Sme, sme Thailand, บริหารจัดการ, ธุรกิจโรงแรม, จัดการความเสี่ยง, Risk Management

TEXT : Mr.Natthapat  Kamolpollapat (Pop)
 


        ช่วงที่ธุรกิจอุตสาหกรรมโรงแรมกำลังประสบกับมรสุม COVID-19 อยู่นี้นอกเหนือจากคำถามที่เกิดขึ้นว่า “จะต้องทำอย่างไร? ใช้วิธีการอย่างไร?” จึงจะสามารถรอดพ้นวิกฤตนี้ไปได้


       ยังมีอีกหนึ่งคำถามที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของการปรับตัวรองรับ New Normal ในด้านการทำงาน การให้บริการแขกผู้เข้าพัก และที่สำคัญ “เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะถูกนำมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการของโรงแรม” ว่าจะต้องทำอย่างไรและทำให้เป็นไปในทิศทางไหน? แผนกอะไรบ้างที่จำเป็นต้องปรับตัว?


        ซึ่งคำตอบก็คงตอบได้ ณ จุดนี้ว่าทุกแผนกของโรงแรมอาจต้องเจอกับ New Wave ของรูปแบบการทำงานรูปแบบใหม่ที่จะเข้ามาจากการที่ผู้ประกอบการโรงแรมต้องพยามปรับตัวเพื่อลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้พร้อมวางแผนการบริหารจัดการความเสี่ยง (Risk Management) ในอนาคตเพราะมีบทเรียนจากวิกฤต COVID-19 ที่ผ่านมาแน่นอนว่าทุกแผนกต้องทำการปรับตัวรับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไปแต่มีอยู่ 2 แผนกที่น่าจะเจอความท้าทายมากเป็นพิเศษจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงในโลกธุรกิจแห่งอนาคตนั่นคือ



 

1. Financial Department หรือฝ่ายการเงิน


          ความท้าทายแรกที่ส่วนงานนี้หลีกเลี่ยงไม่ได้ในนั่นคือการปรับตัวเข้าสู่ Cashless Society (สังคมไร้เงินสด), Cryptocurrency (สกุลเงินดิจิทัล) และ Utility Token


        1.1 Cashless Society หากจะนึกภาพในปัจจุบันถ้าพูดถึงเรื่องของ “สังคมไร้เงินสด” เราคงจะนึกภาพการชำระเงินของแขกให้กับโรงแรมในรูปแบบของการสแกน QR Code, การจ่ายผ่านระบบ Promptpay, เป็นหลัก แต่ในปัจจุบันและอนาคตอันใกล้มันจะมีนิยามมากกว่านั้นเพราะภาคอุตสาหกรรมการเงินซึ่งมีผู้เล่นหลักเป็นสถาบันการเงินกำลังถูกผู้เล่นใหม่ในนิยามของความเป็น FinTech หรือ Financial Technology เข้ามาสร้างการให้บริการทางการเงินรูปแบบใหม่ซึ่งบริการหนึ่งที่ก่อนหน้านี้เริ่มค่อยๆ ได้รับความนิยมและมาเติบโตอย่างก้าวกระโดดขึ้นอีกในช่วง COVID-19 ที่ผู้บริโภคต้องการลดกิจกรรมที่จะทำให้เกิดการสัมผัสอันเสี่ยงต่อการติดเชื้อและธนบัตรเองก็เป็นอีกแหล่งสะสมเชื้อโรคที่ต้องระมัดระวังนั่นคือบริการ e-Money


        โดยการสำรวจจากธนาคารแห่งประเทศไทยจนถึง ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2563 พบว่ามีผู้ใช้งานบัญชี E-Money มากถึง 99.43 ล้านบัญชีในช่วงสถานการณ์ COVID-19 ระบาดมีการเพิ่มขึ้นมากถึงเดือนละ 2 ล้านบัญชี ผู้ให้บริการ E-money ที่เรารู้จักกันดี เช่น True money wallet, Rabbit Linepay, Airpay, mPay, grabpay, Dolfin, ในระดับโลก เช่น Aliay, Wechatpay, Apple Pay, Amezon Pay, ซึ่งระบบเหล่านี้แม้จะต้องเติมเงินหรือผูกกับบัญชีบัตรเครดิตเข้าไปเพื่อเติมเงินแต่สิ่งที่เป็นข้อได้เปรียบและเริ่มทำให้บริการเหล่านี้ได้รับความนิยมนอกเหนือจากการลดการสัมผัสคือการที่ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องเปิดบัญชีธนาคารเพื่อให้สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้เพียงแค่สมัครเปิดบัญชีกับผู้ให้บริการก็สามารถใช้บริการและเติมเงินเข้าระบบก็สามารถใช้บริการกับ e-Money เจ้าต่างๆ ได้แล้ว


