โรแยล พลัส เพิ่มโอกาสตลาดส่งออก ปั้นนวัตกรรมโยเกิร์ตจากมะพร้าว ที่เก็บได้นาน 18 เดือนรายแรกในไทย

TEXT : Nittaya Su.

PHOTO : Royal Plus

 

     โยเกิร์ต หนึ่งในผลิตภัณฑ์จากนมที่ผู้คนทั่วไปนิยมรับประทานเพื่อสุขภาพ ซึ่งอุดมไปด้วยโปรตีนและแบคทีเรียชนิดดีมากมาย โดยปัจจุบันนอกจากจะผลิตมาจากนมวัวแล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์โยเกิร์ตจากพืชหรือที่เรียกว่า Plant Based Yogurt ออกมาเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่แพ้นมวัวด้วย แต่ส่วนใหญ่ยังติดปัญหาที่เรื่องรสชาติที่ไม่อร่อยเหมือนทำมาจากนมวัว อีกทั้งยังมี Shelf Life หรืออายุการเก็บรักษาที่สั้น

     จากโจทย์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น จึงทำให้ “โรแยล พลัส” หรือ "Plus" บริษัทส่งออกน้ำมะพร้าวและน้ำนมมะพร้าว รวมถึงเครื่องดื่มอื่นๆ จากผลผลิตทางการเกษตรของไทย ได้คิดค้นพัฒนาโยเกิร์ตพร้อมดื่มจากน้ำนมมะพร้าวขึ้นมาในชื่อ “โคโคนัท โยเกิร์ต” นอกจากจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้ผู้บริโภคแล้ว ยังสามารถเก็บรักษาได้นานกว่าโยเกิร์ตทั่วไปหลายเท่าด้วย โดยมีอายุเก็บรักษาได้นานถึง 18 เดือน ทำให้สะดวกต่อการบริโภคและการจำหน่าย และยังเพิ่มโอกาสให้ธุรกิจในการขายไปยังตลาดต่างประเทศ

ต่อยอดผลิตภัณฑ์ จากคุณค่าที่มี

     “จริงๆ เราทำอยู่ในแนวทางของมะพร้าวอยู่แล้ว จนปัจจุบันเมื่อกระแสการบริโภคโปรตีนทางเลือกและโปรตีนจากพืชมากขึ้น เราจึงพยายามมองหาผลิตภัณฑ์เพื่อมาตอบโจทย์ จนกระทั่งมองไปถึงโยเกิร์ตอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์จากนมวัวยอดนิยมของผู้บริโภค อย่างที่รู้กันว่าปัจจุบันมีคนแพ้ผลิตภัณฑ์จากนมวัวมากขึ้น เราจึงคิดทำโยเกิร์ตจากมะพร้าวขึ้นมา เพราะเป็นวัตถุดิบหลักที่เรามีอยู่แล้ว

 

     “โดยเราพบว่าปัจจุบันมีการผลิตโยเกิร์ตจากพืชออกมามากก็จริงอยู่ แต่มักติดปัญหาเรื่องรสชาติที่อาจจะอร่อยหรือไม่หอมมันเท่ากับโยเกิร์ตจากนมวัว แต่หากเป็นมะพร้าว เรามีความมันจากนมมะพร้าว ซึ่งสามารถทำให้รสชาติกลมกล่อมขึ้นมาได้ ที่สำคัญในน้ำมะพร้าวยังมีสารอาหารและแร่ธาตุมากมาย เป็นเครื่องดื่มเพิ่มพลังงาน Energy drink จากธรรมชาติ เราจึงค่อนข้างมั่นใจในผลิตภัณฑ์ที่ทำออกมา” พลแสง แซ่เบ๊ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท โรแยล พลัส จำกัด (มหาชน) เล่าที่มาของผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ฟัง

เพิ่มโอกาสธุรกิจ ด้วยอายุการเก็บรักษาที่นานขึ้น

     นอกจากการเลือกนำมะพร้าวมาสร้างจุดเด่นให้กับผลิตภัณฑ์แล้ว โรแยล พลัสยังสร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์ ด้วยการยืดอายุการเก็บรักษาที่นานขึ้นกว่าโยเกิร์ตทั่วไปไม่ว่าจากนมวัวหรือจากพืช เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับผู้บริโภค และยังเป็นการสร้างโอกาสให้ธุรกิจเพื่อขยายไปยังตลาดต่างประเทศด้วย

     “ปกติโยเกิร์ตส่วนใหญ่ไม่ว่าจะพืชหรือสัตว์มักมีข้อจำกัดของเชลฟ์ไลฟ์ที่สั้น โดยมีอายุเก็บรักษาได้ประมาณ 2 - 3 สัปดาห์ อย่างมากที่สุดก็ 3 เดือน จึงเหมาะที่จะขายในช่องทางที่เร็ว หรือโลจิสติกส์ระยะสั้นไม่ต้องขนส่งนาน ดังนั้นการจะส่งไปต่างประเทศเลิกคิดได้เลย อีกอย่างสำหรับโยเกิร์ตทั่วไป คือ ระหว่างวันแรกที่ผลิตออกมา จนถึงวันใกล้หมดอายุ รสชาติจะเปลี่ยนไม่เหมือนวันที่ผลิตออกมาแรกๆ เนื่องจากมีเชื้อบางตัวที่ยังไม่ตาย ไม่ได้เป็นอันตรายนะ แต่นานไปอาจทำให้รสชาติดรอปลงได้ จาก Pain Point ที่เกิดขึ้นเราจึงพยายามหานวัตกรรมขึ้นมาเพื่อช่วยเก็บรักษาให้ได้นานขึ้น โดยเราทำออกมาในรูปแบบของโยเกิร์ตพร้อมดื่ม”

