ในขณะที่หลายธุรกิจกำลังหมกหมุ่นว่าจะผลิตสินค้าอะไรดี จริงๆ แล้วพวกเขามีนักออกแบบที่ดีอยู่ใกล้ๆ ตัวตลอดนั่นเอง ซึ่งก็ไม่ใช่ใคร "ลูกค้า" ของพวกเขานั่นเอง
ปัจจุบันนี้กระแสความนิยมใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้ากำลังเพิ่มสูงขึ้นทำให้ในหลายๆ ธุรกิจโดยเฉพาะภาคอสังหาริมทรัพย์เริ่มที่จะหันมาจับ Touch Point ในการเพิ่มจุดให้บริการชาร์จแบตเตอร์รี่สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV Charger Station) ในพื้นที่ของตัวเองกันมากขึ้น
ในยุคที่ข้าวยากหมากแพงแบบนี้ การหาลูกค้ารายใหม่คงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่มีวิธีหนึ่งที่สามารถสร้างรายได้ให้บริษัทด้วยกลยุทธ์การพัฒนาประสบการณ์ของลูกค้า ซึ่งไม่ใช่แค่จะสร้างความภักดี แต่ยังส่งผลต่อยอดผลกำไรระยะยาวได้อีกด้วย
จะเกิดอะไรขึ้นถ้า Google กลายเป็น Travel Agency ทำได้ตั้งแต่ ออกแบบทริป จองตั๋วเครื่องบิน หากิจกรรมในพื้นที่ทำ จองโรงแรมและสถานที่ท่องเที่ยวได้ ครบจบในที่เดียว แถมยังสร้าง Travel Journey ได้ตั้งแต่ก่อนท่องเที่ยว ระหว่างท่องเที่ยว และหลังท่องเที่ยว ได้อีกด้วย
เป็นที่ทราบกันดีว่าผู้บริโภคมีผลต่อการทำธุรกิจมหาศาล ถ้าหากธุรกิจไหนเข้าถึงความต้องการผู้บริโภคได้มากที่สุดธุรกิจนั้นมีโอกาสเติบโต แต่ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ล่าสุดผลการศึกษา Future Shopper ของวันเดอร์แมน ธอมสัน พบว่าการสร้างประสบการณ์ลูกค้าให้เหมาะสมที่สุด คือสิ่งชี้ชะตาการเติบโตของธุรกิจในอนาคต
กลยุทธ์การตลาดที่มาแรงมากๆ ในปี 2022 ต่อเนื่องมากลับ Marketing 5.0 ไม่กล่าวถึงไม่ได้กับ Contextual Marketing ซึ่งเป็นเรื่องของการออกแบบและสร้างประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience) ผมเองจึงอยากนำเสนอความรู้ ข้อมูลพื้นฐานและขั้นตอนที่ SME จะนำไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจของท่านๆ ต่อไปครับ
คงไม่มีใครที่จะสามารถเอาใจทุกคนได้หมด หลายธุรกิจจึงเลือกที่จะปล่อยผ่านลูกค้าที่หงุดหงิดง่าย หรือคุยด้วยยากไป แต่เคยลองวิเคราะห์กันไหว่าการที่ลูกค้าเป็นแบบนั้นเกิดจากสาเหตุอะไร เพราะข้อมูลที่ได้กลับมาบางทีจะเป็นโอกาสช่องทางในการทำตลาดก็เป็นได้ หนึ่งในวิธีที่จะทำให้รู้ได้ข้อมูลเหล่านั้นก็คือการทำ Customer Journey Map
เกือบ 2 ปีที่คนไทยอยู่กับคำว่า โควิด 19 แต่ชีวิตต้อง Move on แต่ถ้าหากวันนี้สถิติยังขึ้นๆ ลงๆ ยังไปไหนไกลไม่ได้ “แบรนด์” จึงต้องวางกลยุทธ์การตลาดล่วงหน้า การปล่อยอาวุธเพื่อ สร้างยอดขาย จึงตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคและสร้าง Customer Journey ที่นอกกรอบจากแบบเดิมๆ
ในยุคของแพงขึ้นทั้งกระดานในปี 2022 นี้ เราๆ เหล่านักธุรกิจ SME ก็ควรที่จะใช้เครื่องมือฟรีให้เป็นประโยชน์อย่างเต็มที่กับธุรกิจของเรา
โดยส่วนใหญ่แล้วเวลาทำการตลาดผู้ประกอบการธุรกิจส่วนมากมักพุ่งเป้าไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เข้ามาซื้อสินค้าของตนเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่รู้หรือไม่ว่าจริงๆ แล้วนั้นอาจเป็นเพียงแค่ 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น เพราะยังมีลูกค้าอีกมากถึง 80 เปอร์เซ็นต์ด้วยกันที่เป็นเพียงผู้เฝ้ามอง แวะเข้ามาดู แต่สุดท้ายก็ปล่อยมือไป
ช่วงนี้เห็นข่าวสมุนไพรไทยถูกพูดถึงกันอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะสมุนไพรที่สามารถช่วยรักษาและบรรเทาอาการจากไวรัสโควิด-19 แต่แท้จริงแล้วในสายตาและมุมมองของทั่วโลกที่มีต่อสมุนไพรไทยเป็นเช่นไร ไปดูกัน
แม้จะเป็นธุรกิจเล็กๆ แต่ก็ต้องใช้องค์ความรู้มากมายหลายด้าน ทั้งต้นทุน ภาษี การตลาด การวิเคราะห์ข้อมูล ฯลฯ และทาง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้จัดทำคอร์สสำหรับผู้ประกอบการรวบรวมไว้เป็นซีรีส์สั้นๆ กระชับๆ ไว้ให้แล้ว