10 เคล็ดลับออกแบบโลโก้ฮวงจุ้ยให้ธุรกิจปัง ความรุ่งเรืองทางธุรกิจที่ออกแบบได้

 

 

     ทำไมโลโก้ถึงสำคัญ เพราะลองจินตนาการดูว่าทุกวันนี้มีร้านกาแฟเกิดขึ้นมากมายถ้าไม่มีโลโก้มาช่วยให้จดลูกค้าจดจำอาจทำให้ลูกค้าไปร้านอื่นได้ แล้วไม่ใช่แค่กาแฟที่มีร้านมากมาย จากข้อมูลของ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า : Department of Business Development: DBD  เดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีคนจดทะเบียนบริษัทหรือเครื่องหมายการค้า เกือบหมื่นรายต่อเดือน ยิ่งทำให้เห็นว่าการมีโลโก้สำคัญมากแค่ไหน

     ทราบหรือไม่ว่าโลโก้มีมานานนับพันปีแล้ว วันนี้เราจะพาทุกคนไปดู 10 เคล็ดลับออกแบบโลโก้ฮวงจุ้ยให้ธุรกิจปัง จาก Master Alice อันธิกา ลิมปิอนันต์ชัย ซินแสยุคใหม่เข้าใจธุรกิจ กัน

10 เคล็ดลับออกแบบโลโก้ฮวงจุ้ยให้ธุรกิจปัง

1. ลูกศร เป็นสิ่งที่แสดงออกถึงความมีเป้าหมายการเจริญเติบโตและประสบความสำเร็จ แต่ต้องระมัดระวังลูกศรที่ทิ่มแทงตัวอักษรเข้ามาเพราะนั่นหมายถึง ปัญหาอุปสรรค หรือถ้าโลโก้ของคุณมีลูกศรชี้ลง นั่นหมายความว่า กำไรลดลง ค้าขายลดลง เพราะฉะนั้นพุ่งขึ้นเท่านั้นถึงจะดี

2. เส้นใต้ เป็นสิ่งที่สำคัญ ถ้าธุรกิจมีเส้นใต้ในโลโก้ควรเป็นเส้นใต้ที่เป็นเส้นตรง ไม่ใช่ชี้ลง ซึ่งเส้นใต้ชี้ลง หมายถึง ดิ่งด่ำ ดำดิ่ง เพราะฉะนั้นตัวอักษรหรือเครื่องหมายควรจะชี้ขึ้นเท่านั้น ยกตัวอย่าง โลโก้ของ NIKE มีลักษณะคล้ายๆ เครื่องหมายถูกติ๊กขึ้นอันนั้นถือว่าดีเจริญรุ่งเรือง

3. ตัวอักษรต้องมี Space ตัวอักษรจะต้องมีช่องไฟหรือมีพลังงานที่หมุนวนได้ ซึ่งจะทำให้เราก็จะรู้สึกไม่อึดอัด การทำธุรกิจก็เช่นเดียวกัน เคยไหมทำธุรกิจแล้วติดขัด อึดอัด และเหน็ดเหนื่อย เพราะโลโก้ของคุณไม่มีที่ มีช่องว่าง

4. โลโก้ต้องไม่รก ถ้ารกแต่สวยเหมือนงานจิตกรรมมาใส่เป็นโลโก้มันจะดูละเอียดเกินไปเราต้องการโลโก้ที่ดูแล้วสบายๆ น้อยแต่มาก ดูมินิมอลพอมองแล้วรู้สึกว่าง่ายๆ เรียบๆ แต่จดจำได้ ในเชิงธุรกิจเราจะไม่ใช้โลโก้ที่ดูรกมากเกินไปมันก็ทำให้ทุกอย่างไปไม่ราบเรียบ เหมือนจะดีแต่ไปสะดุด

5. ใช้วันเดือนปีเกิดของเจ้าของมากำหนดฮวงจุ้ย ถ้าคุณเป็นธุรกิจเอสเอ็มอีหรือธุรกิจที่มีหุ้นส่วน แต่มีหุ้นส่วนไม่ได้เยอะมากอาจจะไม่เกิน 6 คน ให้ใช้วันเดือนปีเกิดของผู้ร่วมถือหุ้นได้ ถ้าผู้ถือหุ้นส่วนไหนใหญ่สุดควรให้นำหนักฝั่งนั้น แต่ไม่ใช่เอาของทุกคนมาตั้ง ถ้าเกิดเป็นบริษัทมหาชนหรือเป็นบริษัทใหญ่ๆ จะมีผู้ร่วมถือหุ้นแบบค่อยข้างเยอะ อันนั้นให้ใช้ธาตุตามวันก่อตั้งบริษัท วันก่อตั้งบริษัทนับจากวันที่คณจุดทะเบียนบริษัท นั้นเรียกว่าเป็นวันเกิดบริษัท ใช้ธาตุของวันนั้นเพื่อมาออกแบบโลโก้

