ถอดสูตรลับ “Little C” ขนมอะไร มาจากไหน? ทำไมคนถึงยอมต่อคิวซื้อตั้งแต่เที่ยงคืน

TEXT : กองบรรณาธิการ
 

 
              

     ในสภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ไม่ว่าจะธุรกิจไหนก็คงแย่ไปตามๆ กัน แต่กลับมีอยู่หนึ่งแบรนด์ที่ไม่ว่าไปที่ไหน ก็มักจะเกิดกระแสฟีเวอร์คนรอต่อคิวซื้อกันเนื่องแน่น จนล่าสุดมีข่าวออกมาว่า ต้องไปรอคิวกันตั้งแต่เที่ยงคืนกันเลยทีเดียว แถมยังมีมากถึง 400 คิวอีกด้วย! แน่นอนว่าแบรนด์ที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้คงเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากLittle C” ขนมปังครีมนมสดฮอกไกโดชื่อดังนั่นเอง
              

     ไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ สำนักข่าวหลายแห่งบนโลกออนไลน์ได้รายงานข่าวการออกบูธครั้งแรกของขนมปังแบรนด์ Little C ในจังหวัดอุบลราชธานีที่มีคนมารอต่อคิวซื้อกันอย่างล้นหลาม โดยเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา สื่อท้องถิ่นอย่างเพจ “แนะนำที่กินที่เที่ยวใน จ.อุบลฯ” ได้เผยแพร่ภาพผู้คนจำนวนมาก บริเวณลานพื้นที่ว่างหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซา อุบลราชธานี เพื่อมารอต่อคิวซื้อขนมปังยี่ห้อดังกล่าว ได้มีการรายงานว่ามีคนมารอต่อคิวซื้อเป็นรายแรกตั้งแต่เวลาเที่ยงคืน โดยแบรนด์ได้ให้สิทธิ์ซื้อเพียงแค่ 400 คิวเท่านั้น (1 คิว ซื้อได้ไม่เกิน 20 ชุด) ซึ่งก็หมดไปในระยะเวลาอันรวดเร็วแค่แปดโมงเช้าคิวก็เต็มหมดแล้ว
           





     โดยนอกจากจะเป็นการต่อคิวเพื่อมาซื้อเอง ยังทำให้เกิดอาชีพเสริมอย่างการรับจ้างต่อคิวหรือรับจ้างหิ้วขึ้นมาด้วย ว่ากันว่ามีการบวกราคาเพิ่มขึ้นไปเพื่อเป็นค่าจ้างตั้งแต่ 30 – 70 บาทต่อชุดกันเลยทีเดียว จากปกติจะขายอยู่ที่ชิ้นละ 25 บาท ซื้อ 4 แถม 1 หรือเรียกง่ายๆ ว่า 5 ชิ้น 100 บาทคิดเป็น 1 ชุดนั่นเอง
 

 
ชื่อมาจากฮอกไกโด แต่ตัวเป็นไทยแท้ๆ
              

     จากกระแสฟีเวอร์ดังกล่าวนี้ จึงทำให้หลายคนอยากรู้ที่มาที่ไปของเจ้าขนมปังชื่อดังแบรนด์นี้ โดยมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการ คือ “Hokkaido Milk Cream Bun” หรือ ขนมปังครีมนมสดฮอกไกโด จากความเข้าใจของคนทั่วไปอาจคิดว่าเป็นแบรนด์จากเมืองนอกเหมือนเช่นแบรนด์อื่นๆ ที่เข้ามาสร้างกระแสอยู่ในบ้านเรา เพราะจากการสืบค้นข้อมูลใน Google แทบไม่มีใครเอ่ยถึงเจ้าของหรือผู้ผลิตของแบรนด์เลย รู้เพียงแต่ว่ามีการใช้ชื่อต่อท้ายว่า by Cakewalk
              





     ซึ่งจากการเสิร์ชหาข้อมูลเพิ่มเติมทำให้รู้ว่า Cakewalk ในที่นี้ ก็คือ “บริษัท เค้กวอล์คฟู้ด จำกัด” โรงงานผลิตเบเกอรี่ค้าปลีกและค้าส่งเพื่อผู้ประกอบการ โดยเมื่อกดเข้าไปดูในเว็บไซต์ Cakewalkbangkok ทำให้รู้ที่มาเพิ่มเติมว่าจริงๆ แล้ว Cake Walk นั้นเริ่มต้นกิจการขึ้นมาจากร้านเค้กเล็กๆ แห่งหนึ่งย่านทองหล่อ ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2548 และมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักดีในการผลิตเค้ก 3 มิติ โดยมีเจ้าของร้าน คือ “ชรินทิพย์ พรธิติ” หญิงสาวที่หลงรักการทำเบเกอรี่เป็นชีวิตจิตใจ เคยได้เข้าทำงานในร้านอาหารและโรงแรมมีชื่อหลายแห่ง จนวันหนึ่งจึงตัดสินใจเปิดร้านของตัวเองขึ้นมา เหตุที่ใช้ชื่อว่า Cake Walk ก็เหมือนเป็นการล้อคำมาจากคำว่า Catwalk โดยมีตัวร้านเปรียบเสมือนรันเวย์ให้บรรดาเค้กต่างๆ ได้ออกมาอวดโฉมสวยงามแก่ลูกค้า
              

     จากข้อมูลดังที่กล่าวมานี้ จึงอาจสรุปได้ว่า Little C คือ แบรนด์ขนมปังของคนไทยอย่างแน่นอน โดยตัว C ที่ว่าอาจมาจากตัวย่อของแบรนด์ดั้งเดิมอย่าง Cake walk ก็ได้ เพราะใช้สัญลักษณ์เป็นตัว C เช่นกัน
 




 
เปิดตัวด้วยครัวซองต์ แต่มาดังด้วยขนมปังครีมนมสด
              

     โดย Little C เริ่มวางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อใด ไม่มีการระบุไว้แน่ชัด แต่จากการได้เข้าสืบค้นข้อมูลในเพจ Little C Bangkok พบว่าได้มีการลงรูปและเริ่มโปรโมตแบรนด์เมื่อเดือนพฤษภาคม 2561 ซึ่งก็สอดคล้องกับข้อมูลในเว็บไซต์ wongnai ที่เริ่มมีการเข้าไปรีวิวตั้งแต่ปี 2561 เช่นกัน โดยสินค้าแรกๆ ที่แบรนด์ได้นำออกวางจำหน่ายนั้นมีอยู่หลายชนิดด้วยกัน โดยเริ่มต้นมาจากครัวซองต์และเบเกอรี่ชนิดอื่นๆ ด้วย แต่ต่อมาภายหลังกลับได้รับความนิยมมากขึ้น จนเกิดปรากฏการณ์คนรอต่อคิวซื้อยาว ก็เพราะขนมปังครีมนมสดนั่นเอง ซึ่งเปิดตัวตามมาทีหลัง
              

     ส่วนเหตุผลว่าเพราะเหตุทำไม Little C ไปเปิดตัวขายขนมปังที่ไหน คนก็มักจะแห่ไปอุดหนุนกันอย่างเนื่องแน่นนั้น หากลองมาวิเคราะห์ดูแล้วน่าจะมาจากหลายปัจจัยด้วยกัน
              



     เริ่มที่ตัวของสินค้าเองก่อน ซึ่งว่ากันว่ารสชาติอร่อย เนื้อขนมปังนุ่ม ไส้เยอะ ครีมนมฮอกไกโดก็หวานมันกำลังดี ที่สำคัญทำสดใหม่ และไม่ใส่สารกันบูด เมื่อคุณภาพคับกล่องขนาดนี้บวกกับราคาย่อมเยาที่ขายเพียงชิ้นละ 25 บาท และโปรโมชั่นแบบ 4 แถม 1 ที่ขายมายาวนาน จึงไม่แปลกที่ขนมปัง Little C จะได้รับความนิยมมากขนาดนี้ จนบางทีก็เรียกแบรนด์ว่า Little C Milk Cream Bun หรือขนมปังไส้ครีมนมสดลิตเติ้ล ซี ไปเลย
 
 
มีหน้าร้านแค่สาขาเดียว แต่ออกบูธขายไปทั่วประเทศ
              

     อีกปัจจัยที่ถือเป็นเอกลักษณ์และจุดเด่นอีกอย่างของแบรนด์ Little C ก็คือ กลยุทธ์การทำตลาด เห็นว่าโด่งดังขนาดนี้แต่จริงๆ แล้วมีสาขาหลักแค่เพียงแห่งเดียวเท่านั้น คือ เซ็นทรัลพลาซา แกรนด์ พระราม 9 ที่เหลือนอกเหนือจากนี้ที่เห็นคนต่อคิวซื้อกันเยอะๆ นั้นมาจากการออกบูธกระจายไปตามพื้นที่ต่างๆ ซึ่งนับเป็นวิธีการทำธุรกิจและสร้างแบรนด์ที่น่าสนใจทีเดียว


     เพราะนอกจากจะได้กระจายสินค้าออกไปให้เป็นที่รู้จักออกไปในวงกว้าง ไม่ต้องยึดติดกับพื้นที่เดิมๆ ทำให้ได้พบเจอลูกค้าใหม่ๆ เป็นการสร้างโอกาสให้กับธุรกิจแล้ว การที่ Little C เปลี่ยนที่ไปเรื่อยๆ ใช้ลักษณะการขายแบบเฉพาะกิจ กลับทำให้ลูกค้าไม่เกิดความเบื่อหน่าย ไม่เป็นของตาย มิหนำซ้ำยังเฝ้ารอการกลับมาหรือเปิดตัวของแบรนด์ด้วย และนี่เองก็ได้ที่เป็นเหตุผลว่า เพราะเหตุใดการไปเยือนจังหวัดอุบลราชธานีครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของแบรนด์ที่ไปเปิดตัว จึงได้รับความสนใจจากลูกค้าอย่างล้นหลาม จนถึงขั้นเกิดปรากฏการณ์ต่อคิวซื้อกันแบบข้ามวันข้ามคืนแบกมุ้งไปนอนรอกันมาแล้ว ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรกของ Little C ที่เป็นแบบนี้ เพียงแต่อาจจะมากกว่าทุกครั้งที่เคยเป็นมาก็เท่านั้นเอง




     แถมนอกจากแบรนด์จะได้รับความนิยมอย่างท่วมท้นแล้ว ยังส่งต่ออานิสงส์ไปให้กับคนอื่นด้วย ที่เห็นได้ชัดก็จากตัวอย่างที่กล่าวไปแล้วในข้างต้นของผู้คนที่มาทำอาชีพเสริมรับจ้างหิ้ว นอกจากนี้ยังมีบางธุรกิจที่เกาะกระแสได้ทันและนำไปใช้ประโยชน์ให้เกิดขึ้นกับธุรกิจของตัวเองได้ด้วย ตัวอย่างเช่น ร้าน Diva ชาบู & ปิ้งย่าง ที่พอเห็นกระแสฟีเวอร์ดังกล่าว ก็จับมาทำโปรโมชั่นกับลูกค้าของตัวเองในวันนั้นเลย ด้วยการแจกขนมปังครีมนมฮอกไกโด​ 1 ชิ้น​ต่อ 1 ท่านฟรี! สำหรับลูกค้าที่สั่งบุฟเฟ่ต์ชุดทะเลหรือชุดเนื้อ​โค​ขุน​ แถมหากใครอยากฝากซื้อ ทางร้านก็ยังมีบริการรับหิ้วให้ได้ด้วย


     และทั้งหมดนี้ คือ เรื่องราวที่ของแบรนด์ Little C ขนมปังสุดฮอตที่ไปที่ไหนก็มีแต่คนต่อแถวรอซื้อยาวที่เราได้รวบรวมเอาไว้ เพื่ออาจเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการธุรกิจอื่นๆ บ้าง หรืออย่างน้อยๆ ในมุมของผู้อ่าน ก็เพื่อได้ทำความรู้จักกับแบรนด์ให้มากขึ้น จะได้ไม่งงว่า นี่คือขนมอะไร มาจากไหน และทำไมถึงมีคนยอมต่อคิวซื้อตั้งแต่เที่ยงคืนนั่นเอง
 
 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
 

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

อย่างอาร์ต! MAMAD แบรนด์แฟชั่น X ศิลปะ วาดลวดลายสไตล์ Semi Abstract สร้างความแปลก ออกแบบ “ศิลปะที่สวมใส่ได้”

“Me As My Art Daily” ศิลปะคือส่วนหนึ่งของตัวตนเราในทุกวัน คือนิยามของแบรนด์แฟชั่นสุดอาร์ตอย่าง MAMAD ที่นำเอาศิลปะและแฟชั่นมาผสานกัน กลายเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า และหมวกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ความแปลกตา และสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร

เค้กหรือมายากล!? ไอเดียสุดแหวก! เมื่อ “ราเมน” กลายเป็นเค้ก

Bob The Baker Boy ร้านเค้กในสิงคโปร์ทำให้คำว่า “เค้ก” เปลี่ยนไปตลอดกาล จาก "หน้าตา" เค้กที่แทบทุกคนเห็นแล้วต้องหยิบมือถือขึ้นมาถ่าย! ไอเดียแบบนี้เกิดจากความตั้งใจของเมย์ ฟง เจ้าของร้านสุดครีเอทีฟ

ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด ฉบับทายาทรุ่น 3 จาก 3 แบรนด์เก๋า หอยนางรม-น่ำเอี๊ยง-เด็กสมบูรณ์

ธุรกิจครอบครัวที่ผ่านรุ่น 3 ไปได้ต้องทำอย่างไร ? เราจะพาไปดูวิธี ‘ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด’ จาก 3 แบรนด์เก๋า: หอยนางรม - น่ำเอี๊ยง - เด็กสมบูรณ์" ​ ที่ไม่เพียงรักษามรดกครอบครัวไว้ แต่ยังสร้างโอกาสใหม่ๆ อีกด้วย ​