ไม่มีวิกฤตครั้งไหนที่ยาวนานเท่าครั้งนี้ ธุรกิจโดยเฉพาะ SME กำลังประสบปัญหากระแสเงินสดขาดสภาพคล่อง เพราะค้าขายทำรายได้ไม่มากเท่าช่วงเวลาปกติ แต่รายจ่ายกลับคงที่หรือมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ และบางทีวางบิลลูกค้าไป ก็ใช่จะได้เงินมาทันที ต้องติดเครดิตเทอมตั้งแต่ 15 วันไปจนถึง 60 วันเลยทีเดียว แถมบางทีถูกเบี้ยวหนี้ซะอย่างนั้น
Facebook เองก็ได้ยินว่าซัพพลายเออร์ของบริษัทกำลังดิ้นรนต่อสู้กับการระบาดของโควิด-19 มากแค่ไหน มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของ Facebook จึงมองหาวิธีที่จะสามารถช่วยซัพพลายเออร์ของธุรกิจตัวเอง และเริ่มต้นทดลองโปรแกรม Facebook Invoice Fast Track ซื้อใบแจ้งหนี้ที่ค้างชำระจากธุรกิจเหล่านั้นเมื่อปี 2563 ที่ผ่านมา ธุรกิจสามารถส่งใบแจ้งหนี้คงค้างขั้นต่ำ 1,000 ดอลลาร์มาให้ Facebook ซึ่งเมื่อพิจารณารับซื้อแล้วจะได้รับการชำระเงินภายในไม่กี่วัน แล้วหลังจากนั้นลูกค้าจะชำระหนี้ที่ค้างอยู่ให้กับ Facebook แทน โดยเบื้องต้นจะมีค่าธรรมเนียมเพียง 1 เปอร์เซ็นต์ของมูลค่าใบแจ้งหนี้
วิธีนี้จะทำให้เงินไปอยู่ในมือของ SME เร็วขึ้น และ Facebook จะเป็นผู้รับความเสี่ยงที่ต้องรอเงินจำนวนนั้นไว้เอง เพราะสำหรับธุรกิจใหญ่ที่สร้างรายได้เกือบ 86 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2563 การรอชำระเงินนั้นเป็นเรื่องเลวร้ายน้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับธุรกิจขนาดเล็ก
หลังจากที่ทดลองใช้โปรแกรมนี้กับซัพพลายเออร์ของตัวเองแล้วประสบความสำเร็จอย่างมาก ตอนนี้ Facebook กำลังขยายโปรแกรมด้วยวงเงินสูงถึง 100 ล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็กประมาณ 30,000 แห่ง โดยเฉพาะธุรกิจที่มีเจ้าของเป็นผู้หญิง LGBTQ+ ชนกลุ่มน้อยทางเชื้อชาติ ทหารผ่านศึกของกองทัพสหรัฐฯ หรือคนพิการ
หนึ่งในผู้ประกอบการที่ได้รับการช่วยเหลือผ่านโปรแกรมนี้ ก็คือ Lisa Dunnigan ผู้ร่วมก่อตั้ง The Wright Stuff Chics ซึ่งทำธุรกิจขายสื่อการสอนและการจัดประชุมให้กับครูอาจารย์ สถานการณ์โควิดบีบคั้นให้ Dunnigan ต้องยกเลิกกิจกรรมที่บริษัทจัดขึ้น แล้วหันไปจัดการประชุมเสมือนจริงแทน แต่ลูกค้าหลายคนชำระเงินด้วยคำสั่งซื้อที่ใช้เวลานานมากในการชำระ Dunnigan จึงส่งใบสมัครไปที่ Facebook และได้รับเงิน 10,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในไม่กี่วันหลังจากนั้น และนั่นไม่ใช่ครั้งเดียว เธอสมัครเข้าร่วมโปรแกรมอีกหลายครั้ง
โปรแกรมนี้เป็นความพยายามของ Facebook ในการสร้างความสัมพันธ์ในระยะยาวกับกลุ่มธุรกิจขนาดเล็ก เพราะกลุ่มนี้ล่ะที่เป็นผู้ใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ในการโฆษณาและสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายของพวกเขา
ที่มา : www.cnbc.com
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR
“Me As My Art Daily” ศิลปะคือส่วนหนึ่งของตัวตนเราในทุกวัน คือนิยามของแบรนด์แฟชั่นสุดอาร์ตอย่าง MAMAD ที่นำเอาศิลปะและแฟชั่นมาผสานกัน กลายเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า และหมวกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ความแปลกตา และสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร
Bob The Baker Boy ร้านเค้กในสิงคโปร์ทำให้คำว่า “เค้ก” เปลี่ยนไปตลอดกาล จาก "หน้าตา" เค้กที่แทบทุกคนเห็นแล้วต้องหยิบมือถือขึ้นมาถ่าย! ไอเดียแบบนี้เกิดจากความตั้งใจของเมย์ ฟง เจ้าของร้านสุดครีเอทีฟ
ธุรกิจครอบครัวที่ผ่านรุ่น 3 ไปได้ต้องทำอย่างไร ? เราจะพาไปดูวิธี ‘ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด’ จาก 3 แบรนด์เก๋า: หอยนางรม - น่ำเอี๊ยง - เด็กสมบูรณ์" ที่ไม่เพียงรักษามรดกครอบครัวไว้ แต่ยังสร้างโอกาสใหม่ๆ อีกด้วย