เผย 3 กากอุตสาหกรรมมีค่านับล้านหนุนเอกชนหันมา Recycle



           กรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม หนุนเอกชนนำกากกลับมาสร้างมูลค่าเพิ่ม เผย 3 กากอุตสาหกรรม ที่สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ ได้แก่ อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม อุตสาหกรรมผลิตเซรามิก อิฐ กระเบื้องสำหรับงานก่อสร้าง และ อุตสาหกรรมผลิตกระแสไฟฟ้า โดยกากอุตสาหกรรมดังกล่าวสามารถเพิ่มศักยภาพในการใช้ประโยชน์เชิงอุตสาหกรรมได้ ทั้งนี้ในปี 2560 กรมโรงงานฯ ได้ดำเนินนำร่องให้ 37 โรงงานนำกากกลับมาใช้ใหม่ และคาดว่าจะสามารถลดปริมาณของเสียที่ขออนุญาตนำไปฝังกลบกว่า 2,800 ตัน สามารถสร้างมูลค่ากว่า 17.3 ล้านบาท 



           นายมงคล พฤกษ์วัฒนา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวว่า ในปัจจุบันภาคอุตสาหกรรมมีการขยายกิจการเพิ่มขึ้น และเป็นส่วนสำคัญในการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงปริมาณของเสียที่เกิดขึ้นจากการประกอบกิจการก็ย่อมมีปริมาณที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ปริมาณของเสียทั้งหมดที่ขออนุญาตนำออกนอกบริเวณโรงงานในแต่ละปีจะเห็นว่ามีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน


           โดยสัดส่วนของปริมาณของเสียที่ขออนุญาตนำไปกำจัดด้วยวิธีฝังกลบระหว่างปี 2549 – 2559 อยู่ระหว่าง ร้อยละ 7.1 – 10.0 ของปริมาณของเสียทั้งหมดที่ขออนุญาตนำออกนอกบริเวณโรงงานในแต่ละปี กรมโรงงานอุตสาหกรรมจึงได้ดำเนินโครงการส่งเสริมการใช้ประโยชน์กากของเสียเป็นไปตามนโยบายการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อเพิ่มศักยภาพการใช้ประโยชน์กากของเสีย ส่วนหนึ่งจะทำให้ปัญหาการลักลอบทิ้งของเสียลดลง ค่าใช้จ่ายในการกำจัดลดลง มูลค่าของเสียเพิ่มขึ้น เป็นการเพิ่มโอกาสในการแข่งขันทางการค้า สนับสนุนให้เกิดธุรกิจรักษ์สิ่งแวดล้อม และการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน



           นายมงคล กล่าวอีกว่า กรมโรงงานอุตสาหกรรมจึงได้เร่งศึกษาและส่งเสริมสนับสนุนให้โรงงานอุตสาหกรรมเล็งเห็นถึงความสำคัญของการนำกากของเสียอุตสาหกรรมกลับมาใช้ประโยชน์หรือใช้ซ้ำตามหลัก 3Rs ได้แก่ Reduce Reuse และRecycle โดยพบว่าตัวอย่างกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีกากของเสียและสามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้แก่



           1.อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ผู้ประกอบการสามารถนำกากตะกอนจากระบบบำบัดน้ำเสียและเศษเหลือจากกระบวนการจากโรงงานผลิตอาหารมาทำเป็นเชื้อเพลิงอัดแท่ง หรือนำเศษวัตถุดิบจากการผลิตและกากตะกอนน้ำเสียมาผลิตเป็นปุ๋ยอินทรีย์ หรือนำน้ำเสียไปผลิตก๊าซชีวภาพเพื่อนำไปปั่นไฟฟ้าใช้ภายในโรงงาน นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ที่ขนาดรูปร่างไม่ได้มาตรฐานสามารถไปขายเป็นอาหารสัตว์เพื่อเพิ่มรายได้กับโรงงาน 

           โดยในปี 2559 ที่ผ่านมาอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มมีการส่งกากตะกอนจากระบบบำบัดน้ำเสียไปกำจัดด้วยการฝังกลบ ปริมาณมากกว่า 36,000 ตัน ซึ่งหากนำกากตะกอนน้ำเสียดังกล่าวไปใช้เป็นส่วนผสมในการทำปุ๋ยอินทรีย์หรือสารปรับปรุงดิน และจำหน่าย จะสามารถสร้างมูลค่าได้มากกว่า 127 ล้านบาท และสามารถลดปริมาณการปลดปล่อยก๊าซมีเทนจากการฝังกลบลงได้ประมาณ 20,000 ตันต่อปี


           2. อุตสาหกรรมผลิตเซรามิก อิฐ กระเบื้องสำหรับงานก่อสร้าง ผู้ประกอบการสามารถนำเศษกระเบื้องแตก อิฐทนไฟ และกากตะกอนจากระบบบำบัดน้ำเสียที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกลับมาใช้เป็นวัตถุดิบทดแทนในกระบวนการผลิต ในส่วนของน้ำที่มีการปนเปื้อนสีจากกระบวนการพ่นสีให้นำไปตกตะกอนและนำน้ำที่ผ่านการบำบัดแล้วกลับมาใช้ใหม่ในกระบวนการพ่นสีเพื่อลดการใช้น้ำ 


