จับตลาดมามี้ คุณแม่สายเปย์ ทุ่มสุดตัวเพื่อน้องหมา น้องแมว ปลุกตลาดสัตว์เลี้ยงไทยโต 4 หมื่นล้านบาท

TEXT : กองบรรณาธิการ

 

     ปฏิเสธไม่ได้ว่าจากค่านิยมของคนรุ่นใหม่ที่มักอยู่เป็นโสดมากขึ้น หรือถึงแม้แต่งงานไปแล้ว แต่ก็ไม่อยากมีลูก เพราะยังรักในชีวิตอิสระ หรือบางคนถึงอยากมี แต่ก็ติดปัญหามีบุตรยาก สิ่งที่จะมาช่วยทดแทนให้คลายเหงาได้บ้าง ก็คือ การหาสัตว์เลี้ยงสักตัวมาอยู่เป็นเพื่อน ซึ่งเมื่อได้ลองรักไปแล้ว ย่อมเกิดความผูกผันอยากดูแลให้ดีที่สุด บวกกับยังไม่มีภาระมากมายให้ต้องรับผิดชอบ จึงสามารถทุ่มเทได้อย่างเต็มที่ ไม่ต่างจากการเลี้ยงลูกดีๆ คนหนึ่งนั่นเอง ตลาดมามี้หรือคุณแม่สายเปย์เหล่านั้น จึงกลายเป็นอีกหนึ่งตลาดที่หลายแบรนด์หรือหลายธุรกิจต่างหันมาให้ความสนใจ และพยายามหาวิธีโกยเงินจากกระเป๋าคุณแม่ๆ เหล่านั้นให้ได้

ทำไมถึงต้องเป็นคุณแม่สายเปย์

     ในอดีตที่ผ่านมาส่วนใหญ่ลักษณะการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงของเรา ก็คือ เลี้ยงเพื่อคลายเหงา เลี้ยงไว้เป็นเพื่อน หรือเลี้ยงไว้เฝ้าบ้านบ้าง ลักษณะของผู้เลี้ยงจึงเป็นเหมือน “Pet Owner” แต่ปัจจุบันจากบริบทสังคมที่เปลี่ยนไป สัตว์เลี้ยงมีความสำคัญกับเรามากขึ้น จากการเลี้ยงเพื่อเป็นเจ้าของจึงเป็นเหมือนการดูแลเลี้ยงดูสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัวมากกว่า ผู้เลี้ยงจึงเปลี่ยนบทบาทมาเป็นผู้ปกครองหรือที่เรียกว่า “Pet Parents” ซึ่งทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “Pet Humanization” หรือ พฤติกรรมการเลี้ยงสัตว์ที่ผู้เลี้ยงไม่ได้รู้สึกแค่เป็นเจ้าของ แต่เป็นเหมือนพ่อแม่ของสัตว์เลี้ยงมากกว่า

     โดย Morgan Stanley Research ได้ให้นิยามพฤติกรรมการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเหมือนลูกนั้นว่า “Petriarchy” หรือที่เราชอบเรียกกันว่า ทาสแมว ทาสหมา และจากความรู้สึกที่เกิดขึ้นดังกล่าว จึงทำให้เหล่าผู้เลี้ยงอยากดูแลเอาใจใส่สัตว์เลี้ยงของพวกเขาที่พร้อมทุ่มเททุกอย่างให้ ทั้งเงินและการดูแลจนแทบไม่แตกต่างจากมนุษย์เลย ตั้งแต่อาหารการกิน เสื้อผ้า สุขภาพ บ้านที่อยู่อาศัย ของเล่น ไปจนถึงบริการสุดพิเศษต่างๆ เท่าที่จะหาให้ได้

เป็นมามี้สายเปย์ต้องจ่ายปีละเท่าไหร่

     เมื่อสถาปนาตัวเองเป็นแม่แล้ว ก็ย่อมทำได้ทุกอย่างเพื่อลูก ดังนั้นคติประจำใจที่เหล่ามามี้ทาสหมา ทาสแมวทั้งหลายยืดถือไว้ ก็คือ “ตัวเองอดได้ แต่ลูกห้ามอด” ดังนั้นในแต่ละเดือนค่าใช้จ่ายสำหรับสัตว์เลี้ยงไม่ว่าสุนัข หรือแมวจึงไม่น้อยเลย

     โดยจากการให้ข้อมูลของ RS Group ซึ่งปัจจุบันได้หันมาจับธุรกิจสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้นด้วย ด้วยการเปิดตัวแบรนด์ Lifemate เพื่อจำหน่ายอาหารพรีเมียมสำหรับสุนัขและแมว ได้เปิดเผยว่าค่าเฉลี่ยค่าใช้จ่ายพื้นฐานสำหรับการเลี้ยงสุนัขและแมวในแต่ละปีที่มามี้หรือคุณแม่สายเปย์ต้องจ่ายจะอยู่ที่ราวปีละ 14,200 บาท หรือเฉลี่ยเป็นเดือน คือ 1,183 บาท มีรายละเอียดดังนี้

