เปิดมุมมองผู้หญิงยุค 2022 “เพศ” ไม่ใช่ข้อจำกัดทางอาชีพ เส้นทางชีวิตสร้างได้ด้วยตัวเอง

 

     เมื่อพูดถึง “ผู้หญิง” เชื่อว่าหลายคนอาจให้คำจำกัดความหรือมองบทบาทของเพศหญิงในมายาคติแบบเดิมๆ ว่าเป็นเพศที่อ่อนแอ อ่อนไหว เป็นช้างเท้าหลัง และต้องการการปกป้องดูแลจากเพศชาย แต่ด้วยบริบทสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ตลอดจนการขับเคลื่อนในประเด็นด้านความเท่าเทียมทางเพศ ทำให้ในปัจจุบันผู้หญิงได้รับการยอมรับมากขึ้น ทั้งในเรื่องความสามารถ รวมถึงบทบาทหน้าที่ที่มีความสำคัญไม่แตกต่างจากผู้ชาย

     เนื่องในโอกาสวันสตรีสากล (8 มีนาคม) ชวนทุกคนไปทำความรู้จักและเรียนรู้มุมมองของ 3 สาวเพื่อนรักต่างวัย ตัวแทนผู้หญิงไทยในยุค 2022 “อณัญญา วิสุทธิสระ” คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวนักสู้ผู้ฟันฝ่าอุปสรรคเพื่อส่งลูกสาวให้ไปถึงฝั่งฝัน

      “ปนัดดา พิมพ์ประสาร” สาวมั่นที่มีเป้าหมายแน่วแน่ในชีวิต และ “ณพิชญา สาศิริ” สาวร้อยเอ็ดคนขยันที่เชื่อว่าโอกาสมีอยู่เสมอสำหรับทุกคน

เตรียมตัวให้พร้อม..เพื่อรับมือกับทุก “ความท้าทาย”

     คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว กัน-อณัญญา วิสุทธิสระ เล่าถึงประสบการณ์ชีวิตของเธอว่า เธอเลิกกับสามีตั้งแต่ลูกยังเล็ก ตอนตัดสินใจแยกทางกันพี่ไม่มีทรัพย์สินอะไรติดตัวเลย เหลือแต่ภาระหนี้สินที่ต้องรับผิดชอบ ตอนนั้นกลัวมากว่าสังคมจะมองเรายังไง เครียดว่าทำไมชีวิตครอบครัวถึงล้มเหลว แต่เราจะท้อนานไม่ได้เพราะมีลูกที่ต้องดูแล” 

     เมื่อตั้งปณิธานแน่วแน่แล้ว เธอจึงตัดสินใจทำธุรกิจร้านอาหาร ซึ่งทุกวันต้องตื่นตั้งแต่ตี 3 เพื่อออกไปซื้อของและเตรียมวัตถุดิบ ก่อนจะเข้ามาขายอาหารในโรงเรียนตั้งแต่เช้าจนถึงกลางวัน พอตกบ่ายก็ต้องเตรียมไปขายอาหารในตลาดต่อตั้งแต่เย็นจนค่ำ เธอเล่าว่าตอนนั้นแทบไม่มีเวลาได้พักผ่อนเลย จนกระทั่งได้มาลองมาขับแกร็บและพบว่าทำให้เธอสร้างรายได้ได้ง่ายขึ้น 

