ในโลกธุรกิจ สิ่งที่มีค่าสูงสุดตลอดกาล และรับรู้กันโดยทั่วไปก็คือข้อมูล เพราะข้อมูลลูกค้าคือสิ่งที่ทุกบริษัทมองหาและอยากมีไว้ในครอบครองเพื่อใช้ในการทำแคมเปญการตลาดได้โดนใจ ไม่ว่าจะลูกค้าหรือผู้บริโภคก็ตาม และนำไปสู่การสร้างโอกาสใหม่ให้กับธุรกิจ ยิ่งใครมีข้อมูลเชิงลึกได้มากเท่าไหร่ และหากรู้วิธีการนำมาใช้ ก็จะยิ่งเสมือนเป็นการการันตีความสำเร็จให้กับธุรกิจได้
นักธุรกิจหญิง บุคลิกงามสง่า นั่งเซ็นสัญญากับนักลงทุนต่างชาติ เพื่อขยับกิจการให้ก้าวสู่ธุรกิจระดับเอเชีย คือภาพจำในอดีตของ "เยจิน คิม" ผู้ประกอบการไทยสัญชาติเกาหลี
สถานการณ์โควิด-19 ได้ผลักดันให้โลกดิจิทัลหมุนเร็วขึ้น ทำให้วิถีการทำงานได้เปลี่ยนไป ได้สร้างความคุ้นชินให้กับคนทำงานยุคใหม่ ซึ่งองค์กรจะมีวิธีการปรับตัวอย่างไรให้เข้ากับคนยุคดิจิทัล และจะดึงดูดคนกลุ่มนี้ให้อยู่กับองค์กรเราได้อย่างไร
แม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 ทำให้หลายธุรกิจต้องรับผลกระทบอย่างมหาศาล บางธุรกิจปิดกิจการไปก็มี แต่ก็มีธุรกิจได้โอกาสในการเติบโตจากสถานการณ์นี้ ซึ่งส่วนหนึ่งมากจากการเปลี่ยนแปลงจากดิจิทัล
“คนที่จะสำเร็จได้ต้องมีความทะเยอะทะยาน ต้องคิดให้ใหญ่ ทำให้ได้ และอย่ายอมแพ้” คาถาความสำเร็จของหญิงแกร่งจากทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ดร.พรรณนิภา โอฬารธัมมะกิตติ์ (บี) นับเป็นอีกหนึ่งคนในวงการธุรกิจที่เริ่มต้นจากศูนย์แต่สามารถฝ่าฟันจนมีธุรกิจพันล้าน
รู้ไหมว่า ปัจจุบันไทยเป็นผู้ส่งออกสิ่งปรุงรสอาหารอันดับ 1 ในอาเซียน และเป็นอันดับ 4 ของโลก ซึ่งหนึ่งในนั้นมีน้ำปลารวมอยู่ด้วย
หนึ่งในวิธีที่จะทำให้ธุรกิจเติบโตคือการส่งออก แต่รู้ไหมว่าในปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ประกอบการ SME ในระบบประมาณ 3.1 ล้านราย กลับเป็นผู้ส่งออกไม่ถึง 1% หรือประมาณ 3 หมื่นรายเท่านั้น
มากกว่าเก้าในสิบ หรือกว่า 98% ของกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ในประเทศไทย กำลังเผชิญกับความผันผวนของกำลังคน อันเกิดจากปรากฏการณ์การลาออกครั้งใหญ่
ต้องยอมรับว่าวิกฤต โควิด-19 ไม่เพียงแต่สร้างผลกระทบต่อสุขภาพ ยังสร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจมูลค่ามหาศาล ภาคธุรกิจจำนวนมากจำเป็นต้องปิดกิจการ แต่ในขณะเดียวกัน โควิด-19 นั่นเอง ที่ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ทั้งยังมอบ ‘บทเรียน’ แก่ภาคธุรกิจให้พร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ โดยสิ่งหนึ่งที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถขับเคลื่อนต่อไปได้คือ เทคโนโลยี นวัตกรรม
จากการคิดต่อยอดจากธุรกิจของครอบครัวที่ดำเนินกิจการค้าข้าวและอุตสาหกรรมอาหารส่งออก ภายใต้ชื่อของ V-Group หรือ วุฒิชัยกรุ๊ป มานานกว่า 30 ปี บริษัท โอชาฟูดแพ็ค จำกัด คือ 1 จาก 9 บริษัทในเครือ ผู้ส่งออกใบตองและผักผลไม้แช่แข็งรายใหญ่ของประเทศ ที่ครั้งหนึ่งธุรกิจเกือบพัง เพราะขาดทุน
เรื่องราวธุรกิจเกือบ 100 ปีที่เริ่มต้นจากเงาะโรงเรียนต้นแรก จนกลายเป็นสินค้าแปรรูปที่มีกลุ่มลูกค้าเป็นชาวต่างชาติ 80-90%
ต้องยอมรับว่าผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยในปัจจุบันสามารถพัฒนา “บรรจุภัณฑ์” หรือ “แพ็กเกจจิ้ง” ให้น่าสนใจได้ไม่แพ้แบรนด์ใหญ่ๆ ในตลาด