แค่คิดมุมกลับปรับธุรกิจให้โตได้ ไอเดียฟื้นธุรกิจในงบจำกัดของสวนสนุก USJ เพิ่มยอดลูกค้าจาก 70,000 เป็น 400,000 คน

 

         เชื่อว่าตอนนี้หลายคนกำลังหาทางฟื้นธุรกิจตัวเอง แต่มองไปที่งบประมาณแล้วอาจต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ ทว่าถ้าตัดในเรื่องเงินๆ ทองๆ ออกไป แล้วลองคิดมุมกลับก็อาจทำให้ธุรกิจที่กำลังซบเซากลับมาเปรี้ยงได้ เหมือนอย่างเช่นไอเดียเจ๋งๆ ของชายที่ชื่อ โมริโอกะ สึโยชิ เจ้าของผลงานที่ทำให้สวนสนุก Universal Studio Japan: USJ กลับมามีชีวิตชีวาได้อย่างเหลือเชื่อ


   
           ครั้งหนึ่งสวนสนุก USJ เคยเกิดวิกฤตครั้งใหญ่รายได้ลดลงฮวบฮาบ ทางเจ้าของสวนสนุกเองก็พยายามสรรหาของเล่นใหม่ๆ มาดึงดูดลูกค้า แต่เครื่องเล่นชิ้นหนึ่งต้องลงทุนสูงมาก ประกอบกับรายได้ที่ลดลง บวกลบต้นทุนแล้วก็คิดว่าไม่น่าจะคุ้ม แต่ในที่สุดเขาก็ได้เครื่องเล่นใหม่ที่แทบจะเรียกว่าไม่ต้องลงทุนมากมายมาสร้างรายได้ให้กับสวนสนุกอีกครั้ง


           ถ้าคุณมีงบจำกัดและต้องการทำการตลาดนี่อาจเป็นไอเดียตั้งต้นของคุณ




ตั้งเป้าหมายให้ใหญ่



         ในขณะที่สวนสนุก USJ เจอสถานการณ์เลวร้ายและยังหาทางออกไม่เจอ ช่วงนั้นบริษัทก็ได้พนักงานคนใหม่ชื่อ โมริโอกะ สึโยชิ มารับหน้าที่อัศวินโดยโจทย์แรกที่เขาได้รับคือ ทำอย่างไรก็ได้ให้มีลูกค้ากลับเข้ามาสวนสนุก


​            จากโจทย์ที่ได้รับมาสิ่งที่สึโยชิ ทำคือ การหาข้อมูล ย้อนกลับไปดูกิจกรรมที่สวนสนุก USJ เคยทำไว้ แล้วเขาก็สะดุดกับกิจกรรมหนึ่งคือ เทศกาลปล่อยผีที่สามารถดึงดูดให้คนมาเที่ยวสวนสนุกแห่งนี้ได้ โดยจากสถิติที่เคยทำไว้ประมาณ 7 หมื่นคน


          แทนที่จะตั้งเป้าดึงให้มีผู้คนกลับเข้ามาเท่าเดิม สึโยชิ กลับท้าทายตัวเองด้วยการตั้งเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้นคือ อยากเพิ่มจำนวนผู้เยี่ยมชมเป็นเท่าตัวจาก 7 หมื่น เป็น 1.4 แสนคน 


           ภายใต้ความท้าทายทำให้ชายผู้นี้ต้องทำงานอย่างหนัก ภารกิจต่อไปของเขาคือ ศึกษาพฤติกรรมกลุ่มเป้าหมาย





            ที่ผ่านมาผู้ที่มาเที่ยวเทศกาลปล่อยผีของสวนสนุก USJ ส่วนมากจะเป็นผู้หญิง ที่ต้องการมาปลดปล่อยอารมณ์ตัวเองด้วยการกรีดร้องดังๆ หรือทำอะไรต่างๆ ที่ช่วงเวลาปกติไม่ค่อยได้ทำเท่าไหร่


           นอกจากจะรู้ว่ากลุ่มลูกค้าหลักเป็นผู้หญิงแล้ว เมื่อเขาศึกษาลึกไปอีกก็พบว่า ในเทศกาลปล่อยผีนี้ยังมีอีกหนึ่งอีเว้นต์เล็กๆ ที่ลูกค้าชอบคือ ซอมบี้ แต่สึโยชิประหลาดใจคือ ทำไมซอมบี้กิจกรรมที่มีคนชอบแต่ต้องไปจัดแสดงอยู่ในที่พื้นที่แคบๆ เท่านั้น หากปล่อยซอมบี้ให้ออกมาหลอกหลอนทั่วสวนสนุก USJ ทำให้ได้บ้านผีสิงที่ใหญ่ขึ้นกว้างขึ้น ที่สำคัญกิจกรรมนี้ไม่ต้องลงทุนมโหฬารเป็นหลักล้าน ในทางกลับกันใช้งบเพียงเล็กน้อยเพื่อจ้างคนมาแต่งเป็นซอมบี้เท่านั้น


            จากความสงสัยก็ถึงคราวต้องพิสูจน์ โดยสึโยชินตั้งเป้ากับกิจกรรมซอมบี้ไว้ว่าวันแรกต้องมีคนเข้ามาชม 20,000 คน ปรากฏว่าแค่วันแรกก็มียอดคนเข้างานถึง 60,000 กว่าคน และกว่าจะจบเทศกาลปล่อยผีก็มีคนมาร่วมงานจริงๆ 400,000 คนทะลุเป้าที่เขาตั้งไว้ 140,000 คน





โจทย์ช้างงานที่สอง

               

