรวมอยู่ด้วยแน่นอน

จะเกิดอะไรขึ้นถ้า Google กลายเป็น Travel Agency ทำได้ตั้งแต่ ออกแบบทริป จองตั๋วเครื่องบิน หากิจกรรมในพื้นที่ทำ จองโรงแรมและสถานที่ท่องเที่ยวได้ ครบจบในที่เดียว แถมยังสร้าง Travel Journey ได้ตั้งแต่ก่อนท่องเที่ยว ระหว่างท่องเที่ยว และหลังท่องเที่ยว ได้อีกด้วย