เปิดเคล็ดลับธุรกิจที่พักไซส์เล็ก “ริมคลอง” ทำยังไงให้ได้รางวัลใหญ่







      แม้จะเป็นเพียงที่พักเล็กๆ มีเพียงไม่ถึง 10 ห้อง แต่ ‘ริมคลอง บูติค โฮเทล’ ที่พักเงียบสงบแทรกตัวอยู่บนถนนหลักเมือง ย่านชุมชนเก่าบางพระ จังหวัดตราด ก็ได้รับการยอมรับจากนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ รวมถึงบุคคลมีชื่อเสียงหลายคนทั้งไทยและเทศต่างก็เคยเข้ามาใช้บริการกันแล้ว อะไรทำให้ที่พักเล็กๆ แห่งนี้กลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจ และได้รับรางวัล Travellers’ Choice 2018 จาก Trip Adviser เว็บไซต์ท่องเที่ยวชื่อดังระดับโลก ซึ่งมีเพียงที่พักไม่กี่แห่งในไทยที่จะได้รับรางวัลนี้ ลองมาฟังเคล็ดลับการทำที่พักดีๆ แบบมัดใจลูกค้าให้อยู่หมัดกับ บุญฤทธิ์ สุทธิวารี เจ้าของที่พักสุดชิคนี้กัน


     
        
     “เราเป็นที่พักขนาดเล็ก เปิดตัวมาได้ 9 ปีกว่าแล้ว สมัยที่ทำตอนนั้นโรงแรมขนาดเล็กหรือโฮเทลยังไม่เป็นที่นิยมเหมือนอย่างทุกวันนี้ แรงบันดาลใจที่ทำขึ้นมาตอนนั้น คือ อยากให้มีที่พักเล็กๆ คุณภาพดี ตกแต่งสวยๆ ในย่านเก่าตรงนี้บ้าง โดยตอนแรกเริ่มต้นทำเล็กๆ จาก 3 ห้องก่อน คิดว่าคนเดียวน่าจะดูแลได้ กลุ่มเป้าหมายที่คิดไว้ตอนนั้น คือ นักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่ปรากฏว่าเปิดได้เพียง 1 – 2 เดือน คนไทยก็เริ่มสนใจเข้ามาพักมากขึ้น มีการเอาไปรีวิวในพันทิป จากนั้นก็บอกต่อปากต่อปากทำให้กิจการของเราโตขึ้น ชนิดว่ามีกี่ห้องก็มีลูกค้า จนผ่านมา 3 ปี จึงทำเพิ่มอีก 2 ห้อง และค่อยๆ ขยายเพิ่มอีก 4 ห้องในปีที่ 5 จนถึงปัจจุบันนี้ คือ มีทั้งหมด 9 ห้อง


     ลูกค้ามีตั้งแต่นักท่องเที่ยว นักธุรกิจ ข้าราชการ ไปจนถึงบุคคลมีชื่อเสียงของเมืองนอก อาทิ นักสูดดมกลิ่นน้ำหอมของฝรั่งเศล, บรรณาธิการนิตยสาร Madame Figaro ของเมืองนอกก็เคยมาพักที่เรา ในเว็บไซต์จองห้องพักและท่องเที่ยวต่างๆ เราได้คะแนนสูงมาตลอด จนกระทั่งปีนี้เราได้รางวัล Travellers' Choice 2018 ที่พักและโรงแรมขนาดเล็กยอดเยี่ยมสูงสุด จากเว็บไซต์ Trip Adviser ซึ่งเป็นรางวัลที่ได้มายากมาก บางจังหวัดก็ไม่มีที่พักใดได้เลย หรือบางแห่งที่ได้ก็เป็นโรงแรมที่ลงทุนสูง ในจังหวัดตราดเฉพาะที่พักบนฝั่งกว่า 70 แห่ง มีเราได้เพียงที่เดียว เป็นความภาคภูมิใจของคนทำที่พักมากๆ ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้เรามาจนถึงทุกวันนี้ได้และใช้มาตลอด มีอยู่ 2 ข้อด้วยกันดังนี้”

    
       

1.หมั่นพัฒนาและแก้ไขในงานของตนเอง


     ที่โรงแรมของเรามีการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา เรามองว่างานโรงแรมเป็นงานหยุดนิ่งไม่ได้ เราเน้นความสะดวกสบายของลูกค้าเป็นสำคัญ ผลิตภัณฑ์ที่เลือกมาใช้ก็ต้องดีที่สุด โดยจะใช้เวลาช่วงหน้าโลว์ซีวั่น ตั้งแต่มิถุนายน – กันยายนมาปรับปรุงอะไรต่างๆ ให้ดีขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ด้วยความที่ที่พักเราอยู่ติดริมถนน ถึงจะเป็นชุมชนที่เงียบสงบ แต่บางทีอาจมีเสียงรบกวนจากรถราที่ผ่านไปมาบ้าง


     นอกจากประตูห้องธรรมดาหนึ่งชั้นแล้ว เราลงทุนซื้อประตูกระจกหนาจากเยอรมันมาปิดทับอีกชั้นหนึ่ง ทำให้ไม่มีเสียงดังเล็ดลอดเข้ามา แม้แต่ชักโครกบางทีไปเจอตัวที่นั่งสบายกว่า แผ่นรองดีกว่า เราก็ลงทุนซื้อมาเปลี่ยนใหม่เลย ค่อยๆ ทยอยเปลี่ยนทีละ 3 ห้อง หรือรายละเอียดเล็กๆ อย่างหมอน นอกจากปลอกหมอนแล้ว เรายังมีผ้ารองอีกชั้นหนึ่ง เผื่อบางทีลูกค้านอนน้ำลายไหลก็จะได้ไม่เลอะหมอน



   

     นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการจัดตกแต่งอื่นๆ เราพยายามปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัยด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้เราขายในราคาห้องละไม่ถึงหนึ่งพันบาท ถามว่าลงทุนเพิ่มเรื่อยๆ แบบนี้ ไม่เยอะเกินไปเหรอ เรากลับมองว่าอะไรก็ตามถ้าทำแล้วส่งเสริมให้ธุรกิจเราดีขึ้น ยังไงก็เป็นสิ่งที่ดี ทั้งทำให้งานเหมือนเอาเงินมาต่อเงิน ถ้าเรายิ่งทำดีขึ้น ลูกค้าก็จะเข้ามาหาเพิ่มมากขึ้น สิ่งเหล่านี้มันก่อประโยชน์มาก ทั้งงานสวยขึ้น ทำงานง่ายขึ้น แม่บ้านทำงานง่ายขึ้น และลูกค้าประทับใจ ใส่ทุกอย่างให้ลูกค้ารู้สึกลักซ์ชัวร์รี่ ในราคาไม่ถึงพัน
               

2.
ดูแล บริการลูกค้า
               
     สำหรับงานโรงแรมเรามองว่าสิ่งที่จะทำให้ลูกค้าประทับใจอยู่ที่ผลิตภัณฑ์หรือห้องพัก 40 % ส่วนอีก 60 % คือ งานบริการ เรามองว่าเมื่อใดก็ตามที่ลูกค้าตัดสินใจมาพักกับเรา นั่นคือ งานรับใช้ จริงๆ แล้วงานโรงแรมง่ายนิดเดียว ก็คือ เอาใจใส่ลูกค้าให้มากที่สุด เช่น การทักทายที่เป็นมิตร เป็นยังไง เดินทางมาวันนี้เหนื่อยไหม กินอะไรมาหรือยัง บางทีรู้ว่าเขายังไม่ได้กินอะไร แต่ดึกแล้ว เราก็เอาขนมไปให้





     สำหรับที่นี่หลังจากลูกค้ามาถึงแล้ว เราจะรีบพาเขาไปห้องพัก เพื่อลูกค้าจะได้พักผ่อน เสร็จแล้วจะมีแผนที่สถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหารอร่อยๆ ในละแวกใกล้ๆ นี้ให้เขา 1 แผ่น แม้บางครั้งลูกค้ามีปัญหาอะไร ถ้าเราสามารถช่วยได้ ก็จะช่วยให้มากที่สุด บ่อยครั้งที่เรามักจะได้รับคำชมจากลูกค้าเรื่องความเสียสละ


     เคยมีครั้งหนึ่งลูกค้าเป็นบก.นิตยสารของเมืองนอกมาถ่ายรูปและลืมกล้องทิ้งไว้ที่ท่าเรือบนรถเช่า เราก็ช่วยขับรถตามหาจนดึกดื่น โดยไม่ได้คิดค่าใช้จ่ายใดๆ เขาก็เกิดความประทับใจมาก และเขียนชมว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปีเลยในการเดินทางท่องเที่ยวและได้รับการช่วยเหลือที่ดีแบบนี้จากที่พัก ซึ่งเขาไม่คิดว่าจะมีคนยอมเสียสละเวลาและค่าใช้จ่ายเล็กๆ น้อยๆ เพื่อช่วยเหลือเขา ซึ่งเขาไม่เคยได้รับจากที่ไหนมาก่อนและรู้สึกประทับใจมาก สิ่งเหล่านี้ คือ การบอกต่อ และทำให้โรงแรมของเราก้าวมาได้จนทุกวันนี้ได้


     และนี่คือ 2 หัวใจหลักที่ทำโรงแรมเล็กๆ แห่งนี้สามารถมัดใจลูกค้าได้ จนกลับมาแล้ว ก็อยากกลับไปอีกอย่างไม่ต้องสงสัยเลย               


Facebook : Rimklong-Boutique-Hotel-trad



ขอขอบคุณ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
                     สีสันตะวันออก




www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

อย่างอาร์ต! MAMAD แบรนด์แฟชั่น X ศิลปะ วาดลวดลายสไตล์ Semi Abstract สร้างความแปลก ออกแบบ “ศิลปะที่สวมใส่ได้”

“Me As My Art Daily” ศิลปะคือส่วนหนึ่งของตัวตนเราในทุกวัน คือนิยามของแบรนด์แฟชั่นสุดอาร์ตอย่าง MAMAD ที่นำเอาศิลปะและแฟชั่นมาผสานกัน กลายเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า และหมวกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ความแปลกตา และสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร

เค้กหรือมายากล!? ไอเดียสุดแหวก! เมื่อ “ราเมน” กลายเป็นเค้ก

Bob The Baker Boy ร้านเค้กในสิงคโปร์ทำให้คำว่า “เค้ก” เปลี่ยนไปตลอดกาล จาก "หน้าตา" เค้กที่แทบทุกคนเห็นแล้วต้องหยิบมือถือขึ้นมาถ่าย! ไอเดียแบบนี้เกิดจากความตั้งใจของเมย์ ฟง เจ้าของร้านสุดครีเอทีฟ

ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด ฉบับทายาทรุ่น 3 จาก 3 แบรนด์เก๋า หอยนางรม-น่ำเอี๊ยง-เด็กสมบูรณ์

ธุรกิจครอบครัวที่ผ่านรุ่น 3 ไปได้ต้องทำอย่างไร ? เราจะพาไปดูวิธี ‘ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด’ จาก 3 แบรนด์เก๋า: หอยนางรม - น่ำเอี๊ยง - เด็กสมบูรณ์" ​ ที่ไม่เพียงรักษามรดกครอบครัวไว้ แต่ยังสร้างโอกาสใหม่ๆ อีกด้วย ​