         ความท้าทายของฝ่ายการเงินในที่นี้คือเมื่อพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน ความนิยมเปลี่ยน แม้ภาคอุตสาหกรรมการเงินจะได้รับผลกระทบโดยตรงแต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่ามันส่งผลกระทบทางอ้อมกับอุตสาหกรรมโรงแรมด้วยเช่นกัน ดังนั้นการที่ต้องศึกษาและหาทางเชื่อมต่อระบบการชำระเงินของโรงแรมกับผู้ให้บริการ e-Money เป็นอีกความท้าทายหนึ่งของฝ่ายการเงินของโรงแรม





         1.2 Cryptocurrency หรือสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งปัจจุบันนี้กำลังได้รับความนิยมเพราะเป็นอีกหนึ่งหนทางในการเก็งกำไรของนักลงทุนทั้งระยะสั้นและระยะยาว ทั่วโลกมีจำนวนผู้ใช้ Blockchain Wallet Users สำหรับเก็บรักษาเงิน Cryptocurrency ของตนเองมากกว่า 68.42 ล้าน Users (www. financesonline.com/number-of-blockchain-wallet-users) ในด้านการขายและการตลาดนี่คือโอกาสในการเข้าถึงฐานลูกค้ากลุ่มใหม่คือกลุ่มผู้ที่ถือสกุลเงิน Cryptocurrency ต่างๆ และกำลังหาทางในการนำสกุลเงินเหล่านั้นของตนเองไปใช้ในชีวิตประจำวันให้ได้มากขึ้น ซึ่งการท่องเที่ยวก็ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ลูกค้ากลุ่มนี้มองหาโอกาสในการนำเงิน Cryptocurrency ของตนเองไปใช้


          ในส่วนของฝ่ายการเงินนี่คืออีกหนึ่งความท้าทายเพราะในสภาวะของการฟื้นฟูธุรกิจโรงแรมจำเป็นที่จะต้องมองหาทุกโอกาสที่เข้ามาและตลาดนี้ถือเป็นอีกหนึ่งตลาดที่มีการเติบโตอย่างน่าสนใจแน่นอนว่าความซับซ้อนในการรับชำระค่าบริการโดยใช้สกุลเงิน Cryptocurrency ย่อมมีรายละเอียดที่ต้องเรียนรู้อย่างระมัดระวังทำให้ต้องทำความเข้าใจอย่างมากในช่วงแรกยังไม่นับรวมความผันผวนของสกุลเงิน Cryptocurrency ต่างๆ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความท้าทางที่ฝ่ายการเงินต้องเรียนรู้และหาทางป้องกันแม้จะมองว่าการรับชำระค่าบริการด้วยสกุลเงิน Cryptocurrency จะเป็นปัญหาในช่วงแรกและอาจได้รับแรงต้านจากพนักงานเพราะต้องปรับตัวหลายๆ อย่างแต่ในระยะยาวนี่คืออีกหนึ่งตลาดที่ไม่สามารถปฏิเสธความน่าสนใจได้ในอนาคตอันใกล้นี้ซึ่งอาจจะเชื่อมโยงไปสู่การเป็น Digital Asset Management ได้อีกในระยะถัดไป





