แปลงร่างแล้วไปต่อ! “เอี๊ยะแซ” นวัตกรรมน้ำสมุนไพรตู้แช่ สู่ลูกอมสมุนไพรที่ใครๆ ก็รัก

TEXT : กองบรรณาธิการ
PHOTO : เจษฎา ยอดสุรางค์


 
 
Main Idea
 
  • หลายธุรกิจที่ดำเนินกิจการมาอย่างยาวนาน บางครั้งเหตุผลก็ไม่ใช่เพียงแค่รายได้ก้อนงาม แต่อาจหมายถึงการทำหน้าที่บางอย่าง เพื่อสร้างทางเลือกให้กับผู้บริโภค หรือแม้แต่การดำรงมรดกของครอบครัวให้คงอยู่สืบไปเท่านั้น  
 
  • การจะทำให้ธุรกิจไปต่อได้ นอกจากการรักษาคุณค่าความดีงามของธุรกิจให้คงอยู่ การปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยและความต้องการของผู้บริโภคก็เป็นอีกสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน
 
___________________________________________________________________________________________
 

     “เอี๊ยะแซ” ร้านขายยาสมุนไพรจีนที่อยู่มายาวนานกว่าศตวรรษ ในมุมมองของบางคนอาจคิดว่าเป็นธุรกิจโบราณ เชย ไม่ทันสมัย แต่ในขณะที่บางคนกลับมองว่า นี่คือ ‘หน้าที่อย่างหนึ่ง’ เพื่อดำรงทางเลือกให้กับผู้บริโภค




     “มันเป็นธุรกิจเก่าแก่ ถ้าจะเปลี่ยนอาชีพหรือเลิกไปก็ได้ แต่จุดยืนของเรา คือ อยากจะทำต่อไป”


     นี่คือ สิ่งที่ นพรัตน์ เฉลิมชัยกิจ ทายาทรุ่นที่ 4 ร้านขายยาสมุนไพรจีน “เอี๊ยะแซ” บอกกับเราเมื่อพูดถึงธุรกิจของครอบครัวที่มีอายุกว่าร้อยปี


     “จะว่าไปก็เป็นเหมือนสถานีอนามัยนะ สมัยก่อนเวลาใครเจ็บไข้ได้ป่วยอะไรเล็กๆ น้อยๆ ไม่ถึงขั้นหนักหนาต้องไปโรงพยาบาล ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็จะแวะมาให้อากงมาพะแมะหรือจับตรวจชีพจรให้ ซึ่งจริงๆ สมุนไพรจีน ก็คือ ยาอย่างหนึ่ง เป็นองค์ความรู้ที่สืบทอดกันมานาน เป็นเรื่องจริง ไม่ใช่ไสยศาสตร์ แต่โลกมันเปลี่ยนไป คนเลยมองเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องโบราณ แต่เราก็ยังยืนยันที่จะอยู่ต่อไปของเราแบบนี้”


     จากคำพูดดังกล่าว จึงเป็นเหตุผลให้ร้านขายยาเอี๊ยะแซยังเปิดดำเนินการมาจนทุกวันนี้ แต่ถึงแม้จะยืนหยัดในหนทางธุรกิจที่เลือก ก็ใช่ว่าจะไม่มีการปรับตัวเลย




     โดยนพรัตน์มองว่า การจะทำให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้ยั่งยืนนั้น นอกจากการทำหน้าที่และรักษาอุดมการณ์สืบต่อไปแล้ว อีกสิ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ากันเลย นั่นคือ การปรับตัวให้ทันต่อโลก และความต้องการของผู้บริโภคยุคปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้เธอจึงได้คิดนำองค์ความรู้ คุณค่าที่มีอยู่มาปรับเปลี่ยนและนำออกมาถ่ายทอดให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น เพื่อเหมาะกับความต้องการและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนยุคใหม่


     โดยสิ่งที่เลือกหยิบนำมาเล่าใหม่เพื่อส่งต่อคุณค่าครั้งนี้ ก็คือ น้ำดื่มสมุนไพรจากตู้แช่หน้าร้านขายยาที่ปกติเวลาใครผ่านไปผ่านมาก็มักจะแวะซื้อดื่ม เพื่อดับกระหาย คลายร้อน เย็นใจชื่นจิต โดยนำมาปรับเปลี่ยนรูปโฉมใหม่ให้กลายเป็น “ลูกอมสมุนไพรสูตรเข้มข้นเอี๊ยะแซ” ที่ทั้งมีรสชาติอร่อย ได้ประโยชน์ กินแล้วชื่นใจ แต่ขณะเดียวกันก็สะดวกสามารถพกพาได้ง่ายขึ้น นึกอยากกินเมื่อไหร่ก็หยิบออกมาอม ไม่ต้องแวะไปกินที่ตู้แช่หน้าร้านขายยาเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป


     “จริงๆ ตัวนี้เราคิดเอาไว้นานแล้ว ได้ไอเดียมาจากตู้แช่น้ำสมุนไพรร้านขายยาที่มักทำน้ำเก๊กฮวย หล่อฮังก๊วย จับเลี้ยง แช่ใส่แก้วไว้ขาย เวลาใครเดินผ่านมาก็แวะซื้อดื่ม ที่คิดทำเป็นลูกอม เพราะว่าน้ำสมุนไพรตู้แช่ก็ไม่ได้หากินกันง่ายๆ ทั่วไป แต่หากเราทำเป็นลูกอมอยู่ดีๆ นึกอยากกินขึ้นมา ก็หยิบออกมากินได้เลย แถมยังพกพาได้ เราเลยลองพัฒนาเป็นลูกอมสมุนไพรเข้มข้นขึ้นมา โดยใช้สูตรและสมุนไพรจากในร้านนี่แหละ และพยายามกวนให้เป็นลูกอมที่อร่อยที่สุด”


     ซึ่งจากไอเดียดังกล่าว ก็ไปตรงกับคอนเซปต์ของทาง TCDC ที่กำลังจะจัดงาน Bangkok Design Week ขึ้นมาพอดีในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยต้องการหาผลิตภัณฑ์ที่มีการต่อยอดพัฒนารูปแบบให้มีความร่วมสมัยเข้ามาจัดแสดงอยู่ภายในงาน รวมถึงเข้ามาช่วยเหลือส่งเสริมด้านดีไซน์ให้ด้วย


     จากผลลัพธ์ที่ได้ไปออกงาน ทำให้ลูกอมสมุนไพรเข้มข้นของเอี๊ยะแซ ซึ่งประกอบด้วย 4 รสชาติ คือ เก๊กฮวย หล่อฮังก๊วย จับเลี้ยง และขิง ได้รับการตอบค่อนข้างดีแบบเกินคาด


     “หลายคนพอได้ลองกินแล้ว ก็พูดเลยว่าเหมือนได้ดื่มน้ำสมุนไพรจากตู้แช่จริงๆ แต่ด้วยราคาที่ตั้งไว้ค่อนข้างสูง คือ ซองละ 60 บาท ซึ่งจากวัตถุดิบที่ใช้ทำให้เราไม่สามารถขายได้ต่ำกว่านี้จริงๆ แต่ละอย่างเราใส่สมุนไพรไปเกือบ 20 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว ส่วนความหวานก็ใช้แบบซูการ์ฟรี แต่ปรากฏว่าไม่มีใครบ่นเลยเกินคาดเหมือนกัน ขายดีจนวันสุดท้ายไม่มีของให้ขาย”




     และนี่คือ ความสำเร็จเล็กๆ อีกก้าวหนึ่งของเอี๊ยะแซ ร้านขายยาสมุนไพรจีนอายุร่วมร้อยกว่าปีที่เลือกจะยืนหยัดในหนทางของตัวเอง โดยใช้การปรับตัวมาเป็นหนทางในการเชื่อมต่อระหว่างคุณค่าของสิ่งที่ทำอยู่กับผู้บริโภคยุคปัจจุบัน เพื่อแสดงให้เห็นว่าไม่ว่ายุคสมัยหรือกาลเวลาจะเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ใดก็ตาม ธุรกิจก็จะยังคงอยู่ และตอบโจทย์ผู้คนได้อย่างต่อเนื่องต่อไปได้แบบไม่มีที่สิ้นสุด


     “มันอยู่ที่เราเลือกด้วยนะว่าจะมั่นคงยืนหยัดทำอยู่แบบนี้หรือเปล่า แต่ถ้าเราอยากจะอยู่ต่อ ก็ต้องพัฒนาและตามโลกให้ทัน เหนื่อยนะ แต่ก็ขึ้นอยู่กับเราว่าสนุกกับมันหรือเปล่า ต้องใช้อดทนและรอคอย จับทางให้ถูก โลกปัจจุบันกลุ่มเป้าหมายต้องการอะไร แล้วเข้าถึงตรงนั้น ที่สำคัญ คือ เราต้องจริงใจ” ทายาทเจ้าของไอเดียลูกอมเอี๊ยะแซทิ้งท้าย


 
 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

อย่างอาร์ต! MAMAD แบรนด์แฟชั่น X ศิลปะ วาดลวดลายสไตล์ Semi Abstract สร้างความแปลก ออกแบบ “ศิลปะที่สวมใส่ได้”

“Me As My Art Daily” ศิลปะคือส่วนหนึ่งของตัวตนเราในทุกวัน คือนิยามของแบรนด์แฟชั่นสุดอาร์ตอย่าง MAMAD ที่นำเอาศิลปะและแฟชั่นมาผสานกัน กลายเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า และหมวกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ความแปลกตา และสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร

เค้กหรือมายากล!? ไอเดียสุดแหวก! เมื่อ “ราเมน” กลายเป็นเค้ก

Bob The Baker Boy ร้านเค้กในสิงคโปร์ทำให้คำว่า “เค้ก” เปลี่ยนไปตลอดกาล จาก "หน้าตา" เค้กที่แทบทุกคนเห็นแล้วต้องหยิบมือถือขึ้นมาถ่าย! ไอเดียแบบนี้เกิดจากความตั้งใจของเมย์ ฟง เจ้าของร้านสุดครีเอทีฟ

ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด ฉบับทายาทรุ่น 3 จาก 3 แบรนด์เก๋า หอยนางรม-น่ำเอี๊ยง-เด็กสมบูรณ์

ธุรกิจครอบครัวที่ผ่านรุ่น 3 ไปได้ต้องทำอย่างไร ? เราจะพาไปดูวิธี ‘ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด’ จาก 3 แบรนด์เก๋า: หอยนางรม - น่ำเอี๊ยง - เด็กสมบูรณ์" ​ ที่ไม่เพียงรักษามรดกครอบครัวไว้ แต่ยังสร้างโอกาสใหม่ๆ อีกด้วย ​