          หากคุณคิดว่านั่นอาจเป็นความบังเอิญหรือเปล่า
               

          ลองมาดูโจทย์ใหม่ที่ชายหนุ่มคนนี้ได้รับหลังจากผ่านภารกิจแรกไปได้ดีคือ เขาต้องหาของเล่นใหม่มาเพิ่มในสวนสนุก ฟังดูอาจไม่น่ายากนัก แต่ถ้าได้เห็นงบประมาณที่เจ้าของบริษัทให้แล้ว นี่อาจจะเป็นงานช้างเลยทีเดียว
               

        เมื่อของบเพิ่มไม่ได้  สึโยชิจึงค่อยๆ เรียบเรียงความคิดว่าเขาสามารถทำอะไรได้บ้าง
               

          ข้อหนึ่ง ต้องไม่ใช่การสร้างเครื่องเล่นใหม่ เพราะนั่นหมายถึงต้องใช้เวลาที่แสนนานและยิ่งนานงบก็จะยิ่งบานปลาย


          ข้อสอง ปัญหาอยู่ที่ไหนต้องไปแก้ตรงนั้น เป็นหนึ่งในวิธีแก้ปัญหาที่เขานำคำสอนของหัวหน้าเก่ามาใช้คือ ถ้าเจอปัญหาคำตอบจะอยู่ที่หน้างาน การนั่งจินตนาการในห้องประชุมไม่มีทางแก้ปัญหาได้ สึโยชิจึงใช้เวลาที่เหลือเพื่อเดินดูเครื่องเล่นในสวนสนุกทุกชิ้นแต่คิดเท่าไหร่ก็ยังคิดไม่ออก



               

           ถามว่าเขาคิดมากขนาดไหนก็แค่เก็บเอาไปฝัน ภาพนั่นก็คือรถไฟเหาะวิ่งถอยหลัง
               

            จากความฝันในตอนตีสองกว่าๆ เขาก็เกิดไอเดียที่จะมาสานต่อให้เป็นความจริง
               

            เพราะแค่การนั่งรถไฟเหาะธรรมดายังทำให้ผู้คนหวาดเสียวได้ แล้วถ้ารถไฟวิ่งถอยหลังยิ่งเพิ่มความหวาดเสียวไปมากขึ้นอีก แค่หันหน้ากับหันหลัง จากเห็นเป็นมองไม่เห็น ความหวาดเสียวต่างกันมาก
               

           ประเด็นไม่ใช่แค่ได้เครื่องเล่นที่มีความเสียวมากขึ้น แต่ประเด็นสำคัญอยู่ที่เครื่องเล่นนี้ใช้เงินน้อยมาก ไม่ต้องสร้างรางรถไฟใหม่ แค่กลับกระบวนรถไฟใหม่จากหน้าไปหลัง ทาสีใหม่ เปลี่ยนเสียงดนตรี เพียงเท่านี้ทำให้มีคนมาเข้าแถวรอคิวขึ้นเครื่องเล่นที่ชื่อว่า Hollywood Dream – the Ride Backdrop รถไฟเหาะวิ่งถอยหลัง ในปี 2013 ที่ได้สร้างสถิติเป็นเครื่องเล่นที่มีคนต่อคิวยาวนานที่สุดในญี่ปุ่น นานถึง 9.40 ชั่วโมง
 
               
         จากสองเหตุการณ์ที่ชายหนุ่มผู้นี้ทำคงทำให้เห็นภาพแล้วว่าไอเดียเป็นสิ่งสำคัญขนาดไหน แค่รถไฟกลับหลัง เปลี่ยนการรับรู้ของคนจากเห็นเป็นไม่เห็น สร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ลูกค้าอยากสัมผัสได้
 
           
         วันนี้คุณลองเดินๆ รอบออฟฟิศ หรือเดินรอบสินค้าบางทีอาจจะได้ไอเดียเพิ่มจากในห้องประชุมก็ได้นะ

 

          ที่มา: หนังสือ ‘ทำไมรถไฟเหาะของ USJ ถึงวิ่งถอยหลัง, หนังสือ โลกนี้ไม่ได้มีคำตอบเดียว
 


 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

อย่างอาร์ต! MAMAD แบรนด์แฟชั่น X ศิลปะ วาดลวดลายสไตล์ Semi Abstract สร้างความแปลก ออกแบบ “ศิลปะที่สวมใส่ได้”

“Me As My Art Daily” ศิลปะคือส่วนหนึ่งของตัวตนเราในทุกวัน คือนิยามของแบรนด์แฟชั่นสุดอาร์ตอย่าง MAMAD ที่นำเอาศิลปะและแฟชั่นมาผสานกัน กลายเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า และหมวกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ความแปลกตา และสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร

เค้กหรือมายากล!? ไอเดียสุดแหวก! เมื่อ “ราเมน” กลายเป็นเค้ก

Bob The Baker Boy ร้านเค้กในสิงคโปร์ทำให้คำว่า “เค้ก” เปลี่ยนไปตลอดกาล จาก "หน้าตา" เค้กที่แทบทุกคนเห็นแล้วต้องหยิบมือถือขึ้นมาถ่าย! ไอเดียแบบนี้เกิดจากความตั้งใจของเมย์ ฟง เจ้าของร้านสุดครีเอทีฟ

ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด ฉบับทายาทรุ่น 3 จาก 3 แบรนด์เก๋า หอยนางรม-น่ำเอี๊ยง-เด็กสมบูรณ์

ธุรกิจครอบครัวที่ผ่านรุ่น 3 ไปได้ต้องทำอย่างไร ? เราจะพาไปดูวิธี ‘ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด’ จาก 3 แบรนด์เก๋า: หอยนางรม - น่ำเอี๊ยง - เด็กสมบูรณ์" ​ ที่ไม่เพียงรักษามรดกครอบครัวไว้ แต่ยังสร้างโอกาสใหม่ๆ อีกด้วย ​