ไขความลับ ทำไมที่นอนยางพาราของไทยจึงขายดีในจีน และเอสเอ็มอีจะคว้าโอกาสนี้ได้อย่างไร

 

 

     ใครจะคาคคิดว่าหนึ่งในสินค้าเป็นซิกเนเจอร์ของประเทศไทยและเป็นสินค้าที่กำลังเติบโตในโลกออนไลน์ขายดีบน ทีมอลล์ โกลบอล (Tmall Global) แพลตฟอร์ม B2C ของอาลีบาบา คือ หมอนและที่นอนยางพารา

      โดยในช่วงมหกรรมช้อปปิ้งระดับโลก 11.11 เมื่อปี 2564 ที่ผ่านมา ครึ่งหนึ่งของสินค้าแบรนด์ไทยที่ขายดีที่สุด 10 อันดับแรกบนแพลตฟอร์มคือ ที่นอนยางพารา

      ที่น่าสนใจมากกว่านั้นคือ ที่นอนยางพาราที่มีฉลาก “Made in Thailand” เป็นที่ต้องตาต้องใจของนักช้อปออนไลน์ในประเทศจีนมานานแล้ว โดยแบรนด์ที่เข้าสู่ตลาดช่วงแรกๆ คือ Nittaya แบรนด์จากกรุงเทพมหานคร ที่เริ่มต้นการขายใน ทีมอลล์ โกลบอล ตามคำแนะนำของกระทรวงพาณิชย์ ประเทศไทย เมื่อเดือนเมษายน ปี 2558 และไม่นานหลังจากที่เข้าร่วมบนแพลตฟอร์ม ก็ประสบความสำเร็จจากการขายที่นอนยางพาราไปมากกว่า 20 ล้านหยวน หรือกว่าหนึ่งร้อยล้านบาท จากมหกรรมสินค้าเซลล์ที่จัดร่วมกับ ทีมอลล์ โกลบอล

เสน่ห์ที่นอนยางพาราของไทย

       ปัจจัยแรกและปัจจัยสำคัญที่ทำให้หมอนและที่นอนยางพาราของไทยเป็นที่นิยมในหมู่ผู้บริโภคชาวจีนคือ ประโยชน์ในด้านสุขภาพ หมอนและที่นอนที่ผลิตจากน้ำยางธรรมชาติจะทำให้นอนสบายและสามารถระบายอากาศได้ดี อีกทั้งยังมีคุณสมบัติในการต้านเชื้อแบคทีเรียและป้องกันไรฝุ่นอีกด้วย นอกจากนี้ ยังช่วยปกป้องคอและกระดูกสันหลังได้ดี เพราะมีความยืดหยุ่นสูง และยังสามารถรองรับคนที่มีน้ำหนักต่างกันหรือคนที่มีท่านอนแตกต่างกันได้

      ข้อดีอีกประการหนึ่งคือ น้ำยางเป็นวัสดุหมุนเวียนจากธรรมชาติ สามารถกรีดได้จากต้นยางโดยไม่ต้องตัดต้นไม้ ทำให้ขั้นตอนการผลิตมีความยั่งยืนและปราศจากคาร์บอน ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นทางเลือกที่นิยมในหมู่ผู้บริโภคที่ใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

      นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมีสภาพแวดล้อมทางภูมิศาสตร์ที่แตกต่างไม่เหมือนใคร ซึ่งเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของต้นยางและการผลิตน้ำยางชั้นดี อีกทั้งประเทศไทยยังมีแสงแดดที่เพียงพอ ปริมาณน้ำฝนที่อุดมสมบูรณ์ อุณหภูมิเฉลี่ยต่อปีประมาณ 25-27 °C และยังมีความชื้นสัมพัทธ์สูงกว่า 80% ตลอดหลายเดือน ด้วยเหตุนี้ คำว่า “Made in Thailand” ที่ติดอยู่บนฉลากสินค้า จึงเป็นเครื่องยืนยันถึงคุณภาพในสายตาของนักช้อปชาวจีนที่มองหาหมอนและที่นอนยางพาราคุณภาพสูงที่พวกเขาต้องการ

กลยุทธ์มัดใจผู้บริโภคชาวจีน

        ผู้บริโภคชาวจีนให้ความสำคัญกับการนอนอย่างมีคุณภาพ ควบคู่ไปกับคุณภาพชีวิตโดยรวมที่เพิ่มขึ้น จึงเป็นที่คาดการณ์ว่า ตลาดสินค้าหมอนและที่นอนยางพาราของไทยอาจเติบโตขึ้นได้อีก อย่างไรก็ตาม ในตลาดแมสบนโลกออนไลน์ ผู้ซื้ออาจยังไม่รู้จักเกี่ยวกับสินค้าที่นอนยางพารา ดังนั้นการศึกษาผู้บริโภคจึงเป็นก้าวแรกในการประสบความสำเร็จด้านอีคอมเมิร์ซ

      การศึกษาผู้บริโภคเป็นสิ่งที่ ทีมอลล์ โกลบอล ทำงานร่วมกับพันธมิตรแบรนด์มาโดยตลอด เช่น ในวันนอนหลับโลกเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา ทีมอลล์ โกลบอล ได้ร่วมมือกับแบรนด์สินค้ายางพารามากมาย รวมไปถึงแบรนด์ JACE ผ่านแคมเปญส่งเสริมการขายหลายช่องทาง โดยให้ความสำคัญกับบทบาทของหมอนและที่นอนที่มีส่วนสำคัญอย่างมากในการนอนอย่างมีคุณภาพ ซึ่งได้สนับสนุนหมอนกับที่นอนยางพาราธรรมชาติจากประเทศไทยอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมส่งเสริมการขายอื่น ๆ ที่นำเสนอสินค้ายางพาราจากประเทศไทย อย่างงาน 11.11 Global Shopping Festival เมื่อปีที่แล้ว ที่จัดโดย ทีมอลล์ โกลบอล เป็นต้น