6. โลโก้ต้องโดดเด่นจำได้ เห็นปุ๊บรู้ว่าเป็นธาตุไหนหรือธุรกิจไหน เช่น บางคนสับสนธาตุของโหราศาสตร์ไทยกับจีน โหราศาสตร์ไทยมี 4 ธาตุ คือ ดินน้ำลมไฟ

โหราศาสตร์จีนมี 5 ธาตุ 

    • ธาตุไฟ = สีแดง แสดงถึงธุรกิจเกี่ยวข้องกับอาหาร ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับดิจิทัล เทรนด์ หรืออะไรที่มาแล้วไปหรือซุปเปอร์มาร์เก็ต
  •  
    • ธาตุไม้ = สีเขียว สีเขียวจะเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ทำเกี่ยวกับไม้ทั้งหมด เช่น พื้นไม้ การเรียนการสอนได้เพราะว่าไม้คือการเจริญเติบโต โรงพิมพ์ กระดาษ แฟชั่นเสื้อผ้าได้ เพราะเสื้อผ้าทำมาจากเส้นใยธรรมชาติ
  •  
    • ธาตุทอง = สีขาว ถ้าในสากลมันคือโลหะทุกประเภท เกี่ยวของกับธุรกิจที่เป็นธุรกิจจิวเวลรี่ทั้งหมด อะไรที่ทองๆ วาวๆ และถ้าถามว่าเพชรเป็นธาตุทองไหม ในทางโหราศาตร์จีนเรานับเป็นธาตุทองเหมือนเช่นกัน เครื่องครัวอุปกรณ์ครัว และสุดท้ายคือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเงิน จะเห็นได้ว่าโลโก้ของธนาคารจะมีสีขาวเกือบทุกธนาคาร เพราะสีขาวเป็นตัวแทนของความสำเร็จ
  •  
    • ธาตุดิน = สีเหลือง ชื่อก็บอกอยู่ว่าเป็นธาตุดิน แสดงว่าก็จะเป็นธุรกิจที่เกี่วข้องกับที่ดิน เช่น ธรุกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจก่อสร้าง รับเหมา ออกแบบโครงสร้าง ขายที่ดินหรือขายทรายก็เป็นธาตุนี้
  •  
    • ธาตุน้ำ = สีดำหรือสีน้ำเงิน เกี่ยวข้องกับธุรกิจการบริการ ซื้อมาขายไป ธุรกิจโลจิสติกส์ หรือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับศิลปินก็ได้เช่นกัน

 

7. ห้ามใช้สีตรงกันข้ามหรือสีต้องห้าม อย่างเช่น ธาตุน้ำกับธาตุไฟ เพราะธาตุน้ำสีดำธาตุไฟสีแดง เราจะไม่ค่อยเห็นโลโก้ที่ใช้สองสีนี้คู่กันเท่าไหร่  แต่ถ้าเกิดว่ามันจำเป็นจริงๆ ต้องใช้สีที่สามมาขั้นกลาง เช่น ถ้าธุรกิจของคุณใช้โลโก้ที่มีสีดำและสีแดงอยู่คู่กัน ก็ให้ใช้สีเขียวเข้ามาตัดเพื่อให้ตรงฐาน ก็คือ น้ำให้ไม้ ไม้ให้ไฟ ก็เป็นดำเขียวแดง ในส่วนของวิธีการออกแบบนั้นก็ต้องไปดูว่าธุรกิจธุรกิจของคุณเด่นเรื่องอะไรก็ให้ใช้สีนั้นเป็นหลัก อย่างน้อยก็ขอให้โดดเด่น

8. รูปทรง จะต้องมีความสามัคคีกัน มองดูแล้วจะต้องไม่เป็นเป็นโลโก้ที่ล้มไปข้างหน้าหรือข้างหลัง จะต้องเป็นกราฟขึ้น แล้วต้องเป็นไปในทางบวก ดูแล้วไม่ใช่โลโก้ที่น่ากลัวเกินไปหรือทำให้รู้สึกหดหู่ สำหรับในการออกแบบโลโก้ควรหลีกเหลี่ยงสิ่งเหล่านี้ และต้องเน้นความเป็นพลังบวก เห็นแล้วต้องเป็นพลังงานที่ดี

