แบรนด์ Papacraft คือ การนำเอาเครื่องหนังมาสร้างสรรค์ให้กลายเป็นเครื่องประดับแบบงานคราฟต์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากใบไม้ ดอกไม้ที่อยู่รอบตัว อันแสดงถึงความงดงาม อ่อนช้อย และเร่าร้อนไปกับลีลาการบิดงอของงานแต่ละชิ้น ฉีกออกจากรูปแบบเดิมๆ
หมดยุคของการใช้โซเชียลมีเดียเป็นตลาดนัดเปิดแผงขายของผ่านโพสต์กันโต้งๆ เพราะธุรกิจกำลังอยู่ในยุคที่ผู้บริโภคฉลาดกว่าผู้ค้าด้วยข้อมูล และข้อเท็จจริง ผลิตภัณฑ์ไม่ใช่ของหายาก ตัวเลือกน้อย หรือขาดแคลนเหมือนในอดีต แต่ออกจะมีมากล้นจนลูกค้าต้องเลือก ต้องลอง จนกว่าจะเจอสิ่งที่ใช่ที่มากก..
ไม่ว่าจะยุคนี้หรือยุคที่ผ่านมา กุญแจสำคัญของการทำตลาดยังคงหนีไม่พ้นเรื่อง “ความเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง” ซึ่งวันนี้หมดยุคเดาความต้องการ แต่ต้องรับฟังสิ่งที่ลูกค้าเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมา เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง
ต่อให้ผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณดีแค่ไหน หากได้รับการนำเสนอไปยังกลุ่มเป้าหมายที่ไม่ใช่ ก็ไม่ต่างกับสุภาษิตที่ว่า ยื่นแก้วให้วานร จริงอยู่ที่กลุ่มเป้าหมายไม่ได้เป็นปัจจัยเดียวที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ
เรื่องเล่าที่ดีต้องทำให้กลุ่มเป้าหมายอยากหยุดดูหรือคลิกอ่าน สร้างให้เกิดการจดจำ เพื่อที่เมื่อเกิดปัญหา ผลิตภัณฑ์ หรือบริการของแบรนด์เราจะได้เป็นเจ้าแรกที่ปิ๊งแวบในความคิดของลูกค้า มาดู 6 เรื่องเล่า ที่ชาว FOMO อยากคลิกอ่าน แล้วพลิกเป็นยอดขายได้
การทำโฆษณาบนเฟซบุ๊กให้ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่เรื่องง่าย แม้แต่นักการตลาดที่มีประสบการณ์ก็ยังพลาดได้เหมือนกัน โดยเฉพาะการเปลี่ยนแฟนให้กลายเป็นลูกค้า มาดูเหตุผลที่ทำให้แคมเปญของคุณไม่สามารถสร้างลูกค้าได้สมดั่งใจ และวิธีแก้แบบสร้างสรรค์ เพื่อให้ได้ยอดขายดีขึ้น
เมื่อขยะล้นโลกขึ้นทุกวัน คงจะดีไม่น้อยหากใครสักคนมีไอเดียนำขยะมาสร้างสิ่งใหม่ที่ใช้งานต่อได้ เช่นเดียวกับ ‘ประสิทธิ์ สว่างพันธุ์’ เจ้าของโจ้เก้าอี้ถังน้ำมัน ผู้เปลี่ยนขยะเป็นหุ่นยักษ์ขวัญใจลูกค้าต่างชาติ สามารถเพิ่มมูลค่าขยะให้เป็นสินค้าหลักแสนบาทเลยทีเดียว
ปฏิเสธไม่ได้ว่าการทำตลาดออนไลน์ช่วยให้เราเข้าถึงลูกค้าได้มาก และรวดเร็ว แต่เคยคิดไหมว่า ทำไมยิ่งทำยิ่งคิดกลับเหมือนพายเรือวนอยู่ในอ่าง ทำแทบตายแต่ไม่ได้ช่วยเพิ่มยอดขายสักเท่าไหร่ หรือที่ทำไปมันแค่ “การตลาดหลงทิศ” แล้วการตลาดที่แท้จริงคืออะไรกันแน่ มาหาคำตอบในเรื่องนี้กัน!
Rivers & roads ร้านขายของฝากสุดน่ารักในเชียงใหม่ ที่ไม่ได้มีดีแค่คัดสรรสินค้าเก๋ๆ จากดีไซเนอร์มารวมไว้ในที่เดียวแต่ยังมาพร้อมรักษ์โลกด้วย
แม้วันนี้เทคโนโลยีดิจิทัลจะช่วยให้เราสามารถส่งสารไปยังกลุ่มเป้าหมายได้อย่างถูกต้องแม่นยำมากขึ้น แต่หากขาดศิลปะในการนำเสนอตัวตนของสินค้า บริการ หรือความเข้าใจลูกค้าอย่างแท้จริง ต่อให้ทุ่มเงินซื้อเทคโนโลยี หรือโฆษณาไปเท่าไร ก็ไม่ได้ลูกค้าอยู่ดี
โอกาสของร้านกาแฟเล็กๆ ถ้าอยู่ในทำเลดีก็ไปต่อได้ แต่ถ้าไม่ใช่ หรือไม่ดีเท่าที่ควร นั่นคือความท้าทายที่เจ้าของธุรกิจต้องคิดหนัก ในยุคไทยแลนด์ 4.0 แบบนี้ ต้องอาศัยการตลาดดิจิทัลเข้ามาช่วย แล้วแบบไหนล่ะที่จะทำให้ร้านกาแฟของคุณประสบความสำเร็จได้
จากยุคสมัยที่ธุรกิจเปลี่ยนจากปลาใหญ่กินปลาเล็ก เข้าสู่ยุคปลาเร็วกินปลาช้า จนถึงล่าสุดปลาไม่ว่าตัวเล็ก หรือตัวใหญ่ จะว่ายไว หรือว่ายช้า ถ้าไม่เปลี่ยนแปลงตัวเองให้สอดรับกับพฤติกรรมใหม่ของผู้บริโภค ไม่รอดทั้งนั้น!