นี่เสื้อหรือต้นไม้! ปฏิวัติวงการแฟชั่น ด้วยเสื้อสังเคราะห์แสงสุดยั่งยืน




Main Idea


 
  • วงการแฟชั่นนั้นไปไกลกว่าที่คิด ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการออกแบบที่มีความหลากหลายหรือสะท้อนมุมมองต่างๆ ได้อย่างแยบยล วัสดุที่นำมาใช้ในวงการแฟชั่นก็มีความสร้างสรรค์และโดดเด่นไม่แพ้ใคร ยิ่งถ้าแปลกหรือเป็นวัสดุที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะนำมาใช้ได้ก็ยิ่งทำให้เกิดความน่าสนใจเพิ่มเข้าไปอีก 
 
  • เช่นเดียวกับเสื้อผ้าชุด  Biogarmentry ที่ทำจากสาหร่าย แถมยังมีความสามารถที่ทุกคนต้องรู้สึกว้าว อย่างการเปลี่ยนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้กลายเป็นออกซิเจนผ่านการสังเคราะห์ด้วยแสง ที่จะเข้ามาทำให้วงการแฟชั่นที่รวดเร็วเปลี่ยนไปสู่ความยั่งยืนนั่นเอง



 
 
     ปัจจุบันมนุษย์มักจะให้ความสนใจกับการเลือกสวมใส่เสื้อผ้าเป็นอย่างมาก ถึงขนาดมีการมองหาเสื้อผ้าสุดเก๋ให้กับสัตว์เลี้ยงของตนเองด้วย ดังนั้นจึงไม่แปลกใจว่าทำไมวงการแฟชั่นหรืออุตสาหกรรมสิ่งทอถึงได้เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว และแน่นอนว่าการที่ตลาดนั้นเติบโตก็หมายความว่ามีการแข่งขันสูง มีผู้เล่นหน้าใหม่ตบเท้าเข้าสู่อุตสาหกรรมแฟชั่นมากขึ้น แบรนด์น้องใหม่ก็เกิดขึ้นมากมาย ถ้าหากคุณอยากโดดเด่นในตลาดนี้ได้ก็ต้องมีลูกเล่นสักหน่อย! 




     ฉะนั้น เสื้อผ้าตอนนี้นั้นไม่ได้มีเพียงความสวยงามอย่างเดียว แต่ยังมีความแปลกใหม่และสร้างสรรค์ เพื่อสร้างจุดสนใจให้แก่ผู้บริโภค เช่นเดียวกับเสื้อผ้าที่ชื่อว่า Biogarmentry ที่ถูกสร้างสรรค์โดย Roya Aghighi ดีไซเนอร์ชาวแคนาดา – อิหร่านที่ได้สร้างเสื้อผ้าสุดเก๋จากสาหร่ายซึ่งมีคุณสมบัติในการเปลี่ยนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้กลายเป็นออกซิเจนผ่านการสังเคราะห์ด้วยแสง คล้ายกับกระบวนการทำงานของต้นไม้เลยล่ะ!


     Biogarmentry จึงเข้ามาเติมเต็มช่องว่างของอุตสาหกรรมแฟชั่นที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วด้วยการนำเสนอทางเลือกใหม่ๆ ที่ยั่งยืนมากขึ้น ที่สำคัญยังสะกิดต่อมรักษ์โลกของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย!


 
 

     จุดเริ่มต้นของเสื้อผ้า Biogarmentry นั้นมาจากความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย British Columbia (UBC) และ Emily Carr University of Art and Design ที่ได้จับมือกันสร้างสิ่งทอทางชีวภาพขึ้น โดยสิ่งทอทางชีวภาพนั้นมีสาหร่ายเป็นวัตถุดิบหลัก ซึ่ง Roya Aghighi มองว่าสิ่งทอของเธอนั้นสามารถหายใจได้ด้วยการเปลี่ยนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นออกซิเจนหรือเรียกง่ายๆ ว่ามันสามารถเจริญเติบโตได้นั่นเอง




     โดยเสื้อผ้า Biogarmentry สร้างมาจากสาหร่ายเซลล์เดียวชนิดหนึ่งที่ถูกปั่นรวมกับนาโนโพลีเมอร์ ซึ่งจะทำให้เนื้อผ้านั้นคล้ายกับผ้าลินิน ซึ่งความน่าสนใจของเจ้าเสื้อผ้าชิ้นนี้คือผู้สวมใส่จะต้องดูแลให้เหมือนกับว่าคุณกำลังดูแลต้นไม้สักต้น เพราะอย่างที่บอกในตอนแรกว่าเสื้อผ้าชิ้นนี้มีลมหายใจ หากคุณดูแลไม่ดี เสื้อผ้าชิ้นนี้อาจจะสลายหายไปจากคุณในเวลาไม่ถึงเดือน 


     อีกทั้งการดูแลเมื่อสวมใส่เสร็จแล้วคุณก็ไม่ต้องซักให้เสียแรงหรือเสียทรัพยากรอย่างอื่น คุณแค่ฉีดน้ำใส่สัปดาห์ละครั้ง และนำมันมาออกแดดในระหว่างที่คุณสวมใส่นั่นก็เป็นเหมือนการดูแลพวกเขาให้มีการสังเคราะห์แสงหรือมีชีวิตต่อไปแล้ว 




     แน่นอนว่าการหายใจของเสื้อผ้าก็จะช่วยปรับปรุงสภาพแวดล้อมรอบตัวของผู้สวมใส่ในทันที เศษผ้าที่เหลือจากการตัดเย็บก็จะไม่กลายเป็นขยะที่ต้องกำจัด เพราะมันสามารถย่อยสลายกลายเป็นปุ๋ยหมักได้เลย จากการทดลองพบว่าเสื้อผ้าชิ้นนี้สามารถอยู่ได้ประมาณ 1 เดือนและสามารถขยายต่อไปได้ถ้าได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง และหลักฐานที่ตอกย้ำความสำเร็จของเจ้า Biogarmentry สิ่งทอที่ทำด้วยเซลล์สิ่งมีชีวิตสังเคราะห์นี้ คือการได้รับการคัดเลือกให้เป็น Dezeen Awards 2019 ในหมวดการออกแบบที่ยั่งยืนได้อย่างสวยงาม


     เรียกได้ว่าวงการแฟชั่นนั้นไปไกลกว่าที่คิด ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบ การใช้วัสดุที่แปลกใหม่ การมีฟังก์ชันเสริมได้อย่างหลากหลายจนผู้สวมใส่รู้สึกว่ามันคุ้มกับเงินที่เสียไป หรือแม้กระทั่งกระบวนการผลิตที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมก็สามารถเพิ่มคุณค่าให้กับสินค้าได้อย่างมหาศาล ซึ่งผู้ประกอบการ SME สามารถนำแนวคิดดังกล่าวไปใช้เพื่อเพิ่มคุณสมบัติหรือเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าได้เลย!



 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

อย่างอาร์ต! MAMAD แบรนด์แฟชั่น X ศิลปะ วาดลวดลายสไตล์ Semi Abstract สร้างความแปลก ออกแบบ “ศิลปะที่สวมใส่ได้”

“Me As My Art Daily” ศิลปะคือส่วนหนึ่งของตัวตนเราในทุกวัน คือนิยามของแบรนด์แฟชั่นสุดอาร์ตอย่าง MAMAD ที่นำเอาศิลปะและแฟชั่นมาผสานกัน กลายเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า และหมวกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ความแปลกตา และสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร

เค้กหรือมายากล!? ไอเดียสุดแหวก! เมื่อ “ราเมน” กลายเป็นเค้ก

Bob The Baker Boy ร้านเค้กในสิงคโปร์ทำให้คำว่า “เค้ก” เปลี่ยนไปตลอดกาล จาก "หน้าตา" เค้กที่แทบทุกคนเห็นแล้วต้องหยิบมือถือขึ้นมาถ่าย! ไอเดียแบบนี้เกิดจากความตั้งใจของเมย์ ฟง เจ้าของร้านสุดครีเอทีฟ

ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด ฉบับทายาทรุ่น 3 จาก 3 แบรนด์เก๋า หอยนางรม-น่ำเอี๊ยง-เด็กสมบูรณ์

ธุรกิจครอบครัวที่ผ่านรุ่น 3 ไปได้ต้องทำอย่างไร ? เราจะพาไปดูวิธี ‘ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด’ จาก 3 แบรนด์เก๋า: หอยนางรม - น่ำเอี๊ยง - เด็กสมบูรณ์" ​ ที่ไม่เพียงรักษามรดกครอบครัวไว้ แต่ยังสร้างโอกาสใหม่ๆ อีกด้วย ​