​O&B กับเส้นทางธุรกิจที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ

  Text : กองบรรณาธิการ



     
          
     รองเท้าส้นแบน หลากสี คือ ความต่างที่ รรินทร์ ทองมา นำมาใช้สร้าง O&B ให้กลายเป็นแบรนด์ดังบนโลกออนไลน์ ความที่ชอบรองเท้าแนวนี้มาแต่ไหนแต่ไร และมักซื้อเก็บสะสมไว้ตั้งแต่ยี่ห้อดังราคาแพง ไปจนถึงโนเนมราคาร้อยกว่าบาท ทำให้รู้ลึกรู้จริงเกี่ยวกับตัวสินค้า เมื่อนำมาบวกกับความช่างสังเกตมองเห็นว่าผู้หญิงไทยส่วนใหญชอบใส่รองเท้าส้นแบนลุยงาน จึงทำให้การตลาดของ O&B ชัดเจนชนิดที่เรียกว่าปูทางสู่ความสำเร็จ


     กระนั้น การตลาดเพียงอย่างเดียวยังไม่ใช่คำตอบในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ เพราะยังมีปัจจัยอีกมากหลาย ดังนั้นแม้สินค้าจะได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว และมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่กลับไม่ได้สร้างผลกำไรให้กับผู้เป็นเจ้าของเลย
 

     ด้วยความที่จบมาทางด้านดีไซน์ มีความรู้เรื่องแฟชั่น ทำสินค้าออกมาแล้วมีคนชอบและขายของได้ ทำให้เธอสนุกกับการขายจนหลงลืมไปว่างานด้านการบริหารการเงินก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน
 

     เพียงปีแรกของการเริ่มต้นธุรกิจ เงินหลักแสนหมุนเวียนเข้ามาในบัญชีทุกวัน พร้อมกับยอดออร์เดอร์ที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง นั่นทำให้รรินทร์เชื่อว่าธุรกิจของเธอกำลังไปได้สวย กระทั่งสิ้นปีมาสรุปยอดบัญชี เงินเหลือเพียงแค่ 4,000 บาท เธอถึงได้รู้ตัวว่าความเหนื่อยยากที่ทุ่มเทมาตลอดทั้งปีไม่มีค่าอะไรเลย
 

     ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ แม้จะขายดีแต่เธอขายได้น้อยไป ทำให้ไม่คุ้มกับต้นทุนที่เกิดขึ้น
    
   
   
     
     เมื่อรู้ว่าปัญหามาจากต้นทุน เธอตัดสินใจเพิ่มทุน เพิ่มสต๊อกสินค้า ซึ่งไม่เพียงทำให้ต้นทุนถูกลง แต่ยังทำให้เธอมีอำนาจในการต่อรองกับโรงงานได้มากขึ้น ขณะที่ต้นทุนคงที่ต่างๆ ก็ถูกลง ที่สำคัญคือ เธอถือโอกาสเพิ่มรองเท้าสีสรรต่างๆ กว่า 50 เฉดสี ในแต่ละแบบ ทำให้ O&B มี Signature ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น และเป็นจุดขายที่ทำให้รองเท้าติดตลาดมาจนถึงทุกวันนี้ รรินทร์บอกว่าสีที่เลือกมาทั้งหมด เธอจะลองกับผิวคนไทยก่อนเพื่อให้เข้ากับการแต่งตัวของลูกค้าให้ได้มากที่สุด ซึ่งเป็นเคล็ดลับที่ทำให้รองเท้าทรงเรียบหรูหลากสีของ O&B ได้รับความนิยม
 

     เพียงแค่เปลี่ยนความคิด จากสิ่งที่มองว่าเป็นไปไม่ได้ แล้วทำให้เป็นไปได้ ธุรกิจของรรินทร์ก็ก้าวข้ามอุปสรรคและเดินหน้าต่อไปยังเป้าหมายใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม นั่นคือยกระดับเป็นร้านแอสเซสเซอรี่ออนไลน์ที่จะโตไปเป็น Zara of Asia สาวเจ้าของแบรนด์ O&B บอกว่าเมืองไทยมีทั้งโรงงาน และดีไซเนอร์เก่งๆ  แถมข้อดีของการขายของออนไลน์ คือสามารถยิงโฆษณาตรงไปต่างประเทศได้เลย จึงเป็นโอกาสที่ O&B จะไปเติบโตในต่างแดนได้ในอนาคต โดยก่อนหน้านี้เธอมีส่งสินค้าไปชิมลางที่ตลาดเพื่อนบ้านหลายแห่ง อาทิ ลาว กัมพูชา เวียดนาม พม่า สิงคโปร์ และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทำให้มีกำลังใจในการขยายงานต่อ โดยวางแผนสำรวจตลาดประเทศต่างๆ เพื่อหาแนวทางการทำตลาดให้เหมาะสมกับแต่ละประเทศ และล่าสุดกำลังอยู่ระหว่างเจรจาร่วมทุนกับพาร์ทเนอร์ชาวดูไบ
 

