สิ่งที่ SME ควรเรียนรู้ Jurgen Klopp ยอดกุนซือหงส์แดง เปลี่ยนสโมสรที่กำลังล้มละลายกลายเป็นแชมป์

 

     ถ้าไม่นับเรื่องสลากกินแบ่งรัฐบาล เรื่องฟุตบอลก็เป็นเรื่องราวที่คนไทยค้นหามากที่สุดในทุกช่วงเวลาเลยทีเดียว โดยที่สองทีมที่มีแฟนบอลมากที่สุดในประเทศไทยก็คงไม่พ้นปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด และ หงส์แดง ลิเวอร์พูล ที่กำลังจะมีอีเวนต์สำคัญในประเทศไทยที่เรียกกันว่าในช่วงชีวิตคนหนึ่งคนอาจจะเกิดเพียงซักครั้ง คือ “ศึกแดงเดือด” นอกเกาะอังกฤษในประเทศไทยครั้งแรก ในเดือนกรกฏาคม 2565 นี้ ประกอบกับฟอร์มการเล่น ภาพความสำเร็จ ณ ปัจจุบัน (แชมป์คาราบาวคัพ และลุ้น 4 แชมป์) คงต้องวิเคราะห์ถึงปัจจัยของผู้นำองค์กรหงส์แดงที่ทำให้เปลี่ยนแปลงจากสโมสรที่กำลังจะล้มละลายกลับกลายเป็นแชมป์ได้อย่างทุกวันนี้

     ชายผู้เปรียบตัวเองเป็นแค่บุคคลธรรมดา The Normal One : Jurgen Klopp โดยที่ปัจจัยที่โดดเด่นของการทำงานในสไตล์ Klopp คือ 

1. Data Driven : Klopp จะมีทีมงานคนนึงฉายา “The Eyes” ปีเตอร์ คราเวียตซ์นักวิเคราะห์เกมในสนามที่เปรียบเหมือนนัยน์ตาทิพย์ที่มองเห็นในสิ่งที่คนทั่วไปมองไม่เห็น สนใจใช้ข้อมูลมาประกอบการตัดสินใจตั้งแต่มีเพียงแค่ VDO มาถึงปัจจุบันที่ใช้การ Big Data เข้ามาวิเคราะห์ทั้งการซ้อม การวางแผนการเล่น และการซื้อขายนักเตะทำให้ Klopp เป็นผู้จัดทีมที่มี Net Spend ในการซื้อขายต่อความสำเร็จคุ้มค่ามากๆ (ROI สูง)

     ดังนั้นเป็นข้อพิสูจน์ให้กับคนตัวเล็ก SME อย่างเราๆ ว่าการใช้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจนั้นช่วยลดความเสี่ยงและยังเป็นปัจจัยส่งเสริมให้โอกาสประสบความสำเร็จได้มากขึ้น ถึงแม้จะเผชิญการแข่งขันที่รุนแรงจากคู่แข่งที่ใหญ่กว่าก็ตาม

2. God in the Detail : Klopp เป็นผู้จัดการทีมที่เชื่อในเรื่องคุณค่าของการทำงานหนัก ความตั้งใจจะนำมาซึ่งความสำเร็จและไม่ต้องเก่งทุกเรื่อง แต่รู้จักนำพาคนที่เก่งเรื่องนั้นๆมาทำงานด้วย เขาเลือกทีมงานที่ดีที่สุดในทุกด้าน ตั้งแต่ “อันเดรียส คอร์นเมเยอร์” นักกายภาพบำบัดที่ชักชวนให้ย้ายจากบาเยิร์น มิวนิก มาอยู่ด้วยกัน “โมนา เนมเมอร์” นักโภชนาการสาว ที่เข้ามาดูแลเรื่องของอาหารการกินของนักฟุตบอลลิเวอร์พูล มาจนถึง ”โธมัส กรอนน์มาร์ก” โค้ชการทุ่ม ที่เป็นเรื่องขำขันของวงการฟุตบอลโลก เพราะไม่มีใครเคยรู้มาก่อนว่ามีโค้ชเฉพาะทางแบบนี้บนโลกด้วย แต่ Klopp รู้และเขาตัดสินใจที่จะดึงโค้ชที่ช่วยเปลี่ยนการสะสมการทำงานเล็กๆ น้อยๆ เพื่อผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต รวมถึงการเปิดรับวิทยาศาสตร์การกีฬาแปลกใหม่มาปรับใช้กับทีมด้วย เช่นเรื่องของ สภาวะจิตใจจ้างทีมงานเฉพาะทาง โดยจุดเริ่มต้นเกิดขึ้นในปี 2018 การพลาดแชมป์ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกให้กับรีล มาดริด ทำให้ Klopp มองเห็นถึงความสำคัญในเรื่องการควบคุมจิตใจ และสมาธิของนักเตะ ในระหว่างฤดูกาลแข่งขัน การดึงตัวนักจิตวิทยา ที่มีประสบการณ์การเป็นอดีตผู้จัดการทีมเชสเตอร์ฟิลด์มาก่อน  ลี ริชาร์ดสัน ช่วยพูดคุยกับนักเตะในทีม ทำให้ลดความกังวล และมีสมาธิมากขึ้น จะเห็นได้จากการลุ้นแชมป์ในฤดูกาล 2019-20 ในขณะที่ทีม Liverpool นำเป็นจ่าฝูงห่างถึง 18 คะแนน เหล่านักเตะยังไม่มีอาการดีใจหรือสื่อสารออกทาง Social Media ส่วนตัวเลย จนถึงวันที่ได้การรันตีแชมป์แน่นอนแล้ว            