  • ค่าใช้จ่ายสำหรับสุนัข / ปี
  • อาหารเม็ด 4,800 บาท
  • อาหารเปียก 3,000 บาท
  • ขนม 1,800 บาท
  • วัคซีน 1,000 บาท
  • ของเล่น อุปกรณ์อื่นๆ 2,400 บาท
  • วิตามิน 1,200 บาท

    รวม =  14,200 บาท / ปี

 

  • ค่าใช้จ่ายสำหรับแมว / เดือน
  • อาหารเม็ด 4,200 บาท
  • อาหารเปียก 1,800 บาท
  • ขนม 1,200 บาท
  • ทราย 2,400 บาท
  • วัคซีน 1,000 บาท
  • ของเล่น อุปกรณ์อื่นๆ 2,400 บาท
  • วิตามิน 1,200 บาท

 รวม =  14,200 บาท / ปี          

     โดยในความเป็นจริงหากรวมสินค้าและบริการอื่นๆ เช่น เสื้อผ้า, เครื่องแต่งกาย, อาบน้ำ แต่งขน, แก็ตเจ็ตต่างๆ หรืออุปกรณ์พิเศษ เช่น ห้องน้ำแมวอัตโนมัติ ก็ยิ่งทำให้รายจ่ายบวกเพิ่มขึ้นไปอีก ดีไม่ดีอาจมากถึง 2 – 3 เท่าก็ได้ ซึ่งจากการใช้จ่ายที่มากขึ้นนั่นเองบวกกับจำนวนการเลี้ยงที่เพิ่มขึ้น จึงทำให้ปัจจุบันมูลค่าตลาดสัตว์เลี้ยงในเมืองไทยปี 2565 โดยเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ประมาณ 4.18 หมื่นล้านบาท โดยเติบโตเพิ่มขึ้นทุกปีๆ ละประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์

     ตัวอย่างล่าสุดที่เห็นได้ชัดว่าตลาดสัตว์เลี้ยงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นมากแค่ไหน ก็คือ การจัดงาน PET Expo Thailand 2022 ณ ไบเทค บางนา ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งต้องขยายเพิ่มพื้นที่การจัดจาก 1 ฮอลล์เพิ่มเป็น 2 ฮอลล์ เพื่อรองรับจำนวนผู้ร่วมออกบูธที่เพิ่มจาก 200  บริษัทในปีที่แล้ว เป็น 300 บริษัทในปีนี้นั่นเอง

อยากมัดใจมามี้ต้องทำยังไง

     เมื่อคุณแม่พร้อมจ่าย การจะมัดใจคุณแม่ได้ จากตัวอย่างที่เห็นจากหลายๆ ธุรกิจทำกัน สามารถถอดออกมาเป็นกลยุทธ์มัดใจได้ดังนี้

  • มอบประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ

     เช่น บริการนั่งเครื่องไปกับสัตว์เลี้ยงแสนรัก ไปกับแคมเปญ “เที่ยวบินนี้พาน้องเที่ยว” หรือ Pet On Board ซึ่งจัดขึ้นมาโดยสายการบินนกแอร์ เพื่อให้บรรดามามี้ได้พาน้องหมา น้องแมว สัตว์เลี้ยงแสนรักนั่งโดยสารเคียงข้างเพื่อบินไปเที่ยวด้วยกัน โดยเปิดให้บริการในเที่ยวบินกรุงเทพฯ - เชียงใหม่ และกรุงเทพฯ – ภูเก็ต

  • ช่วยแก้ปัญหา

     เช่น การคิดเสื้อผ้าติดพัดลมปรับอากาศ ที่คิดขึ้นมาโดย Sweet Mommy แบรนด์เสื้อผ้าสำหรับแม่และเด็กที่ต่อมาภายหลังเริ่มหันมารุกตลาดสัตว์เลี้ยงมากขึ้น โดยจากปัญหาคลื่นความร้อนที่ยาวนานขึ้นในช่วงเดือนมิถุนายนที่ประเทศญี่ปุ่น จึงได้ปิ๊งไอเดียผลิตเสื้อผ้าติดพัดลมพกพา เพื่อช่วยคลายร้อนให้สัตว์เลี้ยงได้มากขึ้น ว่ากันว่าหลังจากผลิตออกมานำหน่ายในเดือนกรกฎาคม มีผู้สนใจซื้อไปมากกว่า 100 ชุด สนนราคาอยู่ที่ชุดละ 9,900 เยน หรือประมาณ 3,863 บาทไทย

  • เพิ่มความสะดวกสบาย

     เช่น การเปิดตัวร้าน “Pet Us จำหน่ายสินค้าและบริการครบวงจรสำหรับสัตว์เลี้ยงของ Lotus เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าที่เป็นมามี้ทั้งหลายในการได้ดูแลน้องหมา น้องแมว เพื่อพามาหาหมอ ฉีดวัคซีน อาบน้ำตัดแต่งขน ขณะเดียวกันก็สามารถเข้าไปช้อปปิ้งซื้อของเข้าบ้าน ขณะที่ลูกๆ กำลังรับบริการอยู่ก็ได้

