อวสานธุรกิจโลกสวย ทำธุรกิจยุคนี้ต้องพร้อมล้ม! พร้อมแปลงทุกอย่างกลับมาเป็นเงิน หากไม่ถึงฝัน

TEXT :    Surangrak Su.

PHOTO : The Maldives Prachin




        การทำธุรกิจในยุควิกฤตที่สถานการณ์ไม่แน่นอน อีกทั้งปัจจัยแวดล้อมต่างๆ เช่น พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทำให้หลายคนพูดว่าอายุธุรกิจยุคปัจจุบันนี้สั้นลงกว่าเดิมมาก จากที่เคยหวังให้สืบทอดยืนยาวไปถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน ก็อาจหดสั้นลงเหลือแค่ 3 – 5 ปี ก็ต้องมีอันปรับตัวเพื่อให้เดินหน้าต่อไปได้


         ดังนั้นแล้วหากเราสามารถเตรียมตัวรับมือล่วงหน้าเอาไว้ก่อนได้ตั้งแต่เริ่มต้นทำธุรกิจคิดเผื่อถึงสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในภายภาคหน้า ก็อาจทำให้หากต้องล้ม ก็ล้มได้แบบเจ็บตัวน้อยที่สุด มีปลายทางเตรียมรอไว้ให้อยู่แล้ว





เปลี่ยนจุดด้อย ให้เป็นจุดเด่น

 
               
         The Maldives Prachin (มัลดีฟส์ ปราจีน) หนึ่งในที่พักที่ถูกแนะนำบอกต่อในโลกโซเชียล ซึ่งแม้ในช่วงวิกฤตจากโรคระบาดก็ยังคงมีลูกค้าแวะเวียนมาใช้บริการอยู่เสมอ โดยหากเป็นช่วงวันหยุดอาจต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อย 2 -3 สัปดาห์จึงจะได้เข้าพัก ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าที่พักดังกล่าวจะเริ่มต้นกิจการยังไม่ถึงขวบปีดีด้วยซ้ำในช่วงโควิด-19 รอบแรกที่ผ่านมานี่เอง


        ศิระ อิศวกรกุล หนุ่มวิศวกรรมโยธาเจ้าของที่พักเล่าที่มาให้ฟังว่า “จริงๆ หลายคนสงสัยว่าทำไมเราจึงมาเริ่มต้นในช่วงวิกฤต บอกตามตรงว่าในตอนนั้นเราก็ไม่ได้คิดว่าสถานการณ์จะลากยาวมาจนทุกวันนี้ ตอนนั้นมาปั่นจักรยานที่เขาใหญ่บ่อย ก็แค่คิดอยากมีที่สักแปลงหนึ่งใกล้ๆ เขาใหญ่ บังเอิญมาเจอกับที่ตรงนี้เป็นที่ที่เขาขุดหน้าดินไปขายพื้นที่บางส่วนจึงเป็นสระน้ำขนาดใหญ่ ทำให้ได้มาในราคาไม่แพง แต่ด้วยความที่เป็นผืนใหญ่ 40 กว่าไร่ เอาไว้อยู่กันเองก็กลัวจะเหงาเกินไป เลยอยากแชร์ให้คนอื่นมาอยู่ด้วย


         จากที่เคยทำงานปลูกสร้างอาคารอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ มาเยอะ จึงทำให้มองออกว่าพื้นที่ตรงนี้มีจุดเด่นยังไง และเราควรจัดการยังไงให้ขายได้ ซึ่งไลฟ์สไตล์ส่วนหนึ่งของเราเองเป็นคนชอบท่องเที่ยวอยู่แล้วด้วย เลยรู้ความต้องการดังกล่าว โดยที่พักของเราจะอยู่ติดริมน้ำเลย ดังนั้นจึงสามารถเล่นน้ำ พายเรือ นั่งตกปลา ตั้งแคปม์ ปิ้งย่างจากห้องพักได้เลย นอกจากนี้เรายังมีบริการขายหมูกระทะ มีคาเฟ่ร้านกาแฟ เรียกว่ามีครบหมดเขาสามารถอยู่ในที่พักได้สบาย โดยไม่ต้องออกไปไหน”





ง่าย ถูก เร็ว และดี

 

          นอกจากจุดเด่นที่น่าสนใจของที่พักแล้ว ตั้งแต่แลนด์สเคปที่สวยงามติดบึงน้ำขนาดใหญ่ สามารถทำกิจกรรมได้หลากหลายแล้ว แนวคิดในการจัดตั้งธุรกิจขึ้นมายังน่าสนใจไม่แพ้กันด้วย โดยปัจจุบันที่พักของมัลดีฟส์ ปราจีน ประกอบไปด้วยบ้านตู้คอนเทนเนอร์ 8 หลัง รถบ้าน 4 คัน ราคาอยู่ที่ 1,100 – 1,800 บาท/คืน สำหรับลูกค้า 2 คน


           ศิระให้เหตุผลว่าที่เขาเลือกทำที่พักในรูปแบบนี้ขึ้นมา นอกจากจะเป็นเทรนด์นิยมของนักท่องเที่ยวยุคนี้แล้ว ยังมาจากหลายปัจจัยด้วยกัน ข้อแรก คือ เพราะเป็นรูปแบบที่สามารถทำได้ง่าย แค่ติดตั้งและตกแต่งก็สามารถทำเป็นห้องพักได้เลย ทำให้ไม่ต้องใช้เวลานาน ข้อสอง คือ เป็นการลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เนื่องจากลงทุนไม่มากเกินไป แถมหากเกิดอะไรขึ้นยังสามารถขายออกไปเป็นเงินกลับคืนมาให้ด้วย