           โดยในปี 2559 อุตสาหกรรมผลิตเซรามิก อิฐ กระเบื้องสำหรับงานก่อสร้าง มีการขออนุญาตนำกากจำพวกกากตะกอนน้ำเสีย เศษอิฐ กระเบื้อง หรือวัตถุดิบ ออกนอกโรงงานกว่า 230,000 ตัน โดยขอนำไปฝังกลบเพียง 250 ตัน คิดเป็นเพียงร้อยละ 0.1 ของปริมาณที่ขออนุญาตนำออกนอกโรงงาน กากของเสียส่วนใหญ่จึงถูกนำไปใช้ประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ เช่น นำกลับไปบดย่อยเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบทดแทน หรือนำไปปรับสภาพพื้นที่ลุ่มเพื่อใช้ประโยชน์ สามารถลดต้นทุนการผลิตโดยรวมได้ เมื่อเทียบกับการนำไปฝังกลบ


           3.อุตสาหกรรมผลิตกระแสไฟฟ้า จากการกระบวนการผลิตกระแสไฟฟ้าที่จะต้องมีการเผาถ่านหินหรือชีวมวลมักจะก่อให้เกิดเถ้าลอยและเถ้าหนัก ส่วนหนึ่งก็จะนำเอาเถ้าลอยไปใช้ทดแทนซีเมนต์ในงานคอนกรีตต่างๆ และเถ้าหนัก สามารถนำไปบดแปรรูปทำเป็นอิฐ หรือ วัสดุแทนทรายในงานปรับพื้นที่หรือถนนได้ ทั้งนี้ ต้องมีผลวิเคราะห์และนำกากดังกล่าวไปพิสูจน์แล้วว่าไม่เป็นของเสียอันตรายก่อนนำกลับมาใช้ประโยชน์

           โดยในปี 2559 โรงไฟฟ้าที่ใช้ถ่านหินหรือชีวมวลเป็นเชื้อเพลิง มีการขออนุญาตนำเถ้าหนักและเถ้าลอยที่ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าไม่เป็นของเสียอันตรายออกนอกโรงงานมากกว่า 3 ล้านตัน ตัน โดยขอนำไปฝังกลบเพียง 8,620 ตัน คิดเป็นเพียงร้อยละ 0.3 ของปริมาณที่ขออนุญาตนำออกนอกโรงงาน โดยเฉพาะเถ้าลอยจากโรงไฟฟ้าถ่านหินสามารถส่งออกไปใช้สร้างเขื่อนในประเทศเพื่อนบ้านอาเซียนกว่า 330,00 ตัน คิดเป็นร้อยละ 14 ของปริมาณเถ้าลอยที่ขออนุญาตนำออกนอกโรงงาน สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศได้มากกว่า 700 ล้านบาท



          ทั้งนี้ กระบวนการที่กล่าวไปข้างต้นเป็นแค่ส่วนหนึ่งในโครงการพัฒนาศักยภาพการใช้ประโยชน์กากของเสียที่มุ่งเน้นในการลดปริมาณกากอุตสาหกรรมที่ต้องฝังกลบ เพิ่มศักยภาพในการลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มมูลค่าของกากอุตสาหกรรมให้มีขีดสามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้อีกครั้ง ซึ่งกรมโรงงานอุตสาหกรรมได้ดำเนินโครงการพัฒนาศักยภาพการใช้ประโยชน์กากของเสียอย่างต่อเนื่อง ผลักดันให้ความรู้และความเข้าใจและเพิ่มขีดความสามารถในการนำกากอุตสาหกรรมไปใช้ประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ โดยได้นำร่องให้ โรงงานเข้าร่วมโครงการฯ ดังกล่าวในปี 2560 จำนวน 37 โรง สามารถสร้างมูลค่ากว่า 17.3 ล้านบาท และคาดว่าจะสามารถลดปริมาณของเสียที่ขออนุญาตนำไปฝังกลบกว่า 2,800 ตัน นายมงคล กล่าวสรุป


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

เกือบหลับ แต่กลับมาเป็นธุรกิจร้อยล้าน Plantae - La Glace 2 แบรนด์รุ่นใหม่ใจถึงทำถึง

Plantae และ La Glace สองแบรนด์รุ่นใหม่คือ ตัวอย่างของผู้ที่ไม่ยอมแพ้ ทั้งคู่ต่ายเคยตกอยู่ในวิกฤต แต่ด้วยแพชชันและการปรับตัวที่รวดเร็ว พวกเขากลับมาสร้างรายได้ระดับร้อยล้านได้สำเร็จ

อย่างอาร์ต! MAMAD แบรนด์แฟชั่น X ศิลปะ วาดลวดลายสไตล์ Semi Abstract สร้างความแปลก ออกแบบ “ศิลปะที่สวมใส่ได้”

“Me As My Art Daily” ศิลปะคือส่วนหนึ่งของตัวตนเราในทุกวัน คือนิยามของแบรนด์แฟชั่นสุดอาร์ตอย่าง MAMAD ที่นำเอาศิลปะและแฟชั่นมาผสานกัน กลายเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า และหมวกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ความแปลกตา และสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร

เค้กหรือมายากล!? ไอเดียสุดแหวก! เมื่อ “ราเมน” กลายเป็นเค้ก

Bob The Baker Boy ร้านเค้กในสิงคโปร์ทำให้คำว่า “เค้ก” เปลี่ยนไปตลอดกาล จาก "หน้าตา" เค้กที่แทบทุกคนเห็นแล้วต้องหยิบมือถือขึ้นมาถ่าย! ไอเดียแบบนี้เกิดจากความตั้งใจของเมย์ ฟง เจ้าของร้านสุดครีเอทีฟ