ช่างภาพเตรียมตกงาน! Selfie Studio สตูดิโอถ่ายภาพด้วยตัวเอง เทรนด์ใหม่ของคนขี้อาย ที่กำลังฮือฮาไปทั่วเอเชีย

             

     1..2..3..แอคชั่น!

     ใครเคยมีปัญหาแบบนี้บ้าง อยากได้รูปสวยๆ ดีๆ ลงทุนไปถ่ายในสตูดิโอ แต่รูปที่ได้กลับดูเกร็งๆ แข็งๆ ไม่สวยเป็นธรรมชาติเหมือนที่อยากได้ ปัญหานี้หมดไปแน่นอน เมื่อเจอกับ “Selfie Studio” - สตูดิโอถ่ายภาพด้วยตัวเอง หรือบางคนอาจเรียกว่า Self Photo Studio หรือเรียกสั้นๆ ว่า Self Studio ก็ได้ เทรนด์ถ่ายภาพใหม่ล่าสุดจากประเทศเกาหลีใต้ที่ตอนนี้กำลังฮิตเป็นกระแสในหลายประเทศทั่วเอเชียแล้ว

     โดยรูปแบบการให้บริการดังกล่าว ก็คือ ลูกค้าหรือตัวแบบสามารถเป็นผู้กำหนดและกดถ่ายภาพได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องมีช่างภาพมาคอยกำกับให้ยิ้มสวยๆ หรือลองทำท่าโน่นท่านี้ให้ต้องเขินอาย เมื่อไม่ต้องรู้สึกอึดอัดที่ต้องถ่ายภาพกับคนที่ไม่รู้จัก จึงสามารถจับภาพตัวเองที่เป็นธรรมชาติที่สุดในช่วงเวลาที่ต้องการได้ ที่สำคัญค่าใช้จ่ายก็ถูกกว่า เพราะไม่ต้องจ้างช่างภาพมาถ่ายให้ ภายในสตูดิโอนั้นก็เซตขึ้นมาอย่างที่มืออาชีพใช้กันเลย มีทั้งฉากพื้นหลัง ชุดไฟ อุปกรณ์ประกอบฉาก และกล้องแบบมือโปรจัดไว้ให้พร้อม

“Selfie” หรือการถ่ายภาพตัวเอง คือ หนึ่งในคำยอดฮิตที่ได้ถูกประกาศให้เป็นคำศัพท์แห่งปี 2013 ในยุคที่ผู้คนหันมาใช้สมาร์ทโฟนกันมากขึ้น เพราะนอกจากการพัฒนาแอปพลิเคชันต่างๆ ขึ้นมาแล้ว ยังมีการพัฒนาโปรแกรมถ่ายภาพขึ้นมาด้วย โดยมีการให้ความสำคัญถึงขั้นกำหนดวันเซลฟีสากล (National Selfie Day) ขึ้นมาในวันที่ 21 มิถุนายนของทุกปีเลยทีเดียว

   ถามว่าไม่มีช่างภาพแล้วจะถ่ายกันยังไง วิธีการง่ายๆ ก็คือ ทางสตูดิโอจะมีรีโมทไว้ให้กดแทนการกดชัตเตอร์จากกล้อง โดยจะมีกระจกเงาตั้งอยู่ให้คอยส่องเช็คภาพก่อนที่จะกดถ่ายในแต่ละครั้ง หลังจากกดถ่ายไปแล้วภาพจะขึ้นโชว์บนหน้าจอทันทีเพื่อให้ลูกค้าได้ตรวจเช็ค โดยสามารถกดถ่ายจำนวนกี่ช็อตหรือกี่แอคก็ได้ตามที่ต้องการภายในระยะเวลาที่กำหนด เมื่อถ่ายเสร็จเรียบร้อยแล้วทางสตูดิโอจะเซฟเป็นไฟล์ดิจิตอลให้พร้อมกับให้ลูกค้าเลือกรูปที่ถูกใจที่สุด 1 - 2 รูปหรือแล้วแต่ตกลง เพื่อพิมพ์เป็นที่ระลึกออกมาให้ ซึ่งจะว่าไปก็คล้ายกับบริการของตู้ถ่ายรูปสติ๊กเกอร์สมัยก่อนที่เคยฮิตในยุค 90 เหมือนกันที่ให้เข้าไปถ่ายได้ทีละหลายแอคชั่น และก็ปริ้นต์เป็นรูปออกมา แต่คราวนี้พัฒนาขึ้นมาในรูปแบบจัดเต็มพร็อพพร้อม ฉากพร้อม ไฟพร้อม

     โดยหลังจากที่เริ่มฮิตในหมู่คนเกาหลีแล้ว ก็เริ่มมีการขยายความนิยมไปยังประเทศอื่นต่อไปด้วย เช่น สิงคโปร์, ฮ่องกง, อินโดนีเซีย ฟิลลิปปินส์ ล่าสุด คือ มาเลเซีย ที่เริ่มทยอยเปิดตัวเพิ่มขึ้นในทำเลต่างๆ

     ตัวอย่างเช่น Suafoto Studio ซึ่งตั้งอยู่ในเขต Wangsa Maju ในเมืองกัวลาลัมเปอร์อีกทีหนึ่ง ก็ได้รับแรงบันดาลใจจากเทรนด์ถ่ายภาพของเกาหลีใต้เช่นกัน โดยทางสตูดิโอจะคิดค่าบริการเริ่มต้นที่ RM 30 หรือราว 240 บาท ถ่ายได้ 30 นาที สามารถเข้าใช้บริการได้ 2 คน หากต้องการเพิ่มเพื่อนเข้ามาจะคิดค่าบริการเพิ่มคนละ RM 10 หรือ 80 บาท (สูงสุดไม่เกิน 4 คน) โดยหลังจากถ่ายภาพเสร็จเรียบร้อยจะให้ไฟล์ดิจิตอล และปริ้นต์ภาพ 4 R หรือไซส์ 4 x 6 นิ้วให้อีก 2 รูป โดยลูกค้าสามารถวอลค์อินเข้าไปเลยก็ได้ แต่แนะนำถ้าไม่อยากรอนานให้จองเข้ามาล่วงหน้าจะดีกว่า

     โดยรูปแบบของ Selfie Studio หรือ Self Photo Studio ที่เปิดให้บริการอยู่ในปัจจุบันนี้ในหลายประเทศทั่วโลก มีทั้งแบบเรียบๆ เป็นฉากสีพื้นธรรมดาเหมือนอย่างสตูดิโอมืออาชีพที่ช่างภาพทั่วไปใช้ และแนวแฟนตาซีที่จัดเป็นธีมห้องในรูปแบบต่างๆ ซึ่งราคาและรูปแบบก็จะแตกต่างกันไปอีก อย่างในจีนราคาอาจอยู่ที่ราว 120 หยวนต่อชั่วโมง (600 บาท) แต่อย่างที่ iWan Selfie Studio ซึ่งว่ากันว่าเป็นสตูดิโอเซลฟี่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ที่เหมือนมาดูนิทรรศการมากกว่ามาถ่ายรูปเพียงอย่างเดียว โดยจัดเต็มมีให้เลือกถึง 11 โซน 20 กว่าธีม ตั้งแต่ห้องตุ๊กตาบาร์บี้สีชมพู สวนสวยสไตล์ปารีส โรงน้ำชาในญี่ปุ่น หรือย้อนยุคสู่ฮ่องกงในยุค 90 แถมมีพร็อพมีชุดให้พร้อม คิดค่าบริการอยู่ที่ 29.90 ดอลลาร์ (1,004 บาท) ต่อชั่วโมงในวันธรรมดา และ 35.90 ดอลลาร์ (1,205 บาท) ต่อชั่วโมงสำหรับวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดนักขัตฤกษ์

     

ถึงจะดูเหมือนว่าจะเป็นเทรนด์ดังมาจากเกาหลีใต้ แต่จากที่ลองค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมบนอินเตอร์เน็ต กลับพบว่ารูปแบบการให้บริการ Selfie Studio นั้นเกิดขึ้นครั้งแรกที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา โดยชื่อว่า “Taka Photoo” ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2552 อีก 3 – 4 ปีต่อมาจึงได้เริ่มมีการขยายแฟรนไชส์ไปยังเมืองในประเทศอื่นๆ เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ ฮ่องกงและแวนคูเวอร์ ในแคนนาดา รวมถึงหลายๆ เมืองในยุโรปด้วย

     สำหรับในไทยนั้นจากที่ได้ลองค้นหาข้อมูลพบก็เริ่มมีเปิดให้บริการแล้ว โดยชื่อว่า Stay Studio ตั้งอยู่ที่ซอยทองหล่อ เปิดดำเนินการตั้งแต่ปี 2563 แล้ว โดยมีเจ้าของเป็นช่างภาพชาวเกาหลีใต้ คิดค่าบริการเริ่มต้นที่ราคา 499 บาทสามารถถ่ายได้ในเวลา 30 นาที ถึงแม้ในตอนนี้อาจยังไม่ดังเปรี้ยงปร้างมากนัก แต่เชื่อว่าอีกหน่อยกระแสคงบูมมาถึงไทยเหมือนในหลายประเทศรอบบ้านเราแน่นอน

     สรุปทำไม Selfie Studio ถึงเป็นธุรกิจที่น่าสนใจ และได้รับความนิยมจากผู้บริโภค เหตุผล คือ

     1. เพราะสามารถจับภาพในช่วงเวลาที่เป็นธรรมชาติตามที่ต้องการได้ โดยตัวแบบเป็นคนถ่ายเองจึงไม่ต้องรู้สึกเขินอายเหมือนตอนมีช่างภาพมาถ่าย

     2. การไม่จำกัดจำนวนช็อตที่ถ่าย ทำให้สามารถเพลิดเพลินสนุกได้เต็มที่ในเวลาที่กำหนด

     3. มีบริการ Photoshop ช่วยแต่งภาพให้ระดับหนึ่ง โดยจะแต่งเป็นรูปสีหรือขาวดำก็ได้

     4. ราคาย่อมเยากว่าการจ้างช่างภาพมาถ่ายให้

TEXT : กองบรรณาธิการ

ที่มา : https://www.creatrip.com/en/blog/10190

https://worldofbuzz.com/this-self-photo-studio-in-kl-allows-you-to-take-pictures-all-you-want-without-feeling-awkward/

https://en.wikipedia.org/wiki/Selfie_studio

https://www.todayonline.com/8days/new-selfie-studio-11-immersive-themed-rooms-opens-aljunied-so-you-can-take-next-level-photos-just-mobile-phone-stand-1818316

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

อย่างอาร์ต! MAMAD แบรนด์แฟชั่น X ศิลปะ วาดลวดลายสไตล์ Semi Abstract สร้างความแปลก ออกแบบ “ศิลปะที่สวมใส่ได้”

“Me As My Art Daily” ศิลปะคือส่วนหนึ่งของตัวตนเราในทุกวัน คือนิยามของแบรนด์แฟชั่นสุดอาร์ตอย่าง MAMAD ที่นำเอาศิลปะและแฟชั่นมาผสานกัน กลายเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า และหมวกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ความแปลกตา และสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร

เค้กหรือมายากล!? ไอเดียสุดแหวก! เมื่อ “ราเมน” กลายเป็นเค้ก

Bob The Baker Boy ร้านเค้กในสิงคโปร์ทำให้คำว่า “เค้ก” เปลี่ยนไปตลอดกาล จาก "หน้าตา" เค้กที่แทบทุกคนเห็นแล้วต้องหยิบมือถือขึ้นมาถ่าย! ไอเดียแบบนี้เกิดจากความตั้งใจของเมย์ ฟง เจ้าของร้านสุดครีเอทีฟ

ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด ฉบับทายาทรุ่น 3 จาก 3 แบรนด์เก๋า หอยนางรม-น่ำเอี๊ยง-เด็กสมบูรณ์

ธุรกิจครอบครัวที่ผ่านรุ่น 3 ไปได้ต้องทำอย่างไร ? เราจะพาไปดูวิธี ‘ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด’ จาก 3 แบรนด์เก๋า: หอยนางรม - น่ำเอี๊ยง - เด็กสมบูรณ์" ​ ที่ไม่เพียงรักษามรดกครอบครัวไว้ แต่ยังสร้างโอกาสใหม่ๆ อีกด้วย ​