           “เราไม่เคยทำธุรกิจที่พักมาก่อน และก็ไม่คาดคิดว่าจะสำเร็จมาไกลถึงขนาดนี้ ตอนนั้นเลยพยายามคิดหาวิธีสร้างห้องพักขึ้นมาที่ง่ายที่สุด หรือสุดท้ายถ้าไปต่อไม่ได้ หรือเจ๊งขึ้นมา เราก็สามารถขายต่อได้เงินคืนกลับมาบ้างไม่ว่าตู้คอนเทนเนอร์ รถบ้าน หรือพวกไม้ต่างๆ เราพยายามเลือกใช้วัสดุที่คิดว่าจะสามารถไปต่อได้ ถ้าทำรูปแบบอื่น เช่น อาคารถาวร ถ้าเจ๊งขึ้นมาก็คงต้องปล่อยทิ้งไป อย่างตู้คอนเทนเนอร์เราก็ใช้มือสองราคา 3 - 5 หมื่นบาทรวมซ่อมแซมแล้ว เราแค่ถมดินรอไว้ ตอกเสาเข็ม เอาตู้มาวาง และตกแต่งภายในก็ใช้ได้แล้ว


          “จริงๆ ก่อนหน้าที่คิดจะทำเราก็มองรูปแบบที่พักอื่นๆ ไว้เหมือนกัน เช่น บ้านไม้ไผ่ ราคาประหยัดกว่าก็จริง แต่การบริหารจัดการต้องดูแลซ่อมแซมกันอยู่บ่อยๆ เพราะไม่ทนทาน ตู้คอนเทนเนอร์และรถบ้านจึงตอบโจทย์เราที่สุด โดยเร็วๆ นี้เรากำลังจะขยายห้องพักเพิ่มขึ้นมาอีก 4 หลัง คือ รถบ้าน 2, เต็นท์โดมยาง 1, เรือ 1 ห้อง เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภคมากขึ้น ลูกค้าไม่ต้องเดินทางไกล แค่ 2 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ ก็สามารถสัมผัสบรรยากาศเหมือนได้อยู่เขาค้อ อยู่เชียงใหม่แล้ว” ศิระกล่าว





          นอกจากแนวคิดเตรียมรับมือไว้ล่วงหน้า ศิระเล่าว่าอนาคตเขายังคิดหาวิธีเพิ่มเติมรายได้เข้ามาให้กับธุรกิจด้วย โดยการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ให้มากขึ้น
               

       “อนาคตคิดอยากจะเอาปลามาเลี้ยงทำกระชังปลาเพิ่มขึ้นมาในพื้นที่อีกฝั่งหนึ่งแยกจากที่พัก เพื่อจะได้มีรายได้เพิ่มขึ้น แต่คงต้องวางระบบกันอีกที หรือไม่ก็อาจเอาเครื่องเล่นมาลงเพื่อให้ลูกค้ามีกิจกรรมทำมากขึ้น ไม่เงียบเกินไป โดยจัดโซนเป็นอีกฝั่งหนึ่งแยกออกไปจากโซนห้องพัก ค่อยๆ คิดค่อยๆ ทำไปครับ”





          จากแนวคิดทั้งหมดที่ศิระบอกเล่าให้ฟังทำให้รู้สึกว่าการทำธุรกิจในยุคปัจจุบันนี้ที่ต้องเผชิญกับปัจจัยแวดล้อมมากมายที่อาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา การที่เราสามารถเตรียมตัวไว้ได้ก่อนตั้งแต่เริ่มต้นเหมือนพยายามหาทางหนีทีไล่เตรียมเอาไว้ อาจช่วยให้เมื่อถึงเวลาคับขันจริงๆ เราอาจมีฮาวทูหรือชุดแก้ไขปัญหาที่สามารถหยิบจับมาใช้ได้อย่างทันท่วงที และสามารถเอาตัวรอดได้ในที่สุด SME คนใดอยากลองนำไปใช้บ้าง ก็เป็นวิธีที่น่าสนใจไม่น้อย
 
 



www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

อย่างอาร์ต! MAMAD แบรนด์แฟชั่น X ศิลปะ วาดลวดลายสไตล์ Semi Abstract สร้างความแปลก ออกแบบ “ศิลปะที่สวมใส่ได้”

“Me As My Art Daily” ศิลปะคือส่วนหนึ่งของตัวตนเราในทุกวัน คือนิยามของแบรนด์แฟชั่นสุดอาร์ตอย่าง MAMAD ที่นำเอาศิลปะและแฟชั่นมาผสานกัน กลายเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า และหมวกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ความแปลกตา และสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร

เค้กหรือมายากล!? ไอเดียสุดแหวก! เมื่อ “ราเมน” กลายเป็นเค้ก

Bob The Baker Boy ร้านเค้กในสิงคโปร์ทำให้คำว่า “เค้ก” เปลี่ยนไปตลอดกาล จาก "หน้าตา" เค้กที่แทบทุกคนเห็นแล้วต้องหยิบมือถือขึ้นมาถ่าย! ไอเดียแบบนี้เกิดจากความตั้งใจของเมย์ ฟง เจ้าของร้านสุดครีเอทีฟ

ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด ฉบับทายาทรุ่น 3 จาก 3 แบรนด์เก๋า หอยนางรม-น่ำเอี๊ยง-เด็กสมบูรณ์

ธุรกิจครอบครัวที่ผ่านรุ่น 3 ไปได้ต้องทำอย่างไร ? เราจะพาไปดูวิธี ‘ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด’ จาก 3 แบรนด์เก๋า: หอยนางรม - น่ำเอี๊ยง - เด็กสมบูรณ์" ​ ที่ไม่เพียงรักษามรดกครอบครัวไว้ แต่ยังสร้างโอกาสใหม่ๆ อีกด้วย ​