สตาร์บัคส์ ผุดไอเดียเครื่องช่วยทำเครื่องดื่มตามสั่ง มากกว่า 170,000 วิธี ทำงานเร็วขึ้น ลดปัญหาออร์เดอร์ผิด

TEXT : Sir.nim

  • Starbucks คือ หนึ่งในเชนร้านกาแฟชื่อดังของโลก ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้บุกเบิกการปรับแต่งเมนู โดยมีการเก็บรวบรวมสถิติคำสั่งที่สตาร์บัคส์ให้ลูกค้าสามารถปรับแก้ไขได้ตามที่ต้องการได้ รวมๆ แล้วมากกว่า 170,000 วิธีทีเดียว

 

  • ล่าสุด เพื่อคิดแก้ไขปัญหา เพื่อทำให้การทำงานราบรื่นขึ้น ไม่ยุ่งยาก ลดข้อผิดพลาด จึงได้มีการยื่นจดสิทธิบัตรเครื่องช่วยทำเครื่องดื่มตามสั่งขึ้นมา เพื่อช่วยให้เหล่าบาริสต้าไม่ต้องจดจำออร์เดอร์เอง ซึ่งตัวเครื่องจะจ่ายน้ำเชื่อม ไปจนถึงสารปรุงแต่งต่างๆ ให้อัตโนมัติ

 

  • นอกจากนี้ยังว่ากันว่าเจ้าเครื่องดังกล่าวยังสามารถออกแบบสีสันตามชุด หรือสีตามวันในสัปดาห์ ไปจนถึงสีสันต่างๆ ที่ลูกค้าต้องการได้ด้วย เพื่อช่วยตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคลของลูกค้าได้มากขึ้น

 

     หนึ่งในปัญหาสำคัญของธุรกิจร้านอาหารหรือร้านขายเครื่องดื่มเองก็ตาม สิ่งหนึ่งที่มักต้องเจออยู่เสมอๆ ก็คือ ความต้องการเฉพาะบุคคลของลูกค้าที่อาจมีรายละเอียดยิบย่อยแตกต่างกันไป ตัวอย่างเช่น สั่งเส้นเล็กน้ำเหมือนกัน แต่บางคนอาจมีคำสั่งพิเศษ เช่น ไม่ใส่กระเทียมเจียว ไม่เอาผักชี ไม่เอาถั่วงอกก็ได้ หรืออย่างร้านกาแฟ คุณอาจสั่งเมนูคาปูชิโน่เย็นเหมือนกัน แต่บางคนบอกว่าเอาหวานน้อย บางคนหวานมาก บางคนไม่ชอบนมข้น ให้ใส่ไซรัปแทน เป็นต้น

     จะเห็นได้ว่าต่อให้มีแค่เมนูเดียว แต่ก็มีหลายคำสั่งได้จากรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของตัวบุคคลที่ซ่อนอยู่เหล่านี้ ซึ่งส่วนหนึ่งแม้จะช่วยทำให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจได้ แต่อีกมุมหนึ่งก็กลับเป็นความยุ่งยากให้กับธุรกิจ โดยเฉพาะพนักงานที่ต้องจดจำออร์เดอร์ให้ได้ จนอาจทำให้เกิดความล่าช้าในการทำงาน หรือความผิดพลาดตามมาก็ได้

     จากปัญหาดังกล่าวนี้เอง จึงทำให้สตาร์บัคส์ หนึ่งในเชนร้านกาแฟชื่อดังของโลกที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้บุกเบิกในการปรับแต่งเมนู เพื่อให้ลูกค้าสามารถแก้ไขคำสั่งซื้อของพวกเขาได้ เกิดไอเดียอยากพัฒนาเครื่องช่วยชงกาแฟตามสั่งขึ้นมา เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับบาริสต้า ลดการใช้เวลาทำงานลง ไม่ต้องปวดหัวกับคำสั่งซื้อที่ซับซ้อน รวมถึงลดความผิดพลาดในการทำออร์เดอร์ได้ ที่สำคัญยังช่วยให้บริษัทสามารถทำรายได้เพิ่มขึ้น จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นพิเศษของลูกค้าได้ด้วย

กระแสไวรัลในโซเชียล ตัวช่วยเร่งความต้องการเฉพาะบุคคล

     ก่อนที่จะเล่าถึงคุณสมบัติของเครื่องช่วยทำเครื่องดื่มตามสั่งตามที่สตาร์บัคส์ได้ประกาศออกมานั้น เราอยากชวนมาดูเหตุผลการเพิ่มขึ้นของความต้องการเฉพาะบุคคลของผู้บริโภคยุคนี้กันก่อนว่ามีสาเหตุเพราะอะไร

     Sara Trilling ประธาน Starbucks North America ได้กล่าวว่าเหตุผลส่วนหนึ่งที่ส่งเสริมให้ลูกค้าของสตาร์บัคส์ต้องการออกแบบเครื่องดื่มในแบบฉบับของตัวเองมากยิ่งขึ้น ก็คือ กระแสไวรัลบนโซเชียล โดยเฉพาะอย่างยิ่งบน TikTok ที่เป็นคลิปวิดีโอสั้น ซึ่งผู้คนมักอยากทำตามๆ กัน ยกตัวอย่างเช่นคำสั่งซื้อ "ไวท์มอคค่าเย็น 1 แก้ว กับโฟมครีมหวานวานิลลาและราดคาราเมลเพิ่ม" เคยเป็นหนึ่งในเมนูลับจาก TikTok ที่เหล่าบาริสต้าต้องทำอยู่บ่อยๆ วันหนึ่งหลายสิบแก้ว โดยบาริสต้าหลายคนของสตาร์บัคส์เคยกล่าวว่า ในเครื่องดื่ม 1 แก้ว พวกเขาต้องเจอการดัดแปลงเมนูจากปกติมากกว่า 13 คำสั่ง หรือมากกว่านั้นก็มี ซึ่งหลายครั้งที่พวกเขาไม่มั่นใจในรสชาติของเครื่องดื่มที่ทำออกไปด้วยซ้ำ

     มีบาริสต้าร้านกาแฟเชนดังบางคนกล่าวว่า ปัจจัยหนึ่งที่ส่งเสริมให้ลูกค้าสามารถดัดแปลง หรือคิดเมนูใหม่ๆ ขึ้นมาได้มากขนาดนี้ เป็นเพราะนโยบายของทางแบรนด์เองที่อนุญาตให้ลูกค้าใช้ประโยชน์จากการปรับเปลี่ยนไม่จำกัดผ่านการแอปบนมือถือ ซึ่งทำให้พวกเขาสามารถทำงานได้ยากขึ้นกับเมนูเครื่องดื่มที่มีความซับซ้อนขึ้น จนบางครั้งอาจสร้างความหงุดหงิดให้กับลูกค้าได้

ถึงดูน่าปวดหัว แต่ก็สร้างมูลค่าเพิ่มได้มากขึ้น

     แต่อย่างที่บอกถึงจะดูเหมือนส่งผลต่อการทำงานที่ยุ่งยากขึ้น แต่ในอีกมุมหนึ่งสตาร์บัคส์เอง ก็กลับมีรายได้เพิ่มขึ้นจากคำสั่งซื้อพิเศษเหล่านั้นจากลูกค้า Sara