Thai Fit Studio คลาสออกกำลังแนวใหม่ อ่อนช้อยอย่างนางรำ แข็งแกร่งดั่งนักกีฬา





 
 
     เราอาจจะคุ้นเคยกับการใส่เสื้อผ้ารัดรูปเพื่อความคล่องตัว ออกกำลังกายด้วยการเต้นแอโรบิก หรือซุมบ้าจนเหงื่อออกท่วมร่าง แต่ใครจะคิดว่าการสวมเสื้อยืดกับนุ่งผ้าถุงแล้วร่ายรำด้วยท่านาฏศิลป์จะกลายเป็นการออกกำลังกายที่ทำให้ร่างกายแข็งแรงได้เช่นกัน


     ครูดิว-ขจิตธรรม พาทยกุล ทายาทโรงเรียนสอนดนตรีไทยและนาฏศิลป์ไทย พาทยกุลการดนตรีและนาฏศิลป์ จึงนำศาสตร์และศิลป์ที่ได้คลุกคลีตั้งแต่ยังเล็กมาสร้างสรรค์เป็นคลาสออกกำลังกายภายใต้ชื่อ Thai Fit Studio โดยเปิดเผยว่า การรำไทยนั้นใช้ร่างกายทุกส่วนและใช้สมองในการเชื่อมโยงท่าต่างๆ ในช่วงเริ่มต้นจึงปรึกษากับแพทย์เฉพาะทางด้านกายภาพ และนักวิทยาศาสตร์การกีฬา เพื่อร่วมกันออกแบบเป็นคลาสเรียน ได้แก่ Thai Myth เป็นการนำเอานาฏศิลป์ ท่าทางของตัวละครในวรรณคดีต่างๆ มาผสานเข้ากับการออกกำลังกาย, Thai Folks นำเอาศิลปะการรำพื้นบ้านจาก 4 ภาคของไทยมาใส่จังหวะเพิ่มขึ้น และ Thai Martial Arts นำเอาท่าทางในการแสดงโขนและศิลปะป้องกันตัวของไทย มาประยุกต์เป็นท่าออกกำลัง แต่ละครั้งจะใช้เวลาประมาณ 45-60 นาที โดยแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ไล่ตั้งแต่การวอร์มอัพ เทรนนิ่ง และคูลดาวน์




 
     ปัจจุบัน Thai Fit เปิดบริการเป็นโมบายคลาสคือ ร่วมมือกับสตูดิโอ และ Creative Space ต่างๆ กระจายอยู่ในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นคลาสสำหรับวัยกลางคน ตั้งแต่วัยรุ่นถึงวัยทำงาน เพราะเป้าหมายของ Thai Fit คืออยากให้คนหันมาเห็นคุณค่าของวัฒนธรรมที่บรรพบุรุษคิดขึ้นมาจึงต้องเริ่มจากกลุ่มนี้ก่อน

 
     “เราอยากให้โปรดักต์มันชัดเจน แยกออกจากการเรียนรำไทยเพื่อความสวยงามปกติไปเลย นี่ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่เราไม่เปิดคลาสที่โรงเรียนพาทยกุลเป็นหลัก แต่ที่โรงเรียนพาทยกุลเป็นที่ผลิตครู ทดลอง ทำเวิร์กช็อป ค้นคว้า และวิจัย แผนของเราต่อไป” 


     

     สตูดิโอที่ Thai Fit ไปเปิดคลาสสอนมีหลากหลายทั้งสตูดิโอสอนเต้น ฟิตเนส และพื้นที่สร้างสรรค์ทางวัฒนธรรมอื่นๆ ทำให้ได้กลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย ทั้งคนชอบเต้นอย่างเดียว คนชอบออกกำลัง หรือคนที่ไม่เคยออกกำลังมาก่อนเลยก็มี เนื่องจากวิธีออกกำลังกายของ Thai Fit เป็นโปรดักต์ที่ใหม่มากจนแทบอ้างอิงกลุ่มลูกค้าเดิมจากโปรดักต์อื่นไม่ได้เลย 

 
     ครูดิวตั้งความหวังจะให้ Thai Fit ไปได้ไกลจึงจำเป็นต้องมีบางคลาสที่เข้าระบบฟิตเนส ลดทอนความยาก เพิ่มความสนุก เพื่อให้เป็นสากล และสามารถพัฒนาต่อยอดด้วยตัวเองให้ได้




