อีแวน สปีเกล มหาเศรษฐีอายุน้อยสุดในโลก



 





Text : วิมาลี วิวัฒนกุลพาณิชย์



    อายุน้อยร้อยล้านเป็นวลีที่ไม่อาจบรรยายความมั่งคั่งของ อีแวน สปีเกล หนุ่มไฮโซจากแอลเอได้เพราะความรวยของเขานั้นเกินร้อยล้านไปมาก ทว่าการเกิดในครอบครัวชนชั้นสูง พ่อแม่เป็นทนาย อาศัยในคฤหาสน์หลังใหญ่ เรียนมหาวิทยาลัยดังไม่ได้ทำให้ให้อีแวนเป็นที่รู้จักมากมายนัก กระทั่งเขาปฏิเสธข้อเสนอของมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก เจ้าพ่อเฟซบุ๊กซึ่งขอซื้อกิจการของเขานั่นแหละ ชื่อของอีแวนก็ได้รับการกล่าวถึงอย่างเซ็งแซ่ในแวดวงซิลิคอน วัลเลย์ และการวิจารณ์อีแวนเป็นไปในทิศทางเดียวคือไม่บ้าก็เพี้ยนที่ทิ้งเงินสด 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ซักเคอร์เบิร์กยื่นให้อย่างไม่ไยดี 


    ด้วยอายุเพียง 25 ปี อีแวนกลายเป็นดาวเจิดจรัสอีกคราหลังได้รับการจัดอันดับจากนิตยสารฟอร์บส์ให้เป็น World’s Youngest Billionaire เขาก่อตั้งบริษัท สแนบแชท อิงค์ เมื่อปี พ.ศ.2554 ให้บริการแอพพลิเคชันบนสมาร์ตโฟนที่ชื่อ SnapChat ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก


    กว่า 100 ล้านคนใช้แอพฯ นี้ทุกวัน กลุ่มผู้ใช้เป็นวัยรุ่นเสียส่วนใหญ่ ภายในระยะเวลาเพียง 4 ปี บริษัทของเขาเติบโตแบบก้าวกระโดด ข้อมูลระบุเมื่อวันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา SnapChat มีมูลค่าสูงถึง 2,100 ล้านดอลลาร์ฯ หลังจากที่ช่วงต้นปีเพิ่งระดมทุนเพิ่มจากอาลีบาบา เว็บอี-คอมเมิร์ซที่ใหญ่สุดในโลกได้อีก 200 ล้านดอลลาร์ฯ


    เส้นทางสู่ความเป็นมหาเศรษฐีของอีแวน เริ่มขึ้นตอนที่เขาเป็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด วิชาเอกการออกแบบผลิตภัณฑ์ ที่นั่นเขาได้รู้จักเพื่อนมากมาย รวมถึง บ๊อบ เมอร์ฟี่ รุ่นพี่ที่เรียนวิทย์คอมพ์ และ แฟรงค์ บราวน์ เพื่อนจากเอกภาษาอังกฤษ 



 




    วันหนึ่งแฟรงค์ปรารภ “อยากส่งรูปให้สาว แต่อยากได้แอพฯ ที่ส่งแล้วรูปหายวับแบบไร้หลักฐานอ่ะ” ประโยคนี้ประโยคเดียวจุดประกายให้ 3 หนุ่มระดมสมองพัฒนาแอพฯ ที่สามารถส่งข้อความ ภาพ และคลิป โดยมีข้อกำหนดคนส่งต้องตั้งค่าลบข้อมูลภายใน 1-10 วินาทีหลังผู้รับเปิดดู 