     รรินทร์มองว่าการค้าขายบนโลกออนไลน์ในปัจจุบันยังมีมูลค่าไม่มากนัก แทบเรียกได้ว่าเป็นแค่เศษเสี้ยวของตลาดทั้งหมดด้วยซ้ำ ในอนาคตทุกอย่างจะมาอยู่บนโลกออนไลน์ การค้าขายไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้าน ซึ่งการไม่มีหน้าร้านทำให้ผู้บริโภคได้รับผลประโยชน์เต็มๆ เพราะไม่มีต้นทุนให้ต้องมาเพิ่มราคาสินค้า ลูกค้าซื้อของคุณภาพเท่าเดิมในราคาถูกลง
 

     จากวันเริ่มต้นด้วยเงินเพียง 90,000 บาท วันนี้ O&B มีตัวเลขยอดขายหลักล้าน แต่ละวันมีข้อความไลน์เข้ามาสอบถามถึงสินค้ากว่า 500 ข้อความ และเคยพีคสุดถึงกว่า 3,000 ข้อความในช่วงจัดโปรโมชั่น ความสำเร็จอย่างงดงามในวันนี้ รรินทร์บอกว่าจะมีขึ้นไม่ได้เลยหากเธอไม่ก้าวผ่านความยากลำบากในวันแรกของการเริ่มต้น
 

     ปัจจุบันนอกจากกระเป๋า รองเท้าแล้ว รรินทร์เริ่มผลิตเสื้อผ้าออกมาวางขายภายใต้ชื่อแบรนด์ O&B เช่นกัน เธอบอกว่าตั้งใจจะให้มีสินค้าครบวงจร เพื่อเตรียมเติบโตไปเป็นแบรนด์ระดับโลก โดยเธอเชื่อว่าหากทำสำเร็จ O&B จะไม่ใช่ความภาคภูมิใจของเธอคนเดียว แต่จะเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ 





www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี




 

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

อย่างอาร์ต! MAMAD แบรนด์แฟชั่น X ศิลปะ วาดลวดลายสไตล์ Semi Abstract สร้างความแปลก ออกแบบ “ศิลปะที่สวมใส่ได้”

“Me As My Art Daily” ศิลปะคือส่วนหนึ่งของตัวตนเราในทุกวัน คือนิยามของแบรนด์แฟชั่นสุดอาร์ตอย่าง MAMAD ที่นำเอาศิลปะและแฟชั่นมาผสานกัน กลายเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า และหมวกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ความแปลกตา และสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร

เค้กหรือมายากล!? ไอเดียสุดแหวก! เมื่อ “ราเมน” กลายเป็นเค้ก

Bob The Baker Boy ร้านเค้กในสิงคโปร์ทำให้คำว่า “เค้ก” เปลี่ยนไปตลอดกาล จาก "หน้าตา" เค้กที่แทบทุกคนเห็นแล้วต้องหยิบมือถือขึ้นมาถ่าย! ไอเดียแบบนี้เกิดจากความตั้งใจของเมย์ ฟง เจ้าของร้านสุดครีเอทีฟ

ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด ฉบับทายาทรุ่น 3 จาก 3 แบรนด์เก๋า หอยนางรม-น่ำเอี๊ยง-เด็กสมบูรณ์

ธุรกิจครอบครัวที่ผ่านรุ่น 3 ไปได้ต้องทำอย่างไร ? เราจะพาไปดูวิธี ‘ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด’ จาก 3 แบรนด์เก๋า: หอยนางรม - น่ำเอี๊ยง - เด็กสมบูรณ์" ​ ที่ไม่เพียงรักษามรดกครอบครัวไว้ แต่ยังสร้างโอกาสใหม่ๆ อีกด้วย ​