รอยยิ้มแห่งอาเซียน เวียดนาม เสือซุ่มทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว

TEXT / PHOTO : วิชชุ ชาญณรงค์

 

    ฉากหลังม่านสมรภูมิรบอาจสร้างบาดแผลทิ้งไว้ยากแก่การเยียวยา แต่ทว่าบทเรียนความเจ็บปวดนั้นกลับปลุกให้เวียดนามลุกขึ้นสู้ เมื่อประชาชนรู้รักสามัคคีร่วมกันพัฒนาประเทศ ดอกไม้หลังม่านเหล็กจึงค่อยๆ เบ่งบานสะพรั่งอย่างมีความหวัง แถมยังเป็นเสือซุ่มที่หน้าตาหลายมิติ ทั้งทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว

     ถึงกับเคยมีหนังสือพิมพ์เศรษฐกิจฉบับหนึ่งจั่วหัวข่าวไว้ว่า “เวียดนาม GDP เติบโตรวดเร็วที่สุดในโลก” งานนี้ขยี้ตาแล้วขยี้อีก จากความไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะรายละเอียดระบุว่า ประเทศที่จะเติบโตเร็วสุดอย่างน่าจับตาคือ โตขึ้น 5.1 เปอร์เซ็นต์ต่อเนื่องทุกปี โดยอ้างอิงจาก Price Waterhouse Coopers หรือ PwC บริษัทที่ปรึกษารายใหญ่ของโลก ออกรายงานพยากรณ์เศรษฐกิจโลกในปี พ.ศ.2593 ในรายงานมีประเด็นน่าสนใจคือ การเติบโตอย่างก้าวกระโดดเกิดจากการเพิ่มขึ้นของมหาเศรษฐีซึ่งอาศัยอยู่ในเมือง อีกทั้งเวียดนามเป็นศูนย์กลางการผลิตอย่างรวดเร็วจึงทำให้ 10 ปีที่ผ่านมาระหว่างปี 2550 กับปี 2560 เดิมเคยเติบโต 210 เปอร์เซ็นต์ ต่อจากนี้ผลคาดการณ์ระบุว่า ตลาดความมั่งคั่งของเวียดนามจะเติบโตอีก 200 เปอร์เซ็นต์ในอีก 10 ปีข้างหน้า (อ้างอิงโดยรายงานของบริษัทวิจัยตลาด New World Wealth) เรียกว่าสุดทึ่งและสุดยอดจริงๆ

     อีกทั้ง IMF ยังคาดว่า เศรษฐกิจเวียดนามปี 2565-2570 จะขยายตัวเฉลี่ยสูงถึง 6.8% ต่อปี สูงที่สุดในอาเซียน และสูงกว่าเศรษฐกิจโลกถึงกว่าเท่าตัว

     อีกเช่นกัน...เราไม่อาจเชื่อได้จากหน้ากระดาษหรือคำบอกเล่าเพียงฝ่ายเดียว การเดินทางไปเยือนมองเขามองเรา จึงเป็นวิธีเดียวที่น่าจะช่วยไขคำตอบได้กระจ่างที่สุด เพราะที่ผ่านมาไม่ว่าจะกี่ครั้งกี่คราว เมืองใหญ่ เวียดนามก็มักต้อนรับด้วยภาพบรรยากาศของมหานครซึ่งถอดแบบพิมพ์เดียวกันทั้งถนน ตรอก ซอกซอย พลุกพล่านไปด้วยพาหนะมอเตอร์ไซค์ ที่นำพาผู้คนไปยังที่ทำงาน และภารกิจอื่นๆ รวมถึงความคล้ายคลึงทางสภาพสังคม วัฒนธรรม วิถีชีวิต แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาสายการบินต่างเปิดเส้นทางใหม่บินตรงไปยังเมืองใหญ่ และความซิวิไลซ์ก็เริ่มฉายชัดขึ้นจนน่าแปลกใจ

     บางคนชอบเดินทางแบบคนท้องถิ่นเพราะมันให้ประสบการณ์สุดพิเศษสุดประทับใจ เจ้าสามล้อหรือแซบาแบ้ง หรือที่นิยมเรียกว่า ซิโคล่ (Cyclo) นั้น ยังคงมีให้เลือกใช้บริการสำหรับนั่งเที่ยวชมเมือง ซึ่งผู้โดยสารจะนั่งอยู่หน้า ส่วนคนขี่จะถีบจักรยานอยู่หลังผู้โดยสาร ทำให้ผู้โดยสารสามารถชมวิวทิวทัศน์ได้ค่อนข้างกว้าง แถมรถซิโคล่ยังมีโครงสร้างที่แข็งแรงมาก สามารถใช้ขนของที่มีน้ำหนักมากๆ ได้ด้วยยังคงมีอยู่ และพบเห็นได้ตามถนนหลายเส้นทาง เผลอบางทียังได้มีโอกาสสื่อสารสนทนากับคนปั่น ซึ่งอาจจะกลายเป็นไกด์ท้องถิ่นมืออาชีพคนหนึ่งเลยก็ว่าได้