     การที่เรา SME มีทรัพยากรที่น้อยกว่าในการแข่งขัน  สิ่งสำคัญคือ “รายละเอียด” เราต้องลงเนื้องานให้หนักกว่า ละเอียดกว่า สะสมสิ่งเล็กๆน้อยๆที่จะสร้างความแตกต่างและนำพาผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่มาให้

3. Never Give Up : เป็นผู้แพ้ที่ดี เรียนรู้ พัฒนา และกลับมาประสบความสำเร็จ ที่สำคัญก็คือ ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค เพราะไม่ว่าจะเป็นองค์กรใดก็ตาม ย่อมมีทั้ง “ความสำเร็จ” และ “ความล้มเหลว” ควบคู่กันเสมอ

4. ถ้าเรายังไม่ยอมแพ้ ท้อได้แต่ไม่ถอย ล้ม ลุก เรียนรู้ จะทำให้เราเก่งขึ้นๆ จนสามารถประสบความสำเร็จได้ซักวันหนึ่ง

5. Perfect Timing : Klopp รู้ว่าเมื่อไหร่จะเกรี้ยวกราดกับใครซักคน และเมื่อไหร่จะโอบกอดและให้ความช่วยเหลือพวกเขาในเวลาที่ยากลำบาก เรื่องของการเป็นศูนย์รวมของทีมคอยสนับสนุน ผลักดัน ให้โอกาส ปกป้อง ปลอบประโลม และตำหนิ (เมื่อถึงคราวจำเป็น) รวมไปถึงความซื่อสัตย์ของเขา เขาตรงไปตรงมาเสมอ และนั่นเป็นสิ่งดี เพราะคุณรู้ว่าสิ่งที่เขาพูดเป็นความจริง ดังนั้น คุณจึงรับฟังและนำมาปรับกับตัวคุณเอง”

    ส่วนตัวว่าเป็นสิ่งที่พูดง่ายแต่ทำยากมาก เพราะเราทุกคนต้องการให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่เราอยากให้เป็นเสมอ แต่ในความเป็นจริงเราต้องสะสมประสบการณ์มากอย่างโชกโชนเพื่อให้เลือกในสิ่งที่ถูกจังหวะนั้นๆ

6. Discipline : วินัยแบบชาวเยอรมันคลอปป์ให้ความสำคัญกับการฝึกซ้อม วินัยของนักเตะระหว่างซ้อม และการทุ่มเทของนักเตะค่อนข้างมาก เวลาซ้อมคือซ้อม เวลาฉลองคือฉลอง ถ้าใครทำผิดกฎก็พร้อมที่จะทำโทษ โดยการไม่ให้ลงเล่น และปล่อยย้ายทีมออกไป  เช่น มามาดู ซาโก้ ที่ โดนดองจนต้องย้ายทีมในปี 2017 หลังมีปัญหาความประพฤติ

     พรสวรรค์ ความแตกต่าง จะทำให้เราโดดเด่น แต่ วินัยและความสม่ำเสมอจะทำให้เราประสบความสำเร็จ

