ยกระดับ OTOP เป็น OnTOP ต่อยอดธุรกิจชุมชนสู่ตลาดโลก

 


             กระทรวงพาณิชย์ พร้อมสร้างความแข็งแกร่งให้ผู้ประกอบธุรกิจโอทอปไทยก้าวสู่ความเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น เตรียมยกระดับธุรกิจโอทอปให้เป็นธุรกิจออนทอป ขยายช่องทางการตลาดให้มีความหลากหลาย สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด สนองรับนโยบายรัฐบาลในการสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานราก (Local Economy)


             นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เผยถึงการดำเนินงานตามแนวนโยบายประชารัฐด้วยเป้าหมายการสร้างเศรษฐกิจฐานราก คือ การสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชน สร้างความเป็นอยู่ที่ดี สามารถประกอบอาชีพและผลิตสินค้าหรือบริการที่มีมูลค่าเพิ่มก่อให้เกิดรายได้ที่มั่นคง และเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายที่รัฐบาลให้ความสำคัญ โดยกระทรวงพาณิชย์ได้บูรณาการการทำงานร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงสาธารณสุข และภาคเอกชน เพื่อผลักดันผลิตภัณฑ์โอทอปที่มีศักยภาพและได้รับการคัดเลือกเป็นโอทอปซีเล็กซ์ (OTOP Select) กว่า 1,500 รายการ ให้สามารถเข้าสู่ตลาดได้ในเชิงพาณิชย์อย่างยั่งยืน


 
             สำหรับแนวทางการพัฒนาต้องดำเนินการอย่างครบวงจร ตั้งแต่การพัฒนารูปแบบของผลิตภัณฑ์ให้ตรงตามความต้องการของตลาด และพัฒนาให้เป็นผู้ประกอบการที่เข้าใจตลาด เรียนรู้การทำธุรกิจ การใช้ความคิดสร้างสรรค์ ตลอดจนการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการสร้างความแตกต่างและสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้า รวมถึงนำการตลาดดิจิทัล (Digital Marketing) เข้ามาช่วยในการบริหารจัดการธุรกิจ จึงได้มอบหมายกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเข้าไปส่งเสริมให้ความรู้ และพัฒนาผู้ประกอบการโอทอป ในการประกอบธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์ การจัดทำร้านค้าออนไลน์ การเชื่อมโยงระบบการขนส่ง โลจิสติกส์ และการชำระเงิน รวมถึงการทำการตลาดออนไลน์ เพื่อให้สามารถจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งส่งเสริมการเข้าสู่ตลาดกลางออนไลน์การเรียนรู้ผ่าน www.Thaicommercestore.com และ www.Thaitrade.com เพราะการตลาดออนไลน์ถือเป็นช่องทางสำคัญที่ช่วยเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจ และทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน

 


 
             จากการดำเนินงานในระยะแรก กระทรวงฯ ได้มีการหารือร่วมกับผู้ประกอบการห้างค้าปลีก เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เดอะมอลล์ ท็อปซุปเปอร์มาร์เก็ต ห้างค้าปลีก บิ๊กซี โลตัส สยามเจมส์กรุ๊ป นารายภัณฑ์
ในการนำสินค้าเข้าไปวางจำหน่ายในพื้นที่ รวมถึงผลักดันให้ออกไปจำหน่ายในต่างประเทศ ด้วยการร่วมมือกับคิงพาวเวอร์ นำสินค้าเข้าไปวางจำหน่ายในพื้นที่ดิวตี้ฟรีของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและภูเก็ต ที่มียอดจำหน่ายปีละไม่น้อยกว่า 80 ล้านบาท จึงทำให้มีการหารือเพิ่มเติมกับสนามบินดอนเมือง เชียงใหม่และอู่ตะเภา เพื่อนำสินค้าเข้าไปวางจำหน่ายและขยายการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในวงกว้างมากขึ้น


 
             นอกจากนี้ได้เพิ่มศูนย์กลางการกระจายผลิตภัณฑ์โอทอป ผ่านร้านค้าส่ง-ปลีกทั่วประเทศที่ได้รับการพัฒนาจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า อาทิ ห้างสหไทย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ห้างเดอะสกาย จังหวัดพระนครศรีอยุธยาห้างสมรไพบูลย์ จังหวัดสมุทรสงคราม และอีก 70 จังหวัด จำนวน 130 ร้านค้า ให้เป็นศูนย์กลางช่วยกระจายสินค้าไปสู่ผู้บริโภค โดยในปี 2560 มีเป้าหมายเชื่อมโยงการพัฒนาด้านการบริหารจัดการร้านค้าปลีกชุมชนให้เป็นศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน และรวบรวมสู่ร้านค้าส่ง-ปลีกในระดับจังหวัด จำนวน 46 จังหวัด 60 ร้านค้า และ 5,000 ร้านค้าปลีกชุมชน โดยคาดว่าจะมียอดจำหน่ายปีละไม่น้อยกว่า 120 ล้านบาท

 
             ทั้งนี้ ข้อมูลจากกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย พบว่าในปี 2559 ยอดจำหน่ายสินค้าโอทอปไทยสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ถึง 1.252 แสนล้านบาท และคาดว่าในปี 2560 ยอดจำหน่ายสินค้าโอทอปจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 หรือคิดเป็น 1.377 แสนล้านบาท ดังนั้นการพัฒนาศักยภาพตลาดโอทอปไทยจะประสบความสำเร็จได้ตามเป้าหมายของรัฐบาล ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องร่วมมือกันอย่างจริงจังและต่อเนื่อง จะทำให้สินค้าโอทอปไทยเติบโตได้อย่างยั่งยืน รวมถึงสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศ



www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

อย่างอาร์ต! MAMAD แบรนด์แฟชั่น X ศิลปะ วาดลวดลายสไตล์ Semi Abstract สร้างความแปลก ออกแบบ “ศิลปะที่สวมใส่ได้”

“Me As My Art Daily” ศิลปะคือส่วนหนึ่งของตัวตนเราในทุกวัน คือนิยามของแบรนด์แฟชั่นสุดอาร์ตอย่าง MAMAD ที่นำเอาศิลปะและแฟชั่นมาผสานกัน กลายเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า และหมวกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ความแปลกตา และสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร

เค้กหรือมายากล!? ไอเดียสุดแหวก! เมื่อ “ราเมน” กลายเป็นเค้ก

Bob The Baker Boy ร้านเค้กในสิงคโปร์ทำให้คำว่า “เค้ก” เปลี่ยนไปตลอดกาล จาก "หน้าตา" เค้กที่แทบทุกคนเห็นแล้วต้องหยิบมือถือขึ้นมาถ่าย! ไอเดียแบบนี้เกิดจากความตั้งใจของเมย์ ฟง เจ้าของร้านสุดครีเอทีฟ

ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด ฉบับทายาทรุ่น 3 จาก 3 แบรนด์เก๋า หอยนางรม-น่ำเอี๊ยง-เด็กสมบูรณ์

ธุรกิจครอบครัวที่ผ่านรุ่น 3 ไปได้ต้องทำอย่างไร ? เราจะพาไปดูวิธี ‘ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด’ จาก 3 แบรนด์เก๋า: หอยนางรม - น่ำเอี๊ยง - เด็กสมบูรณ์" ​ ที่ไม่เพียงรักษามรดกครอบครัวไว้ แต่ยังสร้างโอกาสใหม่ๆ อีกด้วย ​