     สำหรับโปรแกรมหลักๆ ถ้าไปเที่ยว เว้ ดานัง และฮอยอันคงต้องไม่พลาด สัมผัสมนต์เสน่ห์ของสถาปัตยกรรมเก่า สไตล์เฟรนช์โคโลเนียล ณ เมืองโฮจิมินห์ เยี่ยมชมสุสานจักรพรรดิตือดื๊ก หนึ่งในสุสานที่มีสถาปัตยกรรมสวยงามที่สุดของกษัตริย์เหงียน ชมนครจักรพรรดิแห่งราชวงศ์เหงียน ณ เมืองเว้

     พร้อมเปิดประสบการณ์การนั่งกระเช้า หรือเคเบิล คาร์ ที่มีเส้นทางยาวที่สุดในโลกเพื่อชมเมืองดานัง โดยกระเช้าที่ Ba Na Hills ครองสถิติของ Guinness World Records ไว้สองรายการ คือ กระเช้าที่ยาวที่สุด (5,042 เมตร) โดยไม่หยุดแวะ และกระเช้าที่สูงที่สุดที่ (1,291 เมตร) โดยไม่หยุดแวะเช่นเดียวกัน

     ว่ากันว่า บานาฮิลล์เป็นที่ตากอากาศดีที่สุดในเวียดนามกลาง ซึ่งได้ค้นพบในสมัยฝรั่งเศสเข้ามาปกครองเวียดนามและได้มีการสร้างถนนอ้อมขึ้นไปบนภูเขาเพื่อใช้เป็นสถานที่พักผ่อนในระหว่างการรบ กระทั่งทุกวันนี้ ได้พัฒนาจนกลายเป็นโรงแรม ร้านค้า คาเฟ่ เรสเตอรองต์ ซึ่งมี (ถ้ำบ่มไวน์ขนาดใหญ่) ฟลอร่าปาร์ค สวนสนุก คาสิโน และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไว้ครบครัน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการพักผ่อนแนวฮันนีมูนและแบบครอบครัว ซึ่งระหว่างเมืองเว้กับนครดานัง มีอุโมงค์เจาะภูเขาซึ่งยาวที่สุดในเอเชียอาคเนย์ด้วย

     สำหรับในแง่การพัฒนาภายในนครดานังเองก็กำลังจะมีท่าเรือแห่งใหม่ที่มีศักยภาพใหญ่กว่าท่าเรือเดิม ซึ่งเป็นท่าเรืออันดับ 3 ของประเทศ พร้อมทั้งมีการพัฒนาทางหลวงและสาขาอื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียงอีกมากทีเดียว เชื่อว่าในอนาคตจะมีโครงการสำคัญๆ มากกว่านี้อีกเพียบ

     จากคำบอกเล่าของคนเวียดนาม ว่ากันว่าค่าครองชีพค่าจ้างและค่าใช้จ่ายในการริเริ่มธุรกิจในนครดานังถูกกว่า กรุงฮานอยและนครโฮจิมินห์ ซิตี้นับเท่าตัว ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มีนักลงทุนมาลงทุนที่นครแห่งนี้เป็นจำนวนมาก และความเป็นเมืองชายทะเลเองก็ดึงดูดโรงแรมเชนใหญ่ๆ ให้เข้ามาพัฒนาลงทุนมากขึ้นเช่นกัน
ขณะที่โปรแกรมเยี่ยมชมเมืองฮอยอัน เมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรม เมืองแห่งโคมไฟหลากสี เพื่อสัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเวียดนามก็เป็นอีกหนึ่งหมุดหมายที่นักเดินทางไม่พลาดเที่ยวแวะชม

     ทางเลือกสำหรับใครรักสงบหรือมากับครอบครัว ต้องการพักผ่อน ห่างไกลจากเสียงรบกวนของแหล่งท่องเที่ยวกลางคืนอาจเลือกที่พักบริเวณ French Quarter หรือบริเวณ Cathedral District มีโรงแรมหลายแห่งให้เลือก ส่วนมากจะเป็นโรงแรมหรูแต่ที่นิยมกันมากในหมู่นักท่องเที่ยวแบ็กแพ็กเกอร์จะเลือกพักบริเวณย่านเมืองเก่า หรือ Old Quarter นอกจากจะได้เดินชมบ้านเรือนเก่าแล้ว ทุกวันนี้คนรุ่นใหม่ ต่างเข้ามาจับจองเปิดคาเฟ่ร้านรวงร่วมสมัยเพิ่มมากขึ้น ที่พักแนวโฮสเทลและแอร์บีแอนด์บีก็เกิดขึ้นราวกับดอกเห็ด เรียกว่าเป็นแหล่งรวมโฮสเทลและโรงแรมราคาถูกไว้มากมาย มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ บริษัททัวร์ต่างๆ และแหล่งช้อปปิง รวมถึงยังเป็นถนนคนเดินในตอนกลางคืน บริเวณนี้เหมาะสำหรับผู้ชื่นชอบการสังสรรค์พบปะผู้คนและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และยังเป็นบริเวณที่สะดวกที่สุดต่อการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ของเมืองด้วย แถมฮานอยยังเป็นแหล่งสตรีตฟูดอันดับต้นของเอเชีย มีทุกอย่างที่อยากจะลองชิม เรียกว่านี่คือสวรรค์ของนักเดินทาง ผู้ชื่นชอบมนต์เสน่ห์ของไนท์ไลฟ์เลยก็ว่าได้