     โดยนวัตกรรมที่โรแยล พลัสนำมาใช้ผลิตโยเกิร์ตพร้อมดื่ม เพื่อให้ยืดอายุได้นานขึ้น เริ่มขึ้นตั้งแต่การวางแผนรับวัตถุดิบมะพร้าวมาจากเกษตรกร โดยเก็บวันนั้น นำเข้าโรงงานผลิตในวันนั้นเลยเพื่อให้ได้ความสดใหม่ เนื่องจากโรงงานผลิตตั้งอยู่ใกล้แหล่งเพาะปลูกอยู่แล้วในพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม โดยจะรับซื้อมะพร้าวทั้งลูก ทั้งเนื้อและน้ำ จากนั้นนำมาเข้าสู่กระบวนการผลิตในระบบปิด

     จนมาถึงการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ จะเลือกใช้เป็นขวดแก้วแทน เพราะนอกจากช่วยยืดอายุการเก็บรักษาสินค้าได้นานกว่าบรรจุภัณฑ์ชนิดอื่นแล้ว ยังมีความพรีเมียมมากกว่าช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าได้ ทำให้ง่ายต่อคู่ค้าที่จะนำสินค้าไปกระจายต่อ จากกระบวนการที่กล่าวมาจึงทำให้โยเกิร์ตของโรแยล พลัสสามารถเก็บรักษาได้นานถึง 18 เดือน ที่สำคัญยังเก็บรักษาไว้ได้ในอุณหภูมิปกติ โดยไม่ต้องแช่เย็น จึงสะดวกทั้งต่อผู้บริโภคที่ไม่ต้องเก็บแช่ไว้ในตู้เย็นตลอดเวลา หรือพกพาไปไหนก็สะดวก สำหรับโอกาสทางการค้าก็ยังสามารถกระจายไปได้ทุกพื้นที่ทั่วโลกด้วย

ถูกจังหวะ ถูกเวลา ถูกโอกาส

     โดยหากถามถึงโอกาสของผลิตภัณฑ์ Plant based ที่มีในปัจจุบัน กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท โรแยล พลัสฯ กล่าวว่าถือเป็นช่วงที่พอเหมาะพอดี ตลาดกำลังลงตัวไปได้ดี

     “จริงๆ เราเริ่มคิดโปรเจกต์ขึ้นมาเมื่อ 3 ปีที่แล้วก่อนโควิด-19 จะเข้ามา โดยพัฒนามาเรื่อยๆ จนวันนี้ก็ถือว่าพอดี เรากำลังอยู่ในจุดที่พอดีของตลาด คือ ตลาดไม่ได้เล็กเกินไป จนผลิตได้ลำบากไม่คุ้มกับต้นทุนที่ลงไป แต่ก็ไม่ได้ใหญ่เกินไปจนกลายเป็นสินค้าแมสไปแล้ว เป็นช่วงพอเหมาะที่ยังทำให้ผู้บริโภคสามารถจดจำเราได้ หากเริ่มในตอนนี้ ซึ่งภาพรวมของตลาด Plant based ยังมีการเติบโตมากขึ้น

     “จากเดิมเราอาจมีน้ำนมมะพร้าวเป็นสินค้าเรือธงของธุรกิจ แต่ ณ ปัจจุบันเรามองว่าจากแนวโน้มของตลาดแล้ว อนาคตต่อไปโคโคนัท โยเกิร์ตจะเป็นสินค้าใหม่ที่สร้างรายได้การเติบโตเพิ่มขึ้นมาให้กับธุรกิจได้”

     นอกจากผลิตภัณฑ์โยเกิร์ตจากมะพร้าวแล้ว ปัจจุบันยังมีสินค้าน้ำนมมะพร้าว Plant based ออกมาจำหน่ายเพิ่มเติมด้วย

  โรแยล พลัส

  FB : royalplusofficial

  www.royalplus.co.th

 

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
        

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

อย่างอาร์ต! MAMAD แบรนด์แฟชั่น X ศิลปะ วาดลวดลายสไตล์ Semi Abstract สร้างความแปลก ออกแบบ “ศิลปะที่สวมใส่ได้”

“Me As My Art Daily” ศิลปะคือส่วนหนึ่งของตัวตนเราในทุกวัน คือนิยามของแบรนด์แฟชั่นสุดอาร์ตอย่าง MAMAD ที่นำเอาศิลปะและแฟชั่นมาผสานกัน กลายเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า และหมวกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ความแปลกตา และสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร

เค้กหรือมายากล!? ไอเดียสุดแหวก! เมื่อ “ราเมน” กลายเป็นเค้ก

Bob The Baker Boy ร้านเค้กในสิงคโปร์ทำให้คำว่า “เค้ก” เปลี่ยนไปตลอดกาล จาก "หน้าตา" เค้กที่แทบทุกคนเห็นแล้วต้องหยิบมือถือขึ้นมาถ่าย! ไอเดียแบบนี้เกิดจากความตั้งใจของเมย์ ฟง เจ้าของร้านสุดครีเอทีฟ

ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด ฉบับทายาทรุ่น 3 จาก 3 แบรนด์เก๋า หอยนางรม-น่ำเอี๊ยง-เด็กสมบูรณ์

ธุรกิจครอบครัวที่ผ่านรุ่น 3 ไปได้ต้องทำอย่างไร ? เราจะพาไปดูวิธี ‘ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด’ จาก 3 แบรนด์เก๋า: หอยนางรม - น่ำเอี๊ยง - เด็กสมบูรณ์" ​ ที่ไม่เพียงรักษามรดกครอบครัวไว้ แต่ยังสร้างโอกาสใหม่ๆ อีกด้วย ​