    แอพฯ Picaboo (ชื่อในขณะนั้น) เปิดตัวเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี พ.ศ.2554 วันแรกมีคนโหลดแอพฯ จำนวนหนึ่ง แต่ยังไม่เปรี้ยงปร้าง จนแฟรงค์เกิดไอเดียวางตำแหน่งให้เป็นแอพฯ สำหรับ Sexting (การส่งภาพหรือข้อความที่มีเรื่องเพศเข้ามาเกี่ยวข้อง) เท่านั้นแหละ ยอดการโหลดแอพฯ ก็ทะลุทะลวงด้วยอิทธิพลของการบอกกันปากต่อปากในหมู่วัยรุ่น 


      อย่างที่ทราบกันว่า วัยรุ่นสมัยนี้แช็ตด้วยภาพ พอมาเจอแอพฯ ที่ทำลายภาพได้อัตโนมัติ จึงถูกใจวัยฮอร์โมนยิ่งนักในการส่งภาพโป๊เปลือยถึงกันโดยไม่ต้องกังวลว่าจะถูกจับได้ เพราะแชร์ปุ๊บ หายปั๊บ ไร้ร่องรอย


    เปิดตัวได้ 6 เดือน จำนวนผู้ใช้งานอยู่ที่ 40,000 คน และมีข้อความส่งผ่านแอพฯ Picaboo 60 ล้านภาพต่อข้อความต่อวัน ปัจจุบันการส่งข้อความเฉลี่ยต่อวันคือ 350 ล้านข้อความ ปรากฏการณ์นี้ทำให้แอพฯ น้องใหม่ถูกจับตามองจากบรรดา VC (Venture Capitalist) ที่สนใจนำเงินมาร่วมลงทุนด้วย 


    ก้อนแรกเกือบ 500,000 ดอลลาร์ฯ ที่ได้จาก VC รายหนึ่ง ทำให้อีแวนตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัยทั้งที่เหลืออีกไม่กี่หน่วยกิตก็จะเรียนจบเพื่อมาลุยทำธุรกิจเต็มตัว หลังจากนั้น เงินร่วมลงทุนจาก VC หลายต่อหลายรายก็ทยอยสมทบเข้ามาเรื่อยๆ ตั้งแต่กว่า 10 ล้านดอลลาร์ฯ ไปจนถึง 60 ล้านดอลลาร์ฯ ส่งผลให้มูลค่าบริษัททะยานพุ่งไปสู่หลักพันล้านดอลลาร์ฯ


 



    ไม่มีเส้นทางใดโรยด้วยกลีบกุหลาบ เหมือนว่าทุกอย่างกำลังไปด้วยดี แต่กลับเกิดปัญหาหุ้นส่วนทะเลาะกันถึงขั้นแตกหัก หลังแฟรงค์แยกตัวออกไป อีแวนและบ๊อบก็เปลี่ยนชื่อแอพฯ จาก Picaboo เป็น SnapChat ส่วนแฟรงค์ก็ดำเนินการฟ้องร้องเรียกสิทธิการถือหุ้น 30 เปอร์เซ็นต์ในบริษัท 


    การต่อสู้คดียืดเยื้อ จนเมื่อปลายปีที่ผ่านมาจึงยอมความกันแบบเงียบๆ โดยไม่มีการเปิดเผยว่า SnapChat ต้องจ่ายให้แฟรงค์เท่าไร ช่วงเวลาใกล้เคียงกัน อีแวนก็โดนเล่นงานเมื่ออีเมล์คึกคะนองเรื่องเพศที่เขาส่งให้เพื่อนๆ ถูกนำมาเปิดเผย ทำให้ภาพลักษณ์เขาเสียหายอย่างแรง สิ่งที่เขาทำคือออกมายอมรับผิดและขอโทษ พร้อมกับยืนยันว่าตัวตนเขาในวันนี้ไม่เหมือนในอดีตอีกต่อไป



    ย้อนกลับมาที่เหตุการณ์ซักเคอร์เบิร์กขอซื้อกิจการในราคา 3,000 ล้านดอลลาร์ฯ สร้างความกังขาอย่างมากว่าเหตุใดอีแวนจึงปฏิเสธข้อเสนอนั้น 



