ธุรกิจเกษตรในเมืองหรือ Urban farming โดยเฉพาะการทำการเกษตรบนดาดฟ้าอาคารอาจไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ถ้าพูดถึงรูปแบบการดำเนินธุรกิจ ดูเหมือนจะมีอยู่ที่แห่งหนึ่งที่แตกต่างออกไป นั่นคือ Rooftop Republic สวนผักลอยฟ้าในฮ่องกงที่ดำเนินธุรกิจเพื่อสังคม
แม้ในวันนี้จะมีอาหาร Plant-based ออกสู่ตลาดมากขึ้น มีผู้ประกอบการเล็กและใหญ่พยายามเสาะหาวัตถุดิบ ใช้นวัตกรรมมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ แต่กลับถูกตั้งคำถามว่าจะเป็นเพียงแค่กระแสหรือไม่ เราเลยมีคำตอบมาให้ว่าจริงๆ แล้ว Plant-based คือความยั่งยืนและคือโอกาสที่ต้องคว้าต่างหาก
ด้วยความที่ฤทัยแพ้นมวัว เลยได้รู้จักกับนมทางเลือกที่ทำมาจากพืชซึ่งเป็นที่นิยมของชาวต่างชาติ โดยเฉพาะ “ข้าวโอ๊ต” จึงตัดสินใจมาแจ้งเกิดแบรนด์ “UOAT” (ยูโอ๊ต) ในประเทศไทย โดยนิยามความหมายของ UOAT ไว้ว่า คือทั้งหมดที่เกี่ยวกับความต้องการของคุณ
Plant Based Milk นับเป็นนมทางเลือกสำหรับผู้แพ้นมวัว หรือผู้ที่ไม่รับประทานเนื้อสัตว์ โดยสามารถทำมาจากพืชที่หลากหลาย เราจึงเห็นตั้งแต่นมโอ๊ต นมอัลมอนด์ นมถั่วเหลือง ฯลฯ เลยจะมาแนะนำวัตถุดิยสุดฮิตที่นิยมนำมาผลิต Plant Based Milk
หลังจากรัฐบาลไทยเปิดไฟเขียวให้ปลูกพืชเศรษฐกิจอย่าง “กัญชา-กัญชง” ทำให้หลายภาคส่วนตื่นตัว มีหลายองค์กรที่เข้ามาลงสนามในพืชเศรษฐกิจชนิดนี้ หนึ่งในนั้นคือทายาทของบริษัทผลิตยากว่า 70 ปีที่รู้จักมักคุ้นกันในนามโทนาฟ
จากเครื่องแกงที่เริ่มต้นขายในตลาดสด จังหวัดตรัง เมื่อ 37 ปีที่แล้ว มาวันนี้ “จะโหรมเครื่องแกง” กลายเป็นเครื่องแกงที่โด่งดัง เชื่อไหมว่า จากยอดขายหลักกิโลกรัมสู่หลักแสนตัน จากที่ขายในตลาดสดสู่โมเดิร์นเทรดทั่วประเทศและส่งออกไปต่างประเทศ โดยสร้างรายได้ถึง 150 ล้านบาท ในปี พ.ศ.2565
เพราะความตั้งใจดีที่อยากเป็นแหล่งโปรตีนทางเลือกใหม่ให้กับผู้บริโภค "More Meat" หนึ่งในผู้พัฒนาโปรตีนทดแทนจากพืช (Plant based) จึงให้ความสำคัญกับคุณภาพและความปลอดภัยในการผลิตสินค้าตั้งแต่ต้นทางการคัดสรรวัตถุดิบ
เชียงรายกำลังจะมีรถไฟเป็นของตัวเองในรอบ 70 ปี และรายได้กว่า 60 – 70 เปอร์เซ็นต์มาจากการท่องเที่ยว นอกจากนี้เป็นเมืองชายแดนสามแผ่นดิน ไทย ลาว และพม่า เพื่อเชื่อมต่อไปยังจีนตอนใต้
สตาร์ทอัพไทยจะรอดและเติบโตในสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เป็นใจได้อย่างไร วันนี้ อาจารย์มิก-ผศ.ดร.ยุทธนา ศรีสวัสดิ์ นายกสมาคม Thai Startup และ CEO iTAX เปิดอกเล่าอุปสรรคของสตาร์ทอัพไทย ความเชื่อ ความหวัง และการวางแผนรับมือกับสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน แบบหมดเปลือก
ไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุคกี่สมัย แต่สิ่งหนึ่งที่ธุรกิจภาคการเกษตรของไทยต้องประสบไม่เคยเปลี่ยนแปลงคือ ความไม่แน่นอนของสภาพดิน ฟ้า อากาศ ทำให้วิถีชีวิตของเกษตรกรถูกแขวนไว้บนความเสี่ยง จนเกิดเป็นปัญหาต่างๆ ตามมามากมาย
หนึ่งในวิธีที่จะทำให้ธุรกิจเติบโตคือการส่งออก แต่รู้ไหมว่าในปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ประกอบการ SME ในระบบประมาณ 3.1 ล้านราย กลับเป็นผู้ส่งออกไม่ถึง 1% หรือประมาณ 3 หมื่นรายเท่านั้น
มากกว่าเก้าในสิบ หรือกว่า 98% ของกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ในประเทศไทย กำลังเผชิญกับความผันผวนของกำลังคน อันเกิดจากปรากฏการณ์การลาออกครั้งใหญ่