ถอดความสำเร็จ "ห่านคู่’ เสื้อยืดในตำนาน ที่แม้แต่กาลเวลาก็ทำอะไรไม่ได้

Text : นิตยา สุเรียมมา





Main Idea

 
  • เคยคิดไหมว่าทำไมเสื้อยืดสีพื้น เรียบๆ อย่าง ‘ห่านคู่’ ถึงอยู่คู่กับเมืองไทยมาได้เกือบ 70 ปี แถมยังสร้างรายได้อยู่อย่างเงียบๆ กว่า 500 ล้านบาทต่อปีได้!
 
  • อะไร คือ เคล็ดลับความสำเร็จของการทำธุรกิจ สินค้าเพียงชนิดเดียว ทำไมถึงอยู่มายาวนานได้เกินกว่าครึ่งศตวรรษ ไปติดตามพร้อมๆ กัน
 

 

     ในยุคสมัยที่แฟชั่นมีให้เลือกใช้มากมาย โดยเฉพาะกับเสื้อยืดหรือ T Shirt ที่ทำออกมานับไม่ถ้วน มีหลายแบบหลายสไตล์ให้เลือก ผิดกับเมื่อเจ็ดสิบกว่าปีที่แล้วเสื้อยืดยังเป็นสินค้านำเข้า และมีผู้ผลิตน้อยมากอยู่ในเมืองไทย แต่ด้วยการมองเห็นช่องทางโอกาสธุรกิจ เสื้อยืดไทยแบรนด์หนึ่งจึงได้ถือกำเนิดขึ้น ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจวบจนวันนี้กว่า 67 ปีมาแล้ว แบรนด์ดังกล่าวก็ยังคงอยู่ แถมยังรักษาเอกลักษณ์จุดเด่นของการเป็นเสื้อยืดสีพื้นยืนหนึ่งอยู่ในตลาดก้าวข้ามกาลเวลามาได้อย่างเหลือเชื่อทีเดียว ซึ่งคงเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ นอกจาก ‘ตราห่านคู่’ แบรนด์เสื้อยืดในตำนานที่ขายดีตั้งแต่ยุค Baby Boomer จนถึงวันนี้ โดยไม่น่าเชื่อว่าแต่ละปีทำยอดขายได้ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาทเลยทีเดียว
 



 
  • เสื้อยืดนิยมไทย

     ย้อนไปเมื่อราว 70 - 80 กว่าปีก่อน ในยุคสมัยที่ประเทศไทยกำลังมีการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจและวัฒนธรรมหลายด้าน เพื่อปรับประเทศให้มีความเจริญทัดเทียมกับนานาอารยประเทศตามแนวทางการปกครองของจอมพล ป.พิบูลสงคราม เช่น การเปลี่ยนชื่อจากสยามประเทศมาเป็นประเทศไทย การกล่าวทักทายกันด้วยคำว่า สวัสดี อรุณสวัสดิ์ มาใช้เหมือนวัฒนธรรมตะวันตก ไปจนถึงการแต่งกายแบบยุคสมัยใหม่เปลี่ยนจากนุ่งผ้าซิ่น โจงกระเบน ให้มาเป็นสวมกางเกง กระโปรง และเสื้อให้เรียบร้อย


     ทำให้การค้าขายในไทยยุคนั้นมีความเจริญรุ่งเรือง และเปลี่ยนแปลงไปมาก จากที่เคยนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาขาย ก็มีการณรงค์ให้มีการลงทุนและหันมาผลิตเองมากขึ้นตามนโยบาย “ไทยทำ ไทยใช้ ไทยเจริญ” ซึ่งเสื้อยืดตราห่านคู่ก็เป็นหนึ่งในสินค้าที่มีการผลิตขึ้นมาในยุคนั้น ภายใต้บริษัท โรงงานไทยแลนด์นิตติ้ง จำกัด ซึ่งก่อตั้งโดย เจือ ธนสารสมบัติ (ชื่อเดิม คือ เจือ แซ่ฉั่ว) เมื่อปี 2499


     โดยก่อนหน้านั้นได้ทดลองเริ่มนำเข้ามาทำตลาดบ้างแล้ว ตั้งแต่ปี 2496 จากประเทศฮ่องกง เช่นเดียวกับการนำเข้าสินค้าแบบตะวันตกอื่นๆ อาทิ สบู่หอม กระติกน้ำร้อน น้ำหอม แต่ในภายหลังเมื่อมีการส่งเสริมให้หันมาผลิตสินค้าใช้เองในประเทศมากขึ้น จึงได้จัดตั้งเป็นโรงงานผลิตขึ้นมา ผลิตสินค้า 3 อย่าง ได้แก่ เสื้อยืด เสื้อกล้าม และกางเกงชั้นในชาย
 



 
  • เสื้อยืดสีพื้น ใส่แล้วเย็นสบาย ระบายอากาศได้ดี
               

     โดยหนึ่งในเอกลักษณ์ที่ทำให้เสื้อยืดตราห่านคู่ได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบันนี้ เป็นเพราะเอกลักษณ์เฉพาะตัวอยู่  2 - 3 ข้อด้วยกัน ได้แก่ 1.เป็นเสื้อยืดสีพื้นทำให้สามารถสวมใส่กับเสื้อผ้าได้ง่าย 2.ผลิตจากผ้าฝ้ายและเทคนิคการเย็บที่ละเอียด จึงทำให้ใส่แล้วนุ่มสบาย ระบายอากาศได้ดี เหมาะกับอากาศเมืองไทย และมีความทนทานใส่ได้นาน 3.เป็นของดี แต่ราคาไม่แพง โดยในยุคแรกนั้นเคยมีการโฆษณาชวนเชื่อออกมาว่าใช้ผ้าฝ้ายอย่างดีจากอียิปต์มาผลิตกันเลยทีเดียว จึงทำให้ได้รับความนิยมค่อนข้างดีจากผู้บริโภค เพื่อหามาใช้กันมาก ซึ่งจะว่าไปแล้วก็เป็นยุคของกลุ่มผู้บริโภคที่เรียกว่า Baby Boomer หรือสมัยรุ่นคุณตาคุณยายของเรานั่นเอง


     ซึ่งการสวมใส่เสื้อยืดในยุคนั้น มักจะใส่ไว้เป็นเสื้อทับด้านใน และสวมเสื้อเชิ้ตทับอีกทีหนึ่ง เพื่อความเรียบร้อยเวลาสวมใส่ไปทำงาน หรือเดินทางออกไปข้างนอกบ้าน
 



 
  • ไม่หยุดพัฒนา แต่ยังรักษาเอกลักษณ์เดิมไว้ได้
           
     อย่างที่หลายคนเห็น เสื้อยืดห่านคู่อาจไม่ได้มีการทำตลาดที่หวือหวาอะไรมากออกมาให้เห็น แต่เห็นเงียบๆ แบบนี้ จริงๆ แล้วแอบมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา เริ่มตั้งแต่รีแบรนด์ดิ้งปรับโลโก้ใหม่ จากเดิมที่เป็นรูปห่านหันหน้าเข้าหากันมีระลอกน้ำ ล้อมกรอบด้วยวงกลม ก็เปลี่ยนเป็นรูปห่านสีเขียวหันหน้าเข้าหากัน ด้านล่างเขียนคำ Sine 1953 เพื่อสื่อถึงความเก่าแก่ของแบรนด์ที่มีมาเนิ่นนาน และต่อท้ายด้วยคำว่า DOUBLE GOOSE เพื่อตอกย้ำความตราสัญลักษณ์ตราห่านคู่เพิ่มขึ้นไปอีก
               

     ในด้านตัวผลิตภัณฑ์เอง ในส่วนที่เป็นสินค้าคลาสสิกตั้งแต่ยุคแรกที่ทำก็ยังคงเอกลักษณ์ดั้งเดิมเอาไว้ แต่ขณะเดียวกันก็มีการปรับสี ดีไซน์ และรูปแบบให้มีความหลากหลายมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ โดยจากเดิมที่มีแค่สีพื้นเบสิก เช่น ขาว ดำ ก็ผลิตให้มีหลากสีมากขึ้น มีโทนสีสดใสให้เลือกมากขึ้นมากกว่า 12 เฉดสี รูปแบบคอก็มีให้เลือกหลายแบบ ทั้ง คอกลม คอกว้าง คอวี ไปจนถึงแตกไลน์การผลิตไปยังเสื้อผ้าเด็ก เสื้อแขนยาว เสื้อยืดสกรีนรุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น ที่ทำออกมาพิเศษเพียงไม่กี่ตัว
               




     ในส่วนของช่องทางการจำหน่ายนั้น นอกจากจะกระจายส่งขายทั่วประเทศแล้ว เสื้อยืดตราห่านคู่ยังมีการเพิ่มช่องทางการขายให้สามารถซื้อผ่านออนไลน์ได้ด้วย ซึ่งจากที่ได้ลองเข้าไปดูในเว็บไซต์แล้ว จะเห็นได้ถึงความทันสมัย มีการพรีเซ็นต์เสื้อผ้าด้วยคนรุ่นใหม่ การ Collaboration กับแบรนด์ต่างๆ เพื่อสร้างการรับรู้ ขณะเดียวกันก็ยังสื่อถึงความพิถีพิถัน ประณีต คลาสสิกของความเป็นเสื้อยืดในตำนานได้เป็นอย่างดี ซึ่งจากการพัฒนาดังกล่าวนี้เอง จึงทำให้หลายคนอาจแทบไม่เชื่อเลยว่าในแต่ละปีนั้นเสื้อตราห่านคู่จะมีรายได้มากถึงหลายร้อยล้านบาทต่อปี อาทิ ในปี 2559 มีรายได้อยู่ที่ 594 ล้านบาท, ปี 2560 รายได้ 632 ล้านบาท และปี 2561 อยู่ที่ 584 ล้านบาท
               

     และนี่คือ เรื่องราวของ ‘ห่านคู่’ แบรนด์เสื้อยืดในตำนาน ที่แม้จะผ่านกาลเวลามาเนิ่นนานเกือบ 70 ปี แต่ยังคงสามารถรักษาธุรกิจและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในทุกยุคสมัย ตั้งแต่ยุคบุกเบิก Baby Boomer จนถึง Gen Z ในปัจจุบันนั่นเอง


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

 

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

อย่างอาร์ต! MAMAD แบรนด์แฟชั่น X ศิลปะ วาดลวดลายสไตล์ Semi Abstract สร้างความแปลก ออกแบบ “ศิลปะที่สวมใส่ได้”

“Me As My Art Daily” ศิลปะคือส่วนหนึ่งของตัวตนเราในทุกวัน คือนิยามของแบรนด์แฟชั่นสุดอาร์ตอย่าง MAMAD ที่นำเอาศิลปะและแฟชั่นมาผสานกัน กลายเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า และหมวกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ความแปลกตา และสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร

เค้กหรือมายากล!? ไอเดียสุดแหวก! เมื่อ “ราเมน” กลายเป็นเค้ก

Bob The Baker Boy ร้านเค้กในสิงคโปร์ทำให้คำว่า “เค้ก” เปลี่ยนไปตลอดกาล จาก "หน้าตา" เค้กที่แทบทุกคนเห็นแล้วต้องหยิบมือถือขึ้นมาถ่าย! ไอเดียแบบนี้เกิดจากความตั้งใจของเมย์ ฟง เจ้าของร้านสุดครีเอทีฟ

ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด ฉบับทายาทรุ่น 3 จาก 3 แบรนด์เก๋า หอยนางรม-น่ำเอี๊ยง-เด็กสมบูรณ์

ธุรกิจครอบครัวที่ผ่านรุ่น 3 ไปได้ต้องทำอย่างไร ? เราจะพาไปดูวิธี ‘ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด’ จาก 3 แบรนด์เก๋า: หอยนางรม - น่ำเอี๊ยง - เด็กสมบูรณ์" ​ ที่ไม่เพียงรักษามรดกครอบครัวไว้ แต่ยังสร้างโอกาสใหม่ๆ อีกด้วย ​