     “ลูกสาวพี่ชอบเล่นดนตรี ซึ่งการเรียนในสายนี้มีค่าใช้จ่ายสูงมาก แต่พี่ไม่เคยท้อนะเพราะไม่อยากเสียเวลาคิดเรื่องเศร้าๆ สู้เราเอาพลังมาหาทางสร้างรายได้ดีกว่า” กันเล่าต่อว่า “ถ้าเราไม่คิดบวก เราจะยิ่งขาดกำลังใจ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่องาน โดยเฉพาะอาชีพบริการ การสร้างพลังใจให้ตัวเองเป็นเรื่องที่สำคัญมาก พี่จะสอนลูกอยู่เสมอ อย่างตอนที่ลูกสาวพี่ตกรอบออดิชั่นเพราะเจอกับคู่แข่งที่เก่งกว่า เราก็จะสอนเขาว่า ในชีวิตจริงเราเลือกไม่ได้ว่าจะเจอกับคู่แข่งแบบไหน แต่สิ่งที่เราทำได้คือการเตรียมตัว และฝึกซ้อมให้พร้อมในทุกสนาม เหมือนกับงานของแม่ที่เลือกไม่ได้ว่าเราจะเจอคนแบบไหน แต่สิ่งเราทำได้คือการเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมรับมือในทุกสถานการณ์”

    ในวันนี้กันได้ส่งเสียลูกสาวจนเรียนจบ และกลายเป็นครูสอนดนตรีอย่างที่ฝันไว้  โดยเมื่อปลายปีที่แล้ว ลูกสาวของเธอได้เก็บเงินซื้อรถใหม่เป็นของขวัญให้กับแม่ ซึ่งเธอบอกว่า นี่ถือเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจสูงสุดในชีวิตของเธอเลยทีเดียว

ทุกความสำเร็จ เริ่มต้นจากการตั้ง “เป้าหมาย” 

     เกรท-ปนัดดา พิมพ์ประสาร ที่มีความฝันอยากเป็นเจ้าของธุรกิจ เธอวางแผนชีวิตตัวเองไว้อย่างชัดเจนว่าเมื่อผ่อนคอนโดและรถหมดแล้ว จะเริ่มเก็บเงินเพื่อทำธุรกิจส่วนตัว เกรทเลือกที่จะใช้เวลาว่างหลังเลิกงานประจำในวันธรรมดา รวมถึงวันหยุดเสาร์อาทิตย์มาขับแกร็บเพื่อให้บริการรับ-ส่งผู้โดยสาร โดยไม่สนว่าเพื่อนในวัยเดียวกันจะใช้เวลาเหล่านั้นไปเที่ยวเล่นพักผ่อน ด้วยความมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ เธอจึงเลือกใช้ประโยชน์จากแอปพลิเคชันอย่าง Grab เป็นเครื่องมือหารายได้เสริมเพื่อทำให้เธอสามารถเข้าใกล้ความฝันได้ไวยิ่งขึ้น 

     “เกรทให้ความสำคัญกับการขับแกร็บเทียบเท่ากับการทำงานประจำเลย มีการเซ็ตเป้าหมายให้ตัวเองพิชิตได้ในแต่ละเดือนเหมือนการตั้ง KPI ในการทำงานบริษัท ถึงการขับแกร็บจะเป็นอาชีพอิสระ แต่เราก็ต้องมีวินัย มีความรับผิดชอบต่อลูกค้า ทุกวันก่อนให้บริการ เราต้องพักผ่อนให้เพียงพอ เตรียมร่างกาย และจิตใจให้พร้อมทำงาน การมีวินัยเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เราเดินทางไปถึงเป้าหมายได้สำเร็จ ที่สำคัญไม่ว่าคนอื่นจะมองหรือตัดสินเรายังไง เราต้องมั่นคงในสิ่งที่เราเลือกและภูมิใจในสิ่งที่เราทำ เพราะเกรทเชื่อมั่นว่าการขับแกร็บเป็นงานสุจริตและเป็นช่องทางที่ช่วยให้เราสามารถก้าวไปสู่จุดหมายที่วางไว้ได้” 

อย่ารอให้มาหา แต่จงไขว่คว้าทุก “โอกาส”