  • คุณภาพต้องมาเป็นที่หนึ่ง ราคาไม่เกี่ยง

     เช่น ปัจจุบันมีอาหารสุนัขและแมวทางเลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสูตรออร์แกนิค หรือช่วยควบคุมน้ำหนัก ซึ่งราคาต่อกิโลกรัมหนึ่งนั้นไม่ได้ถูกๆ เลย ยกตัวอย่างเช่น ยี่ห้อ Anf อาหารเม็ดสูตรออร์แกนิค 6 Free ขนาด 6 ก.ก ราคา 2,500 บาท, ยี่ห้อ Instinct (Raw Boost Healthy Weight) สำหรับสุนัขควบคุมน้ำหนัก สูตรไก่ ขนาด 9 ก.ก ราคาอยู่ที่ 7,500 บาท หรืออาหารแมวเกรด Holistic ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มให้ร่างกาย ปลอดสารเคมี เช่น ยี่ห้อ Canagan ขนาด 8 ก.ก. ราคา 3,600 บาท

  • ให้สิทธิพิเศษเหมือนกับคน

     เช่น ปัจจุบันที่พักหรือคอนโดมิเนียมหลายแห่งได้คำนึงถึงการออกแบบเพื่อใช้ชีวิรร่วมกันระหว่างคนและสัตว์เลี้ยงด้วย ยกตัวอย่างเช่น โครงการ Whizdom The Forestias – Petopia ที่ตัวโครงการจะมีสนามหญ้ายาวกว่า 150 เมตร เพื่อการวิ่งเล่นพักผ่อน รวมถึงมีการติดตั้งประตู 2 ชั้นเพื่อความปลอดภัยต่อสัตว์เลี้ยง หรืออย่าง Major Petscape ที่จะมีการจัดพื้นที่ Pet Zone เพื่อให้สัตว์เลี้ยงได้วิ่งเล่นได้ ลดความเครียดจากการอยู่ในพื้นที่จำกัด, การออกแบบราวกันตกบริเวณระเบียง เพื่อความปลอดภัยต่อสัตว์เลี้ยงมากขึ้น เป็นต้น

     กล่าวโดยสรุป ก็คือ มามี้ หรือคุณแม่สายเปย์ เพื่อน้องหมา น้องแมวนั้น พร้อมจะซัพพอตทุกอย่าง เพื่อเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับบรรดาลูกๆ ขอเพียงสินค้าหรือบริการเหล่านั้นช่วยตอบโจทย์ หรือแก้ไขปัญหาให้ได้ รับรองว่าคุณสามารถเรียกเงินจากกระเป๋าแม่ๆ เหล่านั้นได้อย่างแน่นอน

ที่มา : https://www.brandage.com/article/29294/Pet-Humanization-

https://www.prachachat.net/breaking-news/news-916032

https://www.matichon.co.th/bullet-news-today/news_3323399

https://www.tnnthailand.com/news/wealth/120923/

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

เกือบหลับ แต่กลับมาเป็นธุรกิจร้อยล้าน Plantae - La Glace 2 แบรนด์รุ่นใหม่ใจถึงทำถึง

Plantae และ La Glace สองแบรนด์รุ่นใหม่คือ ตัวอย่างของผู้ที่ไม่ยอมแพ้ ทั้งคู่ต่ายเคยตกอยู่ในวิกฤต แต่ด้วยแพชชันและการปรับตัวที่รวดเร็ว พวกเขากลับมาสร้างรายได้ระดับร้อยล้านได้สำเร็จ

อย่างอาร์ต! MAMAD แบรนด์แฟชั่น X ศิลปะ วาดลวดลายสไตล์ Semi Abstract สร้างความแปลก ออกแบบ “ศิลปะที่สวมใส่ได้”

“Me As My Art Daily” ศิลปะคือส่วนหนึ่งของตัวตนเราในทุกวัน คือนิยามของแบรนด์แฟชั่นสุดอาร์ตอย่าง MAMAD ที่นำเอาศิลปะและแฟชั่นมาผสานกัน กลายเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า และหมวกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ความแปลกตา และสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร

เค้กหรือมายากล!? ไอเดียสุดแหวก! เมื่อ “ราเมน” กลายเป็นเค้ก

Bob The Baker Boy ร้านเค้กในสิงคโปร์ทำให้คำว่า “เค้ก” เปลี่ยนไปตลอดกาล จาก "หน้าตา" เค้กที่แทบทุกคนเห็นแล้วต้องหยิบมือถือขึ้นมาถ่าย! ไอเดียแบบนี้เกิดจากความตั้งใจของเมย์ ฟง เจ้าของร้านสุดครีเอทีฟ