9. โลโก้ต้องมีเรื่องราว ยกตัวอย่างของร้านกาแฟสตาร์บัคส์ เป็นแบรนด์ที่มีผู้คนทั่วโลกชื่นชอบ โลโก้ของสตาร์บัคส์ มีที่มาจากหนังเรื่องหนึ่งที่มีนางเงือก 2 หาง แล้วนางเงือกตัวนั้นสามารถเรียกหรือเชิญชวนผู้คนให้หันมาสนใจได้ ทางเจ้าของสตาร์บัคส์ก็เลยเลือกใช้โลโก้ที่มีนางเงือกสองหาง อันนี้ก็ถือว่าเป็นการเล่าเรื่องราวที่ดี ในด้านของฮวงจุ้ยแบรนด์ก็ต้องสร้าง Story Telling ถึงจะดีและประสบความสำเร็จ

10. โลโก้ต้องเป็นปลายต้นเปิด ปลายต้นเปิด คืออะไร เป็นหัวของโลโก้ตัวแรกต้องเปิดรับไม่ใช่ปิด ยกตัวอย่างเช่น

  • Chanal : โลโก้ของสินค้าแบรนด์เนมของ Chanal ถ้าสังเกตจะเห็นได้ว่าโลโก้ของ Chanal จะเปิดทั้งข้างหน้าและข้างหลัง ซึ่งทำให้แบรนด์ Chanal เป็นนี้เป็นที่นิยมของหนุ่มๆสาวๆ ทั่วทุกมุมโลก และเป็นแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จมาอย่างยาวนาน ถือว่าเป็นคุณลักษณะที่ดี

 

  • 7-11 : เป็นร้านสะดวกซื้อที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี ที่ต้องนี้มีมากกว่า 10,000 สาขาทั่วโลก ซึ่งเราจะสังเกตเห็นได้ว่าโลโก้ของ 7-11 จะมีสีเขียว แดง ส้ม คือไม้ให้ไฟเสริมกันไปจะไม่รุ่งเรืองได้ไง ในศาสตร์ของฮวงจุ้ยแล้วเนี่ย สีเขียวแดง แพงไม่ต่อ ถือว่าเป็นสีที่ดีในแง่ของการทำธุรกิจ

 

  • BIG C : สีหลักของ  BIG C จะเป็นสีแดงส้ม ซึ่งสีเหล่านี้จะแสดงถึงความรุ่งเรือง การเติบโตและปรับตัวตลอดเวลา

 

  • Google : จะเห็นได้ว่าโลโก้ของ Google นั้นจะมีทั้งหมด 5 สี ซึ่งครบทุกสีตามธาตุ วางสีก็ตามธาตุ ไม่แปลกใจที่ธุรกิจเขาจะประสบความสำเร็จและได้รับความนิยม

 

     “นอกจากการออกแบบโลโก้ให้ดีแล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นความสำเร็จจะเกิดขึ้นไม่ได้ หากคุณไม่วางแผนธุรกิจหรือมีกลยุทธ์ในการทำการตลาดที่ชัดเจน และที่สำคัญสินค้าและบริการของคุณต้องมีคุณภาพด้วย และรวมถึงต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าและคู่ค้าด้วย” มาสเตอร์อลิส สรุปทิ้งท้าย

 

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

อย่างอาร์ต! MAMAD แบรนด์แฟชั่น X ศิลปะ วาดลวดลายสไตล์ Semi Abstract สร้างความแปลก ออกแบบ “ศิลปะที่สวมใส่ได้”

“Me As My Art Daily” ศิลปะคือส่วนหนึ่งของตัวตนเราในทุกวัน คือนิยามของแบรนด์แฟชั่นสุดอาร์ตอย่าง MAMAD ที่นำเอาศิลปะและแฟชั่นมาผสานกัน กลายเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า และหมวกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ความแปลกตา และสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร

เค้กหรือมายากล!? ไอเดียสุดแหวก! เมื่อ “ราเมน” กลายเป็นเค้ก

Bob The Baker Boy ร้านเค้กในสิงคโปร์ทำให้คำว่า “เค้ก” เปลี่ยนไปตลอดกาล จาก "หน้าตา" เค้กที่แทบทุกคนเห็นแล้วต้องหยิบมือถือขึ้นมาถ่าย! ไอเดียแบบนี้เกิดจากความตั้งใจของเมย์ ฟง เจ้าของร้านสุดครีเอทีฟ

ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด ฉบับทายาทรุ่น 3 จาก 3 แบรนด์เก๋า หอยนางรม-น่ำเอี๊ยง-เด็กสมบูรณ์

ธุรกิจครอบครัวที่ผ่านรุ่น 3 ไปได้ต้องทำอย่างไร ? เราจะพาไปดูวิธี ‘ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด’ จาก 3 แบรนด์เก๋า: หอยนางรม - น่ำเอี๊ยง - เด็กสมบูรณ์" ​ ที่ไม่เพียงรักษามรดกครอบครัวไว้ แต่ยังสร้างโอกาสใหม่ๆ อีกด้วย ​