    “เวลาทำในสิ่งที่รัก อย่าปล่อยให้คนอื่นมาสกัดกั้น ไม่ว่าจะทำอะไร เรามักถูกวิจารณ์อยู่แล้ว ดังนั้น มองหาสิ่งที่สำคัญสำหรับเรา สิ่งที่เรารัก สร้างมันขึ้นมา แล้วคุณจะรู้สึกไม่อยากขายมันให้ใคร มีไม่กี่คนในโลกนี้หรอกที่สามารถสร้างธุรกิจได้แบบนี้ ผมคิดว่าการแลกเปลี่ยนเพื่อผลประโยชน์ระยะสั้นเป็นอะไรที่ไม่น่าสนใจเอาซะเลย” นั่นเป็นคำพูดจากปากอีแวน 


    บรรดานักวิเคราะห์ในแวดวงไอทีมองว่า ที่ซักเคอร์เบิร์กอยากได้ SnapChat ถึงขั้นบินไปคุยกับอีแวนถึงสองครั้งสองคราเป็นเรื่องของการทำสงครามช่วงชิงกลุ่มยูสเซอร์ที่เป็นวัยรุ่น ในขณะที่กลุ่มผู้ใช้ SnapChat มีอายุเฉลี่ย 18 ปี อายุเฉลี่ยของผู้ใช้เฟซบุ๊กคือ 40 ปี และจำนวนวัยรุ่นที่ใช้เฟซบุ๊กก็เริ่มลดน้อยลง 


    นอกจากแต้มต่อที่เหนือกว่า หลายคนเชื่อว่าการบอกปัดข้อเสนอจากเฟซบุ๊กเป็นผลจากความหยิ่งผยองอันโง่งมเพราะอยากเป็นที่จดจำในสังคม ท้ายที่สุดโลกก็ได้จารึกไว้สมตามเจตนารมณ์ของอีแวนในการเป็นมหาเศรษฐีอายุน้อยสุดในโลกที่ปฏิเสธการซื้อ-ขายธุรกิจมูลค่าสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติการณ์
    


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลเพื่อความสำเร็จของธุรกิจ SME (เอสเอ็มอี)

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

อย่างอาร์ต! MAMAD แบรนด์แฟชั่น X ศิลปะ วาดลวดลายสไตล์ Semi Abstract สร้างความแปลก ออกแบบ “ศิลปะที่สวมใส่ได้”

“Me As My Art Daily” ศิลปะคือส่วนหนึ่งของตัวตนเราในทุกวัน คือนิยามของแบรนด์แฟชั่นสุดอาร์ตอย่าง MAMAD ที่นำเอาศิลปะและแฟชั่นมาผสานกัน กลายเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า และหมวกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ความแปลกตา และสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร

เค้กหรือมายากล!? ไอเดียสุดแหวก! เมื่อ “ราเมน” กลายเป็นเค้ก

Bob The Baker Boy ร้านเค้กในสิงคโปร์ทำให้คำว่า “เค้ก” เปลี่ยนไปตลอดกาล จาก "หน้าตา" เค้กที่แทบทุกคนเห็นแล้วต้องหยิบมือถือขึ้นมาถ่าย! ไอเดียแบบนี้เกิดจากความตั้งใจของเมย์ ฟง เจ้าของร้านสุดครีเอทีฟ

ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด ฉบับทายาทรุ่น 3 จาก 3 แบรนด์เก๋า หอยนางรม-น่ำเอี๊ยง-เด็กสมบูรณ์

ธุรกิจครอบครัวที่ผ่านรุ่น 3 ไปได้ต้องทำอย่างไร ? เราจะพาไปดูวิธี ‘ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด’ จาก 3 แบรนด์เก๋า: หอยนางรม - น่ำเอี๊ยง - เด็กสมบูรณ์" ​ ที่ไม่เพียงรักษามรดกครอบครัวไว้ แต่ยังสร้างโอกาสใหม่ๆ อีกด้วย ​