      นับตั้งแต่ก่อตั้งแบรนด์บน ทีมอลล์ โกลบอล ในปี 2562 แบรนด์ JACE สามารถทำยอดขายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์มได้เกิน 156 ล้านหยวน หรือกว่าแปดร้อยล้านบาท ภายในปีเดียวเท่านั้น ความสำเร็จดังกล่าว ส่วนหนึ่งมาจากการทำงานร่วมกับ ทีมอลล์ โกลบอล ในด้านการตลาดเนื้อหาและการสร้างเทรนด์ให้แก่สินค้า ด้วยสินค้าที่มีจุดขายที่โดดเด่นอย่างน้ำยางธรรมชาติ 95% ที่ได้มาจากสวนยางพาราในจังหวัดสุราษฎร์ธานี

อนาคตของที่นอนยางพาราจากประเทศไทยจะเป็นอย่างไร?

        การเข้าสู่ตลาดอีคอมเมิร์ซของจีนเปรียบเสมือนการเดินทางที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แม้จะเป็นแบรนด์ที่ติดตลาดไปแล้วอย่างแบรนด์ Nittaya หรือ JACE ก็ตาม ในมุมมองเจ้าของแบรนด์ Nittaya นั้นผู้บริโภคชาวจีนมีความต้องการที่หลากหลายมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นผลมาจากความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ และการสร้างความหลากหลายให้แก่สินค้าในแต่ละแบรนด์ก็ทำให้มีสินค้าที่สวยงามและน่าสนใจเกิดขึ้นมากมาย จากการคาดการณ์แนวโน้มดังกล่าว บริษัทจึงได้พัฒนาสินค้าหมอนและที่นอนยางพาราใหม่ ๆ ที่เจาะกลุ่มผู้บริโภคเฉพาะ เช่น หมอนรองเอวสำหรับหญิงตั้งครรภ์ หมอนสำหรับเด็กพิมพ์ลายการ์ตูน เสื่อโยคะ และหมอนสำหรับงีบบนโต๊ะทำงาน

      ในทางกลับกัน แบรนด์ JACE ก็ยังตระหนักถึงการเพิ่มขึ้นของคนวัย Gen Z ในฐานะที่เป็นผู้บริโภคหลักในประเทศจีน โดยเจาะไปยังกลุ่มผู้บริโภคที่อายุน้อยลงและทำความเข้าใจถึงความต้องการเฉพาะของพวกเขา แบรนด์ยังมุ่งเน้นไปที่การหาแนวทางในการใช้สินค้าในหลากหลายสถานการณ์ เพื่อสร้างความแตกต่างให้ตัวเองจากคู่แข่งท่ามกลางแบรนด์ผู้บริโภคใหม่ ๆ ที่เพิ่มขึ้น

      กระแสผู้บริโภคชาวจีนที่มองหาสินค้าที่ทำให้สุขภาพดีและยั่งยืนมากขึ้น รวมไปถึงการขยายตัวของอีคอมเมิร์ซในพื้นที่ที่ด้อยพัฒนาของจีน ยังคงเป็นโอกาสทางการตลาดที่สำคัญสำหรับผู้ขายที่นอนยางพารา แม้จะมีผู้เข้าร่วมตลาดรายใหม่เข้ามาในตลาดเพิ่มมากขึ้นก็ตาม ดังนั้น จึงขึ้นอยู่กับแบรนด์ว่าจะจับเทรนด์ในตลาด เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และคว้าโอกาสนี้ไว้ได้หรือไม่

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

อย่างอาร์ต! MAMAD แบรนด์แฟชั่น X ศิลปะ วาดลวดลายสไตล์ Semi Abstract สร้างความแปลก ออกแบบ “ศิลปะที่สวมใส่ได้”

“Me As My Art Daily” ศิลปะคือส่วนหนึ่งของตัวตนเราในทุกวัน คือนิยามของแบรนด์แฟชั่นสุดอาร์ตอย่าง MAMAD ที่นำเอาศิลปะและแฟชั่นมาผสานกัน กลายเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า และหมวกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ความแปลกตา และสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร

เค้กหรือมายากล!? ไอเดียสุดแหวก! เมื่อ “ราเมน” กลายเป็นเค้ก

Bob The Baker Boy ร้านเค้กในสิงคโปร์ทำให้คำว่า “เค้ก” เปลี่ยนไปตลอดกาล จาก "หน้าตา" เค้กที่แทบทุกคนเห็นแล้วต้องหยิบมือถือขึ้นมาถ่าย! ไอเดียแบบนี้เกิดจากความตั้งใจของเมย์ ฟง เจ้าของร้านสุดครีเอทีฟ

ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด ฉบับทายาทรุ่น 3 จาก 3 แบรนด์เก๋า หอยนางรม-น่ำเอี๊ยง-เด็กสมบูรณ์

ธุรกิจครอบครัวที่ผ่านรุ่น 3 ไปได้ต้องทำอย่างไร ? เราจะพาไปดูวิธี ‘ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด’ จาก 3 แบรนด์เก๋า: หอยนางรม - น่ำเอี๊ยง - เด็กสมบูรณ์" ​ ที่ไม่เพียงรักษามรดกครอบครัวไว้ แต่ยังสร้างโอกาสใหม่ๆ อีกด้วย ​