        1.3 Utility Token (พร้อมใช้) หรือ Token เพื่อการนำไปใช้ประโยชน์ซึ่งสามารถนำไปใช้งานได้ตั้งแต่วันแรกที่ซื้อ เป็นอีกหนึ่งวิศวกรรมทางการเงิน (Financial Engineering) ที่จะถูกหยิบนำมาใช้ในโรงแรมที่ต้องการเพิ่มกระแสเงินสด (Cash Flow) เนื่องจากลักษณะของ Utility Token จะเป็นการให้สิทธิประโยชน์ต่อผู้ถือ ซึ่งในทางการสร้างกระแสเงินสดนั้นถ้าสิทธิประโยชน์ที่โรงแรมให้กับผู้ถือ Token น่าสนใจจะเอื้อต่อการนำมาซึ่งกระแสเงินสดรับล่วงหน้าที่ดี เช่น กรณีที่โรงแรมออก Utility Token ออกมาจำหน่ายและให้สิทธิผู้ถือในการได้รับส่วนลด 50% จากการจองในทุกระดับราคาห้องพักและทำการออกจำหน่าย Token กรณีนี้โรงแรมจะได้รับกระแสเงินสดเข้ามาก่อนล่วงหน้าเพราะการนำมาใช้งานลูกค้าจะค่อยๆ ทยอยมาใช้งานทีหลังถือเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของฝ่ายการเงินในการต้องศึกษาและทำความเข้าใจกับระบบการทำงานของ Utility Token (พร้อมใช้) ที่น่าจะมาเป็นประโยชน์ให้กับโรงแรมได้



 

2. แผนก IT


        ซึ่งหากมองเนื้องานของฝ่ายนี้ในโรงแรมยุคแรกๆ โลกยังไม่ก้าวเข้าสู่ความเป็น Digitalization ที่ทุกกิจกรรมของมนุษย์มีระบบ Digital เข้ามาเกี่ยวข้องเหมือนทุกวันนี้งาน IT ในช่วงแรกจะเป็นไปในลักษณะของการ “ดูระบบการทำงานด้าน IT ของโรงแรมให้แผนกต่างๆ ทำงานได้อย่างไหลลื่นไม่ติดขัด” ยุคต่อมาที่ Internet เริ่มมีความสำคัญมากขึ้น


         งานของ IT นอกจากจะเกี่ยวข้องกับการดูแลระบบต่างๆ ในโรงแรมแล้วยังเพิ่มเติมเรื่องของ “การดูแลสัญญาณ Internet ให้กับแขกผู้เข้าพักได้ใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย” เพราะในยุคแรก Internet ตามโรงแรมจะไม่ได้ถูกปล่อยให้ใช้งานฟรีแบบทุกวันนี้แต่จะเป็นการขายตาม Package การใช้งานซึ่งความคาดหวังของแขกจะสูงเพราะเป็นการจ่ายเงินเพื่อให้ได้มาซึ่งการบริการ สำหรับในอนาคตอันใกล้นี้สิ่งที่เป็นความท้าทายของแผนก IT คือ


          2.1 ระบบ Cyber Security หรือ การรักษาความปลอดภัยทาง Cyber ถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากในปัจจุบันและในอนาคตเนื่องจากโรงแรมมีปริมาณข้อมูลจำนวนมหาศาลจากการใช้งานของแขกผู้เข้าพักและจากการที่แขกทุกคนสามารถใช้ระบบ Internet ได้ทำให้การเข้าสู่ Website บาง Website ของแขกอาจนำมาซึ่งการเข้าโจมตีระบบจากผู้ไม่หวังดีรวมทั้งการถูก Hack ข้อมูลของแขกและโรงแรมออกไปใช้ในทางที่เสียหายได้


        แน่นอนว่าการจะหาฝ่าย IT ที่มีความชำนาญด้านระบบ Cyber Security นี้อาจหาได้ยากเพราะในประเทศไทยมีน้อยคนที่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้อย่างแท้จริงซึ่งถือเป็นอาชีพที่ยังขาดแคลนบุคคลากรที่มีอยู่ส่วนให่นั้นจะถูกบริษัทใหญ่และหน่วยงานรัฐซื้อตัวไปดูแลระบบขององค์กรเพราะเรื่องความปลอดภัย Cyber เป็นสิ่งสำคัญที่ทุกองค์กรต้องให้ความสำคัญเนื่องด้วยสอดคล้องกับกระแสธุรกิจยุคใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย Big Data ทุกภาคส่วนทั้งรัฐและเอกชนจึงพยายามเก็บข้อมูลประชาชนและผู้บริโภคให้ได้มากที่สุดเพื่อนำไปวางแผนด้านนโยบายสำหรับภาครัฐและด้านการตลาดสำหรับภาคเอกชน แต่เรื่องนี้ทางออกของโรงแรมอาจเป็นการจ้างผู้เชี่ยวชาญมาดูแลหรือวางระบบให้โดยทำงานร่วมกับฝ่าย IT ของโรงแรมก็จะสามารถช่วยป้องกันปัญหานี้ได้และนั่นคือความท้าทายของแผนก IT ในโรงแรม