 
     หากถามว่าไกลแค่ไหน ครูดิวก็บอกว่า ตอนนี้นอกจากทำคลาสที่เมืองไทยแล้ว ยังมีโอกาสไปทำเวิร์กช็อปนอกสถานที่ในต่างประเทศ เช่น แวนคูเวอร์ แคนาดา โดยสถานกงสุลใหญ่เป็นผู้เชิญ และที่เมลเบิร์น ออสเตรเลีย โดยมูลนิธิเตือน พาทยกุล ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงวัฒนธรรม และบริษัท บุญรอด บริวเวอรี จำกัด (มหาชน) 

 
     นั่นคือในแง่ระยะทาง แต่หากพูดถึงเป้าหมายในเชิงธุรกิจ เธอกำลังพัฒนาหลักสูตรสำหรับผู้สูงอายุซึ่งจะเปิดตัวเร็วๆ นี้ โดยจะทำงานร่วมกับมูลนิธิเตือน พาทยกุล และมีแผนจะขยายสู่กลุ่มชาวต่างชาติต่อไป


     

     นอกจากนี้ ในอนาคต Thai Fit อาจจะเป็นสตูดิโอที่เทรนครูเพียงอย่างเดียว หากใครเรียนแล้วสามารถนำไปเปิดคลาสในภูมิภาคอื่นๆ ได้ หรือซื้อลิขสิทธิ์ของ Thai Fit ไปเปิดเอง เธอก็ยินดี

 
     “พอทำธุรกิจนี้เองก็รู้เลยว่ามันยากมาก ต้องใช้ศาสตร์และศิลป์เยอะมาก กว่าจะเทรนครูได้แต่ละคนต้องใช้ทั้งเวลา ประสบการณ์ทุนเดิมของครูที่ต้องมีพื้นฐานรำ มันไม่ง่ายเลย ยิ่งเราทำเพลงเองเกือบทั้งหมด ออกแบบท่าและเพลงไปพร้อมๆ กัน ใช้ซาวนด์เอ็นจิเนียร์ที่คำนึงถึงค่าการเต้นของหัวใจ ฯลฯ ตั้งแต่เริ่มทำแรกๆ เมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครเอาไปทำได้สักที ถ้ามีคนทำบ้างอาจจะดีกว่านี้ มีการแข่งขัน ตลาดจะได้คึกคัก”


 
Thai Fit Studio
FB : www.facebook.com/thaifitstudio



www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี


 
 

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

อย่างอาร์ต! MAMAD แบรนด์แฟชั่น X ศิลปะ วาดลวดลายสไตล์ Semi Abstract สร้างความแปลก ออกแบบ “ศิลปะที่สวมใส่ได้”

“Me As My Art Daily” ศิลปะคือส่วนหนึ่งของตัวตนเราในทุกวัน คือนิยามของแบรนด์แฟชั่นสุดอาร์ตอย่าง MAMAD ที่นำเอาศิลปะและแฟชั่นมาผสานกัน กลายเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า และหมวกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ความแปลกตา และสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร

เค้กหรือมายากล!? ไอเดียสุดแหวก! เมื่อ “ราเมน” กลายเป็นเค้ก

Bob The Baker Boy ร้านเค้กในสิงคโปร์ทำให้คำว่า “เค้ก” เปลี่ยนไปตลอดกาล จาก "หน้าตา" เค้กที่แทบทุกคนเห็นแล้วต้องหยิบมือถือขึ้นมาถ่าย! ไอเดียแบบนี้เกิดจากความตั้งใจของเมย์ ฟง เจ้าของร้านสุดครีเอทีฟ

ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด ฉบับทายาทรุ่น 3 จาก 3 แบรนด์เก๋า หอยนางรม-น่ำเอี๊ยง-เด็กสมบูรณ์

ธุรกิจครอบครัวที่ผ่านรุ่น 3 ไปได้ต้องทำอย่างไร ? เราจะพาไปดูวิธี ‘ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด’ จาก 3 แบรนด์เก๋า: หอยนางรม - น่ำเอี๊ยง - เด็กสมบูรณ์" ​ ที่ไม่เพียงรักษามรดกครอบครัวไว้ แต่ยังสร้างโอกาสใหม่ๆ อีกด้วย ​