เที่ยวบุรีรัมย์ 3 รสชาติ อาราม อโรคยา อารมณ์ เมืองรองที่ไม่ได้มีดีแค่กีฬา

TEXT / PHOTO   ฟ้ากว้าง

 

 

     หากนึกถึงบุรีรัมย์ นอกจากปราสาทเขาพนมรุ้งที่ตั้งเด่นเป็นสง่าเป็นเอกลักษณ์สำคัญของเมืองแล้ว เราอาจนึกถึงความยิ่งใหญ่ของสนามฟุตบอลช้างอารีนา และสนามแข่งรถช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต หรือล่าสุดที่โด่งดังเป็นที่รู้จักดีก็ลูกชิ้นยืนกินหน้าสถานีรถไฟร้านขวัญใจของลิซ่า แบล็กพิ้งค์ แต่ความจริงแล้วเมืองอารยธรรมแห่งนี้ยังมีดีอีกมากให้เราไปค้นหา

     แถมยังเป็นอีกหนึ่งเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญของไทย มีศักยภาพความพร้อมสามารถรองรับการจัดประชุมสัมมนา หรืองานอีเวนต์ขนาดใหญ่ระดับนานาชาติได้ บุรีรัมย์จึงเป็นหนึ่งในเมืองรองที่อนาคตอาจขยับขยายกลายเป็นเมืองไมซ์ซิตี้ เพื่อรองรับนักเดินทางและนักธุรกิจที่นอกจากมาเพื่อจัดประชุมสัมมนา หรือการจัดงานต่างๆ แล้ว ยังได้มาท่องเที่ยวสัมผัสวิถีไทยสไตล์บุรีรัมย์ด้วย ด้วยเหตุนี้สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) หรือทีเส็บ (TCEB) โดย ISAN MICE จึงได้จัดกิจกรรม BE IN BURIRAM Familiarization Trip (FAM TRIP) เมื่อวันที่ 13 – 15 ธันวาคมในปีที่ผ่านมา เพื่อพาผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวและการจัดงานประชุมสัมมนาเที่ยวชมและทำความรู้จักกับเมืองแห่งนี้ให้มากขึ้นในอีกมิติใหม่ ภายใต้คอนเซปต์ คือ “อาราม อโรคยา และอารมณ์”

อาราม

     ถึงแม้จะเป็นที่รู้จักดีแล้ว แต่หากได้มีโอกาสมาเยือนบุรีรัมย์ สถานที่ไฮไลต์แรกที่เราอยากให้ไปอยู่ดี ก็คือ อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง เพื่อให้รู้ว่ามาถึงบุรีรัมย์แน่นอน โดยนอกจากการเยี่ยมชมตัวปราสาทหินที่เก่าแก่มานับพันปีแล้ว การได้วางดอกไม้บูชา ณ “ลานดอกบัว 8 กลีบ” ซึ่งนักวิชาการเชื่อว่าเป็นอนุจักรวาล หรือศูนย์รวมเทพที่ดูแลของศาสนาฮินดูทั้ง 10 องค์ ถือเป็นศิริมงคลให้กับชีวิตโดยเฉพาะการเริ่มต้นใหม่ของปี ซึ่งหากกลุ่มคณะใดสนใจสามารถติดต่อขออนุญาตล่วงหน้ากับทางอุทยานฯ ได้