        2.2 พ.ร.บ. ข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ซึ่งมีการประกาศใช้ออกมาแล้วและแน่นอนว่าเมื่อเป็นกฎหมายย่อมต้องปฎิบัติตามเพราะมีโทษที่กำหนดไว้หากเกิดการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคลออกไปจากโรงแรม


         ความท้าทายนี้จะสอดคล้องกับระบบ Cyber Security ด้านบนเพราะถ้าป้องกันให้ดีการรั่วไหลนี้จะไม่เกิด พ.ร.บ.ข้อมูลส่วนบุคคลแม้จะเป็นเรื่องของฝ่ายกฎหมายแต่ก็เป็นอีกหนึ่งความท้าทายของฝ่าย IT ที่ต้องทำความเข้าใจสาระสำคัญของข้อมูลด้วยเช่นกัน เพราะโรงแรมต้องมีการเชื่อมต่อกับระบบ Software ภายนอกในบางแผนก เช่น Front Office, Sales & Marketing, OTA, Finance, HR, ฯลฯ ดังนั้นเมื่อเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการภายนอกแม้หลายรายจะมีความปลอดภัยด้านการใช้ระบบแต่ก็ต้องยอมรับว่าความเสี่ยงที่จะเกิดการรั่วไหลของข้อมูลจากการต้องส่งข้อมูลภายในของโรงแรมไปทำการวิเคราะห์และประมวลผลย่อมมีตามมา


         ดังนั้นความท้าทายของฝ่าย IT ที่เพิ่มขึ้นมาในอนาคตจะเป็นเรื่องของการต้องวิเคราะห์และประเมินความเสี่ยงในการเชื่อมต่อกับระบบภายนอกที่ต้องละเอียดและมีความเข้าใจพร้อมเสนอแนวทางป้องกันเบื้องต้นได้มากขึ้นกว่าแต่ก่อน


         ทั้งหมดนี้คือส่วนงานที่น่าจะได้รับความท้าทายมากที่สุดในโรงแรมหลังการกลับมาของกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวซึ่งเป็นเพียงการคาดการณ์เบื้องต้นเพราะในอนาคตรายละเอียดอาจมีมากขึ้นกว่านี้ก็เป็นได้แต่ถึงอย่างไรเราก็คงต้องยอมรับว่าอาจจะต้องมีการปรับรูปแบบการดำเนินการในโรงแรมอีกครั้งในระยะเวลาอันใกล้นี้
 
 




www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

อย่างอาร์ต! MAMAD แบรนด์แฟชั่น X ศิลปะ วาดลวดลายสไตล์ Semi Abstract สร้างความแปลก ออกแบบ “ศิลปะที่สวมใส่ได้”

“Me As My Art Daily” ศิลปะคือส่วนหนึ่งของตัวตนเราในทุกวัน คือนิยามของแบรนด์แฟชั่นสุดอาร์ตอย่าง MAMAD ที่นำเอาศิลปะและแฟชั่นมาผสานกัน กลายเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า และหมวกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ความแปลกตา และสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร

เค้กหรือมายากล!? ไอเดียสุดแหวก! เมื่อ “ราเมน” กลายเป็นเค้ก

Bob The Baker Boy ร้านเค้กในสิงคโปร์ทำให้คำว่า “เค้ก” เปลี่ยนไปตลอดกาล จาก "หน้าตา" เค้กที่แทบทุกคนเห็นแล้วต้องหยิบมือถือขึ้นมาถ่าย! ไอเดียแบบนี้เกิดจากความตั้งใจของเมย์ ฟง เจ้าของร้านสุดครีเอทีฟ

ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด ฉบับทายาทรุ่น 3 จาก 3 แบรนด์เก๋า หอยนางรม-น่ำเอี๊ยง-เด็กสมบูรณ์

ธุรกิจครอบครัวที่ผ่านรุ่น 3 ไปได้ต้องทำอย่างไร ? เราจะพาไปดูวิธี ‘ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด’ จาก 3 แบรนด์เก๋า: หอยนางรม - น่ำเอี๊ยง - เด็กสมบูรณ์" ​ ที่ไม่เพียงรักษามรดกครอบครัวไว้ แต่ยังสร้างโอกาสใหม่ๆ อีกด้วย ​