     ประโยคเด็ดที่ “บุ๋ม” ณพิชญา สาศิริ สาวแกร่งจากร้อยเอ็ดที่เข้ามาสู้ชีวิตในกรุงเทพฯ โดยลำพัง มักบอกกับทุกคนอยู่เสมอ คือ “โอกาสมีอยู่ทุกที่ อยู่ที่ว่าเราจะเปิดรับและไขว่คว้ามันหรือเปล่า” ด้วยความตั้งใจที่จะแบ่งเบาภาระที่บ้าน เธอจึงเริ่มทำงานพิเศษตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย จนเมื่อเรียนจบ บุ๋มได้เข้าทำงานในบริษัทเอกชน พร้อมรับงานฟรีแลนซ์ควบคู่ไปกับการช่วยธุรกิจที่บ้าน เธอมองว่าคนเราไม่จำเป็นต้องยึดติดกับอาชีพใดอาชีพหนึ่ง การทำงานหลายอย่างช่วยเปิดโอกาสให้เราได้ค้นพบตัวตนและสิ่งที่เราชอบได้เร็วขึ้น 

     บุ๋มได้เริ่มมาขับแกร็บเพื่อหารายได้เสริมครั้งแรกเมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว (ปี 2560) และใช้เวลาเพียงไม่นานในการก้าวขึ้นมาเป็นพี่เลี้ยงให้กับเพื่อนๆ พาร์ทเนอร์คนขับ และกลายเป็นผู้หญิงคนแรกที่สามารถทำคะแนนขับแกร็บสูงสุดจนชนะเพื่อนร่วมอาชีพที่เป็นผู้ชายในกิจกรรมพิเศษที่แกร็บจัดขึ้น จนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้หญิงหลายคนที่ขับแกร็บด้วยกัน เธอไม่เคยหยุดเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และเปิดรับทุกโอกาสที่เข้ามา

     เธอเผยถึงเคล็ดลับความสำเร็จว่า “เราต้องมองว่าทุกคนเท่ากัน อย่าไปเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น ถ้าเราชอบอะไรให้ลงมือทำเลย ดีไม่ดีก็ค่อยๆ ปรับกันไป ช่วงเริ่มต้นไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ แต่ถ้ายังสู้ต่อ ชีวิตจะค่อยๆ เปิดทางให้เรา ได้เจองานที่รัก มีรายได้มากขึ้น พบมิตรภาพที่ดี และมีชีวิตที่มีความสุข” ณพิชญา กล่าวทิ้งท้าย

 

www.smethailandlcub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

อย่างอาร์ต! MAMAD แบรนด์แฟชั่น X ศิลปะ วาดลวดลายสไตล์ Semi Abstract สร้างความแปลก ออกแบบ “ศิลปะที่สวมใส่ได้”

“Me As My Art Daily” ศิลปะคือส่วนหนึ่งของตัวตนเราในทุกวัน คือนิยามของแบรนด์แฟชั่นสุดอาร์ตอย่าง MAMAD ที่นำเอาศิลปะและแฟชั่นมาผสานกัน กลายเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า และหมวกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ความแปลกตา และสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร

เค้กหรือมายากล!? ไอเดียสุดแหวก! เมื่อ “ราเมน” กลายเป็นเค้ก

Bob The Baker Boy ร้านเค้กในสิงคโปร์ทำให้คำว่า “เค้ก” เปลี่ยนไปตลอดกาล จาก "หน้าตา" เค้กที่แทบทุกคนเห็นแล้วต้องหยิบมือถือขึ้นมาถ่าย! ไอเดียแบบนี้เกิดจากความตั้งใจของเมย์ ฟง เจ้าของร้านสุดครีเอทีฟ

ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด ฉบับทายาทรุ่น 3 จาก 3 แบรนด์เก๋า หอยนางรม-น่ำเอี๊ยง-เด็กสมบูรณ์

ธุรกิจครอบครัวที่ผ่านรุ่น 3 ไปได้ต้องทำอย่างไร ? เราจะพาไปดูวิธี ‘ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด’ จาก 3 แบรนด์เก๋า: หอยนางรม - น่ำเอี๊ยง - เด็กสมบูรณ์" ​ ที่ไม่เพียงรักษามรดกครอบครัวไว้ แต่ยังสร้างโอกาสใหม่ๆ อีกด้วย ​