     ถัดจากปราสาทเขาพนมรุ้งยังมีอีก 2 สถานที่น่าสนใจ ซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกลมากนัก ที่แรก คือ ปราสาทเมืองต่ำ ตั้งอยู่ที่บ้านโคกเมือง ห่างออกไปเพียง 8 กิโลเมตร โดยว่ากันว่าเป็นศาสนสถานสร้างตามคติความเชื่อทางศาสนาฮินดู เพื่อถวายแด่องค์พระศิวะ โดยนอกจากตัวปราสาทที่สวยงามแล้ว ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของชุมชนโบราณขนาดใหญ่ โดยมีการขุดพบโบราณวัตถุ ได้แก่ ภาชนะเครื่องปั้นดินเผา เครื่องมือ เครื่องใช้ในชีวิตประจำวันจำนวนมาก และยังมีผ้าบารายพันปี ซึ่งหมักให้นิ่มด้วยโคลนใต้บาราย ซึ่งว่ากันว่าเป็นโคลนศักดิ์สิทธิ์จากนั้นนำมาย้อมสีธรรมชาติ ผ้าที่ได้ออกมาจะมีสีชมพูสวยหวาน ส่วนที่ที่สอง คือ ชุมชนบ้านเจริญสุข ซึ่งมีความโดดเด่นด้านการย้อมผ้าจากดินภูเขาไฟ นอกจากนี้ยังมีวัดเขาอังคารให้สามารถเข้าไปไหว้พระ พร้อมเยี่ยมชมโบราณสถานโบราณวัตถุศิลปะขอมโบราณได้อีกด้วย

อโรคยา

     จากการท่องเที่ยวชมโบราณสถานและแหล่งชุมชนโบราณสำคัญแล้ว อีกสิ่งที่โดดเด่นของบุรีรัมย์ ก็คือ การเป็นเมืองแห่งสุขภาพดี โดยมีจุดที่น่าสนใจอยู่หลายส่วนด้วยกัน ที่แรกที่อยากแนะนำ คือ เพลาเพลิน และ อโรคยา เวลเนส ศาลา ซึ่งตั้งอยู่ในสถานที่เดียวกัน โดยเพลาเพลินนั้นขึ้นชื่อในการด้านการจัดแสดงดอกไม้และพันธุ์ไม้ต่างๆ ที่สวยงาม ต่อมาภายหลังจึงขยายในส่วนของการเป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องสมุนไพรด้วย มีการให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ ฟื้นฟู และบำบัดร่างกายด้วยสมุนไพร ด้วยวิธีการต่างๆ อาทิ การทำสปา การเผายาสมุนไพรเพื่อปรับสมดุลระบบทางเดินอาหาร การสุมยา พอกตาการฝั่งเข็ม กัวซา ครอบแก้ว การทำเวิร์กช้อปทำน้ำมันนวดจากสมุนไพร ล่าสุดยังเป็นแหล่งเรียนรู้และเพาะปลูกต้นกัญชาส่งให้กับโรงพยาบาลคูเมืองด้วย

     อีกหนึ่งชุมชนที่มีความโดดเด่นด้านการส่งเสริมสุขภาพ ก็คือ บ้านสวายสอ โดยเป็นแหล่งเพาะปลูกข้าวอินทรีย์ และพืชผักอินทรีย์ต่างๆ ซึ่งจากการเป็นชุมชนอินทรีย์ปลอดสารเคมีนี้เองที่ทำให้วิถีชีวิตชาวบ้านที่นี่ผูกพันกับนกกระเรียน โดยถือเป็นอีกแหล่งอาหารสำคัญของนกกระเรียน ทำให้เกิดการช่วยอนุรักษ์ไปในตัว ซึ่งการเข้ามาเที่ยวยังชุมชน คือ การเยี่ยมชมกิจกรรมตามฐานต่างๆ ได้แก่ การทำจักสาน การทอเสื่อลายนกกระเรียน การปักผ้าลายนก ไปจนถึงการสาธิตและทดลองทำผ้าทอพื้นบ้าน และหากใครสนใจอยากลิ้มลองอาหารพื้นบ้านปลอดสารเคมีดีต่อสุขภาพ ก็สามารถติดต่อกับทางชุมชนไว้ได้ล่วงหน้า

     นอกจากสถานที่ 2 แห่งที่กล่าวมาแล้ว ที่บุรีรัมย์ยังมีชุมชนและกลุ่มผู้ประกอบการเกษตรวิถีธรรมชาติที่น่าสนใจอีกหลายที่ ได้แก่ คลีนฟาร์ม เมล่อน – ฟาร์มเมล่อนปลอดสารพิษ, ชุมชนบ้านหนองตาไก้และบ้านสนวนนอก ที่ทำเกี่ยวกับการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมและการทอผ้าไหมที่สวยงาม, บ้านซับสมบูรณ์ ชุมชนเพาะเห็ดโค่นญี่ปุ่น, บ้านดงอีจาน แหล่งน้ำแร่คุณภาพจากภูเขาไฟ เป็นต้น

อารมณ์

     จากโบราณสถานที่สวยงาม และสถานที่เพื่อส่งเสริมสุขภาพที่ดีแล้ว บุรีรัมย์ยังมีธรรมชาติที่งดงามและโดดเด่นด้วย  โดยเป็นที่ตั้งของศูนย์อนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำและนกกระเรียนพันธุ์ไทย ตั้งอยู่ที่อ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มากซึ่งนอกจากจะมีความสำคัญเป็นแหล่งอนุรักษ์นกกระเรียนพันธุ์ไทยแห่งเดียวของเมืองไทยแล้ว ยังมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามจากพื้นที่ชุ่มน้ำกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาที่เต็มไปด้วยดอกบัวชมพู

     โดยมีบริการเรือของชาวบ้านสามารถมานั่งเรือเล่นชมวิวทิวทัศน์ของพระอาทิตย์ขึ้นและแสงเย็นของพระอาทิตย์ตกดินได้ในที่เดียวกัน ซึ่งสวยงามราวกับบางคนเปรียบเปรยว่าเป็นอินเล (ทะเลสาบในพม่า) เมืองไทยเลยทีเดียว โดยสามารถติดต่อได้ที่กลุ่มชาวบ้าน หรือศูนย์อนุรักษ์ฯ โดยตรง แต่หากใครอยากได้บริการพิเศษเพิ่มเติม เช่น การรับประทานชุดอาหารเช้าบนเรือสามารถแจ้งความจำนงได้ที่โรงแรมอมารี บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซึ่งจัดเป็นแพ็กเกจรวมกับค่าเรือไว้บริการด้วย

      และนี่คือ การท่องเที่ยวบุรีรัมย์ 3 รสชาติ อาราม อโรคยา อารมณ์ ที่จะทำให้เราได้รู้จักเมืองแห่งปราสาทหินแห่งนี้ดีมากขึ้นนั่นเอง

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

เกือบหลับ แต่กลับมาเป็นธุรกิจร้อยล้าน Plantae - La Glace 2 แบรนด์รุ่นใหม่ใจถึงทำถึง

Plantae และ La Glace สองแบรนด์รุ่นใหม่คือ ตัวอย่างของผู้ที่ไม่ยอมแพ้ ทั้งคู่ต่ายเคยตกอยู่ในวิกฤต แต่ด้วยแพชชันและการปรับตัวที่รวดเร็ว พวกเขากลับมาสร้างรายได้ระดับร้อยล้านได้สำเร็จ

อย่างอาร์ต! MAMAD แบรนด์แฟชั่น X ศิลปะ วาดลวดลายสไตล์ Semi Abstract สร้างความแปลก ออกแบบ “ศิลปะที่สวมใส่ได้”

“Me As My Art Daily” ศิลปะคือส่วนหนึ่งของตัวตนเราในทุกวัน คือนิยามของแบรนด์แฟชั่นสุดอาร์ตอย่าง MAMAD ที่นำเอาศิลปะและแฟชั่นมาผสานกัน กลายเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า และหมวกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ความแปลกตา และสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร

เค้กหรือมายากล!? ไอเดียสุดแหวก! เมื่อ “ราเมน” กลายเป็นเค้ก

Bob The Baker Boy ร้านเค้กในสิงคโปร์ทำให้คำว่า “เค้ก” เปลี่ยนไปตลอดกาล จาก "หน้าตา" เค้กที่แทบทุกคนเห็นแล้วต้องหยิบมือถือขึ้นมาถ่าย! ไอเดียแบบนี้เกิดจากความตั้งใจของเมย์ ฟง เจ้าของร้านสุดครีเอทีฟ