7. System First : สิ่งแรกๆ ที่ Klopp ทำคือการประกาศต่อสื่อมวลชนว่า เราจะเล่นแบบที่เต็มไปด้วยอารมณ์ รวดเร็วและแข็งแกร่ง เค้นพลังจนสุดในทุกๆเกมการแข่งขัน ซึ่งเป็นพื้นฐานของการเล่นแบบ Gegenpressing เป็นการวางตำแหน่งตัวผู้เล่นแผงเกมส์รุก เพรซวิ่งใส่คู่แข่งทุกจังหวะที่มีโอกาส และใช้ตัวผู้เล่นในแดนกลาง ค่อยช่วยสนับสนุนให้เต็มพื้นที่ รวมถึงตัดเกมส์ก่อนถึงอกนหลัง ในขณะที่ ผู้เล่นด้านกราบ ต้องคอยโจมตี วิ่งขึ้นลง รุกและรับไม่หยุด        

     การที่ SME จะประสบความสำเร็จได้ “กลยุทธ์แบบแผน” เป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ เป็นแนวทางในการทำธุรกิจที่ต้องปรับเปลี่ยนแก้ไขต่อสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วและสม่ำเสมอ อีกนัยนึง Process ก็จะทำให้เราสามารถ Scalable องค์กรให้เติบโตแบบ Exponential ได้เช่นกัน

8. Communication : ความสามารถทางการใช้จิตวิทยาในการคุมทีมของ Klopp สูงมากเป็นลำดับต้นๆ ของวงการหนึ่งในคำพูดที่สำคัญที่สุดของคลอปป์เกิดขึ้นในวันเปิดตัวคุมทีมลิเวอร์พูล เมื่อได้พูดประโยคหนึ่งว่า “We have to change from doubters to believers. Now.”       

    เป็นสิ่งสำคัญที่ SME อย่างเราๆได้เปรียบเจ้าใหญ่ๆ เพราะเราสามารถสื่อสารจากเจ้าของได้โดยตรงถึงผู้บริโภค ทำให้เขาได้รับรู้คุณค่าของสิ่งที่เรามอบให้ได้โดยง่าย รวมไปถึงการสื่อสารในองค์กรก็สำคัญไม่แพ้กันเลยทีเดียว

     โดยส่วนตัวชื่นชมการทำงานของ Jurgen Klopp เป็นอย่างมาก พยายามเรียนรู้และนำมาประยุกต์ใช้กับองค์กร SME ของเราซึ่งก็ยอมรับว่าทำตามได้ยากมากเช่นกัน แต่ถ้าทำได้ความสำเร็จไม่เกินเอื้อมอย่างแน่นอน หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกท่านเช่นกันครับ 

 

ข้อมูล  :

www.matichonweekly.com

www.gqthailand.com

www.gotostadiums.com

www.posttoday.com/econom

www.mainstand.co.th

thestandard.co

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

อย่างอาร์ต! MAMAD แบรนด์แฟชั่น X ศิลปะ วาดลวดลายสไตล์ Semi Abstract สร้างความแปลก ออกแบบ “ศิลปะที่สวมใส่ได้”

“Me As My Art Daily” ศิลปะคือส่วนหนึ่งของตัวตนเราในทุกวัน คือนิยามของแบรนด์แฟชั่นสุดอาร์ตอย่าง MAMAD ที่นำเอาศิลปะและแฟชั่นมาผสานกัน กลายเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า และหมวกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ความแปลกตา และสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร

เค้กหรือมายากล!? ไอเดียสุดแหวก! เมื่อ “ราเมน” กลายเป็นเค้ก

Bob The Baker Boy ร้านเค้กในสิงคโปร์ทำให้คำว่า “เค้ก” เปลี่ยนไปตลอดกาล จาก "หน้าตา" เค้กที่แทบทุกคนเห็นแล้วต้องหยิบมือถือขึ้นมาถ่าย! ไอเดียแบบนี้เกิดจากความตั้งใจของเมย์ ฟง เจ้าของร้านสุดครีเอทีฟ

ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด ฉบับทายาทรุ่น 3 จาก 3 แบรนด์เก๋า หอยนางรม-น่ำเอี๊ยง-เด็กสมบูรณ์

ธุรกิจครอบครัวที่ผ่านรุ่น 3 ไปได้ต้องทำอย่างไร ? เราจะพาไปดูวิธี ‘ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด’ จาก 3 แบรนด์เก๋า: หอยนางรม - น่ำเอี๊ยง - เด็กสมบูรณ์" ​ ที่ไม่เพียงรักษามรดกครอบครัวไว้ แต่ยังสร้างโอกาสใหม่ๆ อีกด้วย ​