     ปิดท้ายด้วยเรื่องราวพิพิธภัณฑ์หลักฐานสงครามซึ่งได้รับจัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งที่น่าสนใจของเวียดนาม โดยเฉพาะในนครโฮจิมินห์จากทั้งหมด 10 แห่ง ซึ่งจากที่เคยได้รับความนิยมในโครงการท่องเที่ยว 100 สิ่งที่น่าสนใจของนครโฮจิมินห์ และยังได้ระบุในระบบพิพิธภัณฑ์เพื่อสันติภาพ 60 แห่งขององค์การยูเนสโกด้วย

     แม้หลายคนอาจจะอยากไปเห็นและสัมผัสแต่เราขอแอบข้ามสถานที่พวกนี้ เพราะเหตุผลบางอย่างบางประการที่ไม่อาจสาธยาย อธิบายได้หมด ณ พื้นที่นี้ ขอเลือกเก็บความสวยงามน่าจดจำในแบบวิถีอันสงบงามตามแบบชาวเวียต เพราะยังมีอีกหลายเมืองที่อยากจะไปเก็บแต้มและเดินย้อนรอยในมุมสวยงามเพียงเพื่อค้นหาความเป็นแก่นแท้

     และขอแอบเฝ้ามองเวียดนามในมุมใหม่เพื่อเรียนรู้เปิดกว้างและยอมรับในความเป็นเวียดนามสมัยใหม่จะดีกว่าก็เท่านั้น...

Information

  • เที่ยวเวียดนามช่วงไหนดี สภาพอากาศเวียดนามมีความหลากหลาย เพราะมีภูมิประเทศหลากหลาย แบบช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ อากาศจะหนาวเย็น ยิ่งถ้าไปทางตอนเหนือของประเทศอากาศก็จะยิ่งเย็นจัดไปอีก ส่วนช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน มีฝนเล็กน้อย เริ่มต้นฤดูร้อนในช่วงเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม ซึ่งช่วงนี้จะมีฝนสลับกันไป ช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายน ก็จะเป็นฤดูใบไม้ร่วง ขึ้นอยู่ว่าคุณจะเดินทางไปเที่ยวภาคไหนของเวียดนาม และชอบสภาพอากาศแบบไหน ทางที่ดีควรตรวจสอบอากาศก่อนการเดินทางจะดีที่สุด

 

  • หากมีเหตุฉุกเฉินสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
    สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย (Royal Thai Embassy,Hanoi)
    26 Phan Boi Chau st. Hanoi, Vietnam
    Tel : (844) 3823-5092-4 (Satellite) 0-2354-6204-5 e-mail : thaihan1@fpt.vn

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

อย่างอาร์ต! MAMAD แบรนด์แฟชั่น X ศิลปะ วาดลวดลายสไตล์ Semi Abstract สร้างความแปลก ออกแบบ “ศิลปะที่สวมใส่ได้”

“Me As My Art Daily” ศิลปะคือส่วนหนึ่งของตัวตนเราในทุกวัน คือนิยามของแบรนด์แฟชั่นสุดอาร์ตอย่าง MAMAD ที่นำเอาศิลปะและแฟชั่นมาผสานกัน กลายเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า และหมวกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ความแปลกตา และสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร

เค้กหรือมายากล!? ไอเดียสุดแหวก! เมื่อ “ราเมน” กลายเป็นเค้ก

Bob The Baker Boy ร้านเค้กในสิงคโปร์ทำให้คำว่า “เค้ก” เปลี่ยนไปตลอดกาล จาก "หน้าตา" เค้กที่แทบทุกคนเห็นแล้วต้องหยิบมือถือขึ้นมาถ่าย! ไอเดียแบบนี้เกิดจากความตั้งใจของเมย์ ฟง เจ้าของร้านสุดครีเอทีฟ

ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด ฉบับทายาทรุ่น 3 จาก 3 แบรนด์เก๋า หอยนางรม-น่ำเอี๊ยง-เด็กสมบูรณ์

ธุรกิจครอบครัวที่ผ่านรุ่น 3 ไปได้ต้องทำอย่างไร ? เราจะพาไปดูวิธี ‘ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด’ จาก 3 แบรนด์เก๋า: หอยนางรม - น่ำเอี๊ยง - เด็กสมบูรณ์" ​ ที่ไม่เพียงรักษามรดกครอบครัวไว้ แต่ยังสร้างโอกาสใหม่ๆ อีกด้วย ​