ธุรกิจทำเงินยุคใหม่ รับจ้างตั้งชื่อทารกขั้นต่ำ 5 หมื่นบาทต่อชื่อ

 

 

     บนโลกใบนี้มีอาชีพที่หลากหลายมาก บางอาชีพมันดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ ตัวอย่างเช่น อาชีพนักนอน อาชีพนักชิมอาหารสุนัข เป็นต้น แต่มันก็มีอาชีพเหล่านี้จริงๆ และวันนี้ทาง SME THAILAND ONLINE ก็ไปเจออีกหนึ่งอาชีพใหม่มา ก็คืออาชีพรับจ้างตั้งชื่อเด็กทารกนั้นเอง และสิ่งที่น่าตกใจมากไปกว่านั้นก็คืออาชีพนี้สามารถทำเงินได้สูงสุด 3 แสนบาทต่อการตั้งชื่อเด็กหนึ่งชื่อ เป็นจำนวนเงินที่ไม่น้อยเลยว่าไหม เรามาทำความรู้จักผู้เชี่ยวชาญในการตั้งชื่อคนนี้กัน

     Taylor A. Humphrey หญิงสาววัย 33 ปี ชาวนิวยอร์ก เป็นผู้เชี่ยวชาญในการตั้งชื่อเด็กทารก ซึ่งเธอมีความสนใจในการตั้งชื่อเด็กทารกมาตั้งแต่เด็ก เธอจำได้ว่าตอนเด็กเธอเสียเวลาไปกับการนั่งอ่านหนังสือการตั้งชื่อเด็กทารกที่แม่ของเธอได้มาจากห้องสมุด แต่ตอนนั้นมันเป็นเพียงแค่ความชอบเท่านั้น และหลังจากเรียนจบมหาวิทาลัยเธอได้ไปลองประกอบอาชีพหลายอย่าง และรวมถึงอาชีพนักเขียนบทภาพยนตร์ด้วย ซึ่งสิ่งที่เธอชอบมากในการทำอาชีพนี้ก็คือ การเลือกตั้งชื่อตัวละครแต่ละตัว และนี่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นในการทำอาชีพของเธอก็ได้

จากความชอบสู่การทำธุรกิจ

     ในปี 2015 เทย์เลอร์ได้นำสิ่งที่เธอชอบมาทั้งชีวิตเผยแพร่สู่โซเชียล โดยเปิดบัญชี Instagram ที่ชื่อว่า @whatsinababyname ซึ่งเธอก็ได้โพสต์ชื่อเด็กทารกที่เธอชื่นชอบลงไป ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาก และมีหลายคนแสดงความคิดเห็นอยากให้เทย์เลอร์แนะนำการตั้งชื่อลูกของเขาให้ ตอนนั้นเธอให้คำแนะนำในการตั้งชื่อฟรี จนกระทั่งปี 2018 เธอคิดว่าความชอบนี้มันสามารถต่อยอดเป็นธุรกิจและสามารถทำเงินให้กับเขาได้

     นับแต่วันนั้นถึงวันนี้เทย์เลอร์ก็ได้ทำอาชีพนี้เป็นเวลาหลายปีแล้ว ในปัจจุบันเธอก็ยังคงให้คำแนะการตั้งชื่อเด็กทารกบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอยู่ เช่น Instagram และ TikTok แต่ละคลิปที่เขาโพสต์ลงนั้นมียอดคนดูหลักล้าน แต่สำหรับลูกค้าคนไหนที่ต้องการตั้งชื่อลูกให้มีความพิเศษจริงๆ ก็สามารถติดต่อไปได้ โดยเธอจะเรียกเก็บค่าบริการจากลูกค้าตั้งแต่ 1,500 ถึง 10,000 ดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ  50,000- 300,000กว่าบาท สำหรับการตั้งชื่อเด็กหนึ่งชื่อ ซึ่งบริการของเขามีตั้งแต่โทรศัพท์พูดคุยแบบธรรมดา ทำแบบสอบถาม และสำหรับคนที่จ่ายสูงก็จะมีความแอดวานซ์ในเรื่องของข้อมูลมากกว่า

ในการตั้งชื่อเด็กอ้างอิงมาจากอะไรบ้าง?

     ในกรณีของเทย์เลอร์ จะพิจารณาจากปัจจัยหลายประการ เช่น อิงจากข้อมูลในประกันสังคม วงศ์ตระกูล และรวมถึงการสังเกตป้ายตามถนน ชื่อจากเครดิตภาพยนตร์ หรือชื่อตามสถานการณ์ต่างๆ ซึ่งเธอจะไม่ตั้งชื่อที่มีความนิยมมากในปัจจุบัน อย่างเช่น ชื่อที่เกี่ยวข้องกับภัยพิบัติ Katrina, Isis และรวมถึงชื่อที่ถูกใช้เรียกบริการเทคโนโลยีอย่าง Alexa หรือ Siri ด้วย

สาเหตุที่ลูกค้าเลือกมาใช้บริการ คือ  พ่อแม่เด็กเริ่มไม่มีแรงบันดาลใจในการตั้งชื่อให้ลูกคนที่สามสี่แล้ว และเหตุนี้เลยทำให้เทย์เลอร์สามารถเข้ามาแก้ปัญหาให้พวกเขาได้

รู้หรือไม่ว่า เทย์เลอร์ช่วยตั้งชื่อเด็ก 100 กว่าคนในปีที่แล้ว และยังบอกอีกว่าคนส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่าเธอสามารถหาเงินเลี้ยงชีพจากการทำอาชีพนี้ได้

“เราเชื่อว่าทุกคนมีความชอบ ลองเอาความชอบนั้นมาต่อยอดเป็นธุรกิจดูสิ มันอาจจะสร้างรายได้ให้กับคุณก็ได้”

 

TEXT : Momo

PHOTO : whatsinababyname

 

ที่มา : https://www.odditycentral.com/news/professional-baby-namer-charges-clients-up-to-10000-per-name.html

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

อย่างอาร์ต! MAMAD แบรนด์แฟชั่น X ศิลปะ วาดลวดลายสไตล์ Semi Abstract สร้างความแปลก ออกแบบ “ศิลปะที่สวมใส่ได้”

“Me As My Art Daily” ศิลปะคือส่วนหนึ่งของตัวตนเราในทุกวัน คือนิยามของแบรนด์แฟชั่นสุดอาร์ตอย่าง MAMAD ที่นำเอาศิลปะและแฟชั่นมาผสานกัน กลายเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า และหมวกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ความแปลกตา และสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร

เค้กหรือมายากล!? ไอเดียสุดแหวก! เมื่อ “ราเมน” กลายเป็นเค้ก

Bob The Baker Boy ร้านเค้กในสิงคโปร์ทำให้คำว่า “เค้ก” เปลี่ยนไปตลอดกาล จาก "หน้าตา" เค้กที่แทบทุกคนเห็นแล้วต้องหยิบมือถือขึ้นมาถ่าย! ไอเดียแบบนี้เกิดจากความตั้งใจของเมย์ ฟง เจ้าของร้านสุดครีเอทีฟ

ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด ฉบับทายาทรุ่น 3 จาก 3 แบรนด์เก๋า หอยนางรม-น่ำเอี๊ยง-เด็กสมบูรณ์

ธุรกิจครอบครัวที่ผ่านรุ่น 3 ไปได้ต้องทำอย่างไร ? เราจะพาไปดูวิธี ‘ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด’ จาก 3 แบรนด์เก๋า: หอยนางรม - น่ำเอี๊ยง - เด็กสมบูรณ์" ​ ที่ไม่เพียงรักษามรดกครอบครัวไว้ แต่ยังสร้างโอกาสใหม่ๆ อีกด้วย ​