Bougaville สกินแคร์สุดเฟรนลี ที่ซัพพอร์ตแบรนด์ไทยให้ข้ามผ่านวิฤตไปด้วยกัน

TEXT : ยุวดี ศรีภุมา





Main Idea
 
  • เรื่องสกินแคร์กับผู้หญิงเป็นของคู่กัน แต่ถ้าพูดถึงน้ำมัน บางคนอาจจะติดภาพถึงความหนักของเนื้อสัมผัส ความเหนอะหนะ ความอุดตัน แต่แท้จริงแล้วยังมีน้ำมันเนื้อเบาๆ และคุณสมบัติเจ๋งๆ อีกเพียบ
 
  • หนึ่งในนั้นคือแบรนด์ไทยที่อยากให้คนไทยเปิดใจใช้น้ำมันอย่างแบรนด์ Bougaville ที่จะมอบผิวแข็งแรง สุขภาพดี และคืนความสมดุลให้ผิวของคุณและที่สำคัญยังเป็นแบรนด์ไทยสุดเฟรนลีที่อยากเป็นส่วนหนึ่งในการซัพพอร์ตแบรนด์ไทยอีกด้วย



     ถ้าพูดถึงน้ำมันในการดูแลผิว หลายคนคงนึกถึงน้ำมันมะพร้าวเป็นหลัก เพราะเป็นวัตถุดิบที่อยู่คู่เคียงคนไทยมาอย่างยาวนาน แต่หารู้ไม่ว่าแท้จริงแล้วยังมีน้ำมันอีกมากมายบนโลกใบนี้ที่จะช่วยดูแลผิวของคุณให้สวยและสมดุล
               

     หนึ่งในแบรนด์ไทยที่อยากชวนทุกคนมาลองใช้น้ำมันดีๆ นั่นคือแบรนด์  Bougaville ที่แปลว่า ดอกเฟื่องฟ้า คล้องจองกับชื่อของผู้ก่อตั้งอย่าง ‘ช่อเฟื่องฟ้า ศรีดอกรัก’ อดีต Creative สาวที่ผันตัวมาอยู่ในวงการสกินแคร์เพราะความหลงใหลในน้ำมันจนทำให้เธอเริ่มต้นแบรนด์ด้วย Passion อย่างเต็มเปี่ยมและอยากให้ Bougaville เป็นแบรนด์ที่มอบผิวสุขภาพดี แข็งแรง ทนต่อทุกสภาพอากาศเหมือนดั่งดอกเฟื่องฟ้า ที่ไม่ว่าจะฤดูไหนก็ยังคงสวยงามสดใสอยู่เสมอ
               




     “เราเป็นคนชอบใช้น้ำมันจากธรรมชาติมาแต่ไหนแต่ไร ชอบมากๆ เราก็จะมีการศึกษาเรื่องน้ำมันอยู่ตลอด เริ่มจากน้ำมันมะพร้าว ซึ่งเนื้อจะมีความหนัก เราก็ลองใช้มาโดยที่ไม่รู้ว่ามันมีน้ำมันที่เบา พอคนรอบข้างรู้ว่าเราชอบใช้น้ำมัน ก็จะมีคนซื้อมาฝากจากต่างประเทศแล้วตัวเราเองก็จะมีร้านประจำที่นำเข้าน้ำมัน เราก็ลองใช้ไปเรื่อยๆ พออะไรดีเราก็จะถ่ายรูป แนะนำต่อเพื่อนว่ามันดีขึ้นจริงๆ จนวันหนึ่งเราได้ลองน้ำมันต่างประเทศที่เบามากๆ แล้วคิดว่าถ้ามีน้ำมันแบบนี้ในบ้านเราคงจะดี เราเลยเอาตัวนี้ไปคุยกับทางร้านที่เราซื้อน้ำมันบ่อยๆ บอกเขาว่าเราอยากทำน้ำมัน จุดเริ่มต้นจริงๆ เราแค่อยากขายให้เพื่อน ให้คนใกล้ตัวเท่านั้นเอง” เธอเล่าถึงจุดเริ่มต้นของการทำสกินแคร์
               




    ด้วยเนื้อสัมผัสที่เบาสบายผิว ใช้แล้วเห็นผลจริงเลยทำให้สินค้าชูโรงอย่าง Bougaville Balancing Oil กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่บอกกันปากต่อปาก ซึ่งจุดเด่นของน้ำมันดังกล่าวคือส่วนผสมจากธรรมชาติ 100 เปอร์เซ็นต์ โดยมีคุณสมบัติคืนความสมดุลให้กับผิว ไม่ว่าจะผิวมัน ผิวแห้ง เป็นสิว ผิวขาดน้ำและอ่อนแอก็สามารถกลับมาสุขภาพดีได้ด้วยน้ำมันจาก Bougaville ได้อีกครั้ง
               

     “ในน้ำมันจะเป็นธรรมชาติ 100 เปอร์เซ็นต์และเป็นน้ำมัน Active Ingredient ล้วนๆ เพราะไม่ต้องมีตัวนำพา เช่น สกินแคร์ส่วนใหญ่จะมีน้ำเป็นตัวนำพาเพื่อเอาสาร Active ต่างๆ เข้าสู่ผิว แต่ของเราไม่ต้อง น้ำมันที่เราใส่มามีประมาณ 10 ตัวด้วยกัน เช่น Olive ที่จะช่วยรวมน้ำมันทั้งหมดเข้าไว้ด้วยกัน นอกจากนี้ยังมี Defensil-Plus เป็นกึ่งๆ ยาสามัญประจำบ้านของสวิตเซอร์แลนด์ ช่วยบรรเทาผดผื่นแพ้ แมลงกัดต่อยต่างๆ โดยคุณสมบัติของ Bougaville Balancing Oil จะช่วยปรับสมดุลผิวและปรับสมดุลการผลิตน้ำมันของผิวเรา ไม่ใช่แค่การเติมน้ำให้ผิวอย่างเดียว เพราะว่าผิวของเราไม่ได้มีแค่น้ำ แต่ยังมีน้ำมันด้วย บางคนจะชอบเอาน้ำมันออกจากผิวแต่ซับออกเท่าไหร่ก็ขึ้นมาใหม่เพราะเราเอาน้ำมันที่ดีของผิวออก ผิวเราฉลาด รู้ว่าผิวฉันกำลังขาดความชุ่มชื่น ไม่มีน้ำมัน เลยยิ่งสร้างขึ้นใหม่ กลายเป็นวงจรของผิวมัน ผิวแห้งก็เช่นกัน น้ำมันจะเข้าไปเติมเพื่อให้ผิวมีน้ำมันที่ดีหล่อเลี้ยงเอาไว้” ช่อเฟื่องฟ้าเล่าถึงตัวผลิตภัณฑ์ชูโรงอย่าง Bougaville Balancing Oil
               




     ทางด้านการทำตลาด ช่อเฟื่องฟ้าเองยอมรับว่าเธอไม่เชี่ยวชาญด้านนี้สักเท่าไหร่ ถึงขนาดว่าเคยซื้อโฆษณาเป็นหมื่นแต่กลับไม่ได้ไลก์สักไลก์เดียว ทว่า สิ่งที่เธอให้ความสำคัญมากที่สุดนั่นคือการพูดคุยกับลูกค้าทุกคนเหมือนทุกคนเป็นเพื่อนพี่น้อง พยายามสร้างให้แบรนด์ Bougaville เป็นแบรนด์ที่มีความ Friendly เข้าถึงง่าย นอกจากนี้ทุกออเดอร์ยังมีการ์ดขอบคุณที่เธอบรรจงเขียนชื่อลูกค้าทุกคนด้วยตัวเอง
               

     “เราใส่ใจลูกค้าทุกคนและจะทักไปถาม พูดคุยบ่อยๆ ทุกครั้งที่เขาซื้อเราจะมีการ์ดที่เขียนด้วยมือเพื่อเป็นการขอบคุณ เราทำแบบนี้ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มขายและยังคงทำอยู่ ลูกค้าก็จะแฮปปี้กับกระดาษใบเล็กๆ นี้มาก เหมือนเราอยากให้เขารู้สึกว่าแบรนด์เราไม่ได้ไกลตัว เข้าถึงง่าย เหมือนเพื่อน บางคนทุกวันนี้ไม่ได้คุยเรื่องสกินแคร์แล้ว ส่งรูปลูกมาอวดก็มี คุยเรื่องการเมืองก็มี เราพยายามคุยกับเขาให้รู้สึกว่าเราเป็นกันเอง คุยได้ทุกเรื่อง ไม่ได้ตั้งใจจะขายของนะ อยากสร้าง Community นะ” เธอพูดถึงการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า
               

     ล่าสุด ทางแบรนด์ได้มีแคมเปญเล็กๆ เพื่อซัพพอร์ตแบรนด์ไทยในช่วงวิกฤต Covid-19 ด้วยการรวบรวมสกินแคร์แบรนด์ไทยที่ถูกคัดสรรมาแล้วว่าดี มีคุณภาพพร้อมทั้งทำการรีวิวเล็กๆ กับแคมเปญที่ชื่อ Support Local Brand เพื่อเป็นแรงหนุนในการสนับสนุนแบรนด์ไทยอื่นๆ ในช่วงเวลาวิกฤตและอยากให้คนไทยหันมาเปิดใจลองใช้สกินแคร์ไทยกันมากขึ้น
               





      “เราเริ่มเห็นจากตัวเองว่าได้รับผลกระทบแล้ว ร้าน All About You ที่เราวางขายโดนปิด ทุกห้างเลย เราก็รู้สึกว่าไม่อยากให้ลูกค้ามาซื้อที่เราเลย อยากให้เขาไปซื้อที่ All About You มากกว่า แม้เราจะโดนหักเปอร์เซ็นต์ แต่ถึงอย่างไรเราก็ได้และเขาก็ต้องอยู่ได้ด้วยเพราะเขามีค่าพนักงาน มีค่าเช่าร้านและถ้าเขาอยู่ได้ เราก็อยู่ได้ ทีนี้เราก็มองเห็นว่าตัวเราเองยังอยากซื้อแชมพูคนไทย ครีมกันแดดคนไทย คงจะดีถ้าคนอื่นหันมาซื้อของไทย ในช่วงนี้ที่เราออกไปซื้ออะไรไม่ได้ก็ยังอยากให้แบรนด์ไทยอยู่ได้ เราไม่เคยมองแบรนด์อื่นเป็นศัตรูหรือคู่แข่ง แต่เรามองว่าแบรนด์เหล่านี้จะร่วมกันขับเคลื่อนวงการสกินแคร์ไทยให้เติบโตยิ่งขึ้น” ช่อเฟื่องฟ้าปิดท้ายถึงการสนับสนุนแบรนด์ไทยอื่นๆ
 
               
     ใครว่าแบรนด์ไทยเจ๋งสู้แบรนด์ระดับโลกไม่ได้! หากคุณเปิดใจจะพบว่าแบรนด์ไทยอีกมากมายรวมถึงแบรนด์สุดเก๋อย่าง Bougaville ก็มีคุณภาพไม่แพ้แบรนด์ต่างประเทศแถมยังอัดแน่นด้วยส่วนผสมคุณภาพดีในราคาย่อมเยา ยิ่งใช้แบรนด์ไทย ยิ่งช่วยให้ผู้ประกอบการไทยยิ้มได้ โดยเฉพาะช่วงเวลาวิกฤตเช่นนี้!
 


 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
 

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

อย่างอาร์ต! MAMAD แบรนด์แฟชั่น X ศิลปะ วาดลวดลายสไตล์ Semi Abstract สร้างความแปลก ออกแบบ “ศิลปะที่สวมใส่ได้”

“Me As My Art Daily” ศิลปะคือส่วนหนึ่งของตัวตนเราในทุกวัน คือนิยามของแบรนด์แฟชั่นสุดอาร์ตอย่าง MAMAD ที่นำเอาศิลปะและแฟชั่นมาผสานกัน กลายเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า และหมวกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ความแปลกตา และสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร

เค้กหรือมายากล!? ไอเดียสุดแหวก! เมื่อ “ราเมน” กลายเป็นเค้ก

Bob The Baker Boy ร้านเค้กในสิงคโปร์ทำให้คำว่า “เค้ก” เปลี่ยนไปตลอดกาล จาก "หน้าตา" เค้กที่แทบทุกคนเห็นแล้วต้องหยิบมือถือขึ้นมาถ่าย! ไอเดียแบบนี้เกิดจากความตั้งใจของเมย์ ฟง เจ้าของร้านสุดครีเอทีฟ

ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด ฉบับทายาทรุ่น 3 จาก 3 แบรนด์เก๋า หอยนางรม-น่ำเอี๊ยง-เด็กสมบูรณ์

ธุรกิจครอบครัวที่ผ่านรุ่น 3 ไปได้ต้องทำอย่างไร ? เราจะพาไปดูวิธี ‘ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด’ จาก 3 แบรนด์เก๋า: หอยนางรม - น่ำเอี๊ยง - เด็กสมบูรณ์" ​ ที่ไม่เพียงรักษามรดกครอบครัวไว้ แต่ยังสร้างโอกาสใหม่ๆ อีกด้วย ​