ธุรกิจการศึกษาโตแรง! The Edge Learning Center ลุยแฟรนไชส์ศึกษาต่อต่างประเทศ







      เมื่อธุรกิจการศึกษากำลังมาแรง บวกกับการที่ประเทศไทยเองยังมีโอกาสอีกมากในการยกระดับการศึกษาให้กับเด็กๆ ในประเทศ ด้วยเหตุนี้ The Edge Learning Center ศูนย์การเรียนรู้ กวดวิชาเพื่อสอบเข้าสถาบันในมหาวิทยาลัยชั้นนำในสหรัฐอเมริกา อังกฤษและแคนาดาจากฮ่องกง จึงเล็งเห็นโอกาสเพื่อขยายสาขาและเพิ่มโอกาสการศึกษาต่อในต่างประเทศ


     “เทรนด์การไปศึกษาต่อต่างประเทศนั้นมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง หลายปีก่อนคนอาจพาครอบครัวไปอเมริกาไม่มากนัก แต่ด้วยรายได้ของคนในเอเชียที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะครอบครัวของชนชั้นกลางระดับบน (Upper-middle class) ส่งผลให้คนเหล่านี้มีความต้องการที่จะส่งลูกหลานไปเรียนยังต่างประเทศมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนประจำหรือมหาวิทยาลัยก็ตาม เช่นเดียวกันกับรายได้ของประชากรไทยที่เพิ่มขึ้น ความต้องการของครอบครัวชนชั้นกลางระดับบนที่จะส่งลูกหลานไปเรียนต่อในต่างประเทศก็เพิ่มขึ้นตามด้วย ไม่ว่าจะเป็นอเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย หรือแคนาดา”



Cr: The Edge Learning Center


     Duc Luu CEO The Edge Learning Center เผยถึงแนวโน้มความต้องการศึกษาต่อต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น พร้อมบอกด้วยว่า การสอบเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยหรือสถาบันการศึกษาชั้นนำในต่างประเทศนั้น ต้องอาศัยการมีเกรดและคะแนนสอบที่ดี ทางแบรนด์จึงเข้ามาแก้ไขปัญหาตรงจุดนี้ โดยการเพิ่มประสิทธิภาพและความรู้ให้แก่ผู้เรียนทั้งยังให้คำปรึกษาและแนะแนวทางที่เหมาะสมกับเด็กนักเรียนอีกด้วย


     ทั้งนี้ สถาบัน The Edge Learning Center จะใช้โมเดลที่แตกต่างในการช่วยให้นักเรียนสามารถสอบติดสถาบันการศึกษาชั้นนำในต่างประเทศที่ต้องการได้ โดยอาศัย 3 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ การให้คำปรึกษาเรื่องการเรียน  การฝึกทำข้อสอบ และการสอนหรือกวดวิชา



Cr: The Edge Learning Center


     “เมื่อคุณไปสมัครเรียนที่มหาวิทยาลัยหรือโรงเรียนประจำในต่างประเทศอย่างในอเมริกา สถาบันเหล่านั้นจะสนใจแค่ว่าคุณได้เกรดเท่าไหร่และคะแนนสอบเป็นยังไง ดังนั้นสถาบันของเราจึงเข้ามาทำการแก้ปัญหาตรงนี้ เรามีที่ปรึกษาคอยดูแลพัฒนาการของเด็กอย่างน้อย 6 เดือน - 1 ปี เปรียบเสมือนเป็นพ่อแม่คนที่ 3 ที่รู้เรื่องของเด็กเหมือนกับพ่อแม่ที่แท้จริงและสามารถปูทางที่ถูกต้องให้เด็กได้”


     เพราะการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญและต้องใส่ใจในตัวผู้เรียน ดังนั้น ผู้ที่จะเข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์หรือแฟรนไชส์ซีกับทางแบรนด์นั้นต้องมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องของระบบการศึกษาเพื่อให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างราบรื่น





     “เรากำลังมองหาแฟรนไชส์ซีที่มีความรู้เรื่องการทำธุรกิจอย่างดีเยี่ยม เพื่อที่จะเข้าใจถึงการทำธุรกิจแบบแฟรนไชส์และการดำเนินการต่างๆ รวมถึงต้องมีความสนใจที่จะเรียนรู้การทำธุรกิจของสถาบันการศึกษา เพราะการศึกษาถือเป็นธุรกิจที่มีความเฉพาะตัว ไม่เหมือนกับการทำธุรกิจอื่นๆ อย่างอาหารและเครื่องดื่ม ดังนั้นเราจึงต้องการคนที่มีทักษะที่แตกต่างเพื่อทำความเข้าใจในธุรกิจนี้ได้ โดยจะเป็นประโยชน์อย่างมาก ถ้าพาร์ทเนอร์นั้นมีความเข้าใจระบบการศึกษาของต่างประเทศอย่างอเมริกา เนื่องจากระบบการศึกษาของไทย อังกฤษหรืออเมริกานั้นไม่เหมือนกัน จึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับพาร์ทเนอร์ที่อย่างน้อยควรมีความสนใจหรือเคยใช้ชีวิตอยู่ในอเมริกา”





     ด้าน Lily Choi Director of Operations ของสถาบัน The Edge Learning Center กล่าวเสริมว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาสถิตินักเรียนจากสถาบันของเราที่สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้นั้นถือว่าดีมาก โดยเฉพาะทสามารถสอบเข้าไอวีลีก (Ivy League) หรือกลุ่มมหาวิทยาลัยเอกชนในอเมริกาที่มีชื่อเสียงอย่างมากในด้านคุณภาพการศึกษาที่ดีเยี่ยมได้ นอกจากนี้ อาจารย์ของเรายังมีการพัฒนาเนื้อหาที่เรียนและกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อที่จะทำให้นักเรียนของเรานั้นได้คะแนนที่สูงขึ้นอีกด้วย  
   

     “จุดมุ่งหมายของเราคือการเป็นสถาบันกวดวิชาที่ช่วยนักเรียนให้ได้คะแนนสูงในการสอบเข้าไม่เพียงแค่มหาวิทยาลัยเท่านั้นแต่ยังครอบคลุมไปถึงการสอบเข้าโรงเรียนประจำอีกด้วย โดยประเทศไทยนั้นถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง โดยมีการคาดการณ์ว่าภายใน 5 ปีข้างหน้าจะมีโรงเรียนนานาชาติมากกว่า 10 โรงเรียนเปิดทำการเรียนการสอนในประเทศไทย ดังนั้นจำนวนนักเรียนก็ต้องเพิ่มมากขึ้นและแนวโน้มที่จะไปเรียนต่อที่อเมริกาและอังกฤษก็จะมีมากขึ้นตามไปด้วย”



     

     เพราะคนส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจว่าควรจะเลือกเข้ามหาวิทยาลัยอย่างไร โดยจะโฟกัสไปที่แบรนด์หรือชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยเท่านั้น Choi บอกว่า ด้วยเหตุนี้ทางแบรนด์จึงตั้งเป้าไปที่การช่วยให้นักเรียนได้เข้าศึกษาในสถาบันที่มีความเหมาะสมกับตัวผู้เรียนโดยไม่จำเป็นต้องเป็นโรงเรียนชั้นนำเท่านั้นแต่ต้องเป็นโรงเรียนที่เหมาะสมกับพวกเขา


     “เราต้องการให้แฟรนไชส์ซีเห็นถึงคุณค่าของการช่วยนักเรียนให้สอบเข้าโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยที่ดีได้ ซึ่งไม่ใช่แค่โรงเรียนที่ดีแต่ต้องเป็นโรงเรียนที่เหมาะกับตัวเด็กด้วย เพราะเด็กจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 - 4 ปี ในโรงเรียน ดังนั้นเด็กควรจะรักที่จะเรียนในโรงเรียนนั้น ซึ่งปัจจุบันคนส่วนใหญ่ยังให้ความสนใจไปที่การเรียนในโรงเรียนระดับชั้นนำเท่านั้นและไม่มีความรู้อย่างลึกซึ้งเรื่องของวิธีการเลือกสถาบันที่เหมาะสมสำหรับศึกษาต่อ” Choi กล่าวทิ้งท้าย
 


 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

อย่างอาร์ต! MAMAD แบรนด์แฟชั่น X ศิลปะ วาดลวดลายสไตล์ Semi Abstract สร้างความแปลก ออกแบบ “ศิลปะที่สวมใส่ได้”

“Me As My Art Daily” ศิลปะคือส่วนหนึ่งของตัวตนเราในทุกวัน คือนิยามของแบรนด์แฟชั่นสุดอาร์ตอย่าง MAMAD ที่นำเอาศิลปะและแฟชั่นมาผสานกัน กลายเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า และหมวกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ความแปลกตา และสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร

เค้กหรือมายากล!? ไอเดียสุดแหวก! เมื่อ “ราเมน” กลายเป็นเค้ก

Bob The Baker Boy ร้านเค้กในสิงคโปร์ทำให้คำว่า “เค้ก” เปลี่ยนไปตลอดกาล จาก "หน้าตา" เค้กที่แทบทุกคนเห็นแล้วต้องหยิบมือถือขึ้นมาถ่าย! ไอเดียแบบนี้เกิดจากความตั้งใจของเมย์ ฟง เจ้าของร้านสุดครีเอทีฟ

ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด ฉบับทายาทรุ่น 3 จาก 3 แบรนด์เก๋า หอยนางรม-น่ำเอี๊ยง-เด็กสมบูรณ์

ธุรกิจครอบครัวที่ผ่านรุ่น 3 ไปได้ต้องทำอย่างไร ? เราจะพาไปดูวิธี ‘ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด’ จาก 3 แบรนด์เก๋า: หอยนางรม - น่ำเอี๊ยง - เด็กสมบูรณ์" ​ ที่ไม่เพียงรักษามรดกครอบครัวไว้ แต่ยังสร้างโอกาสใหม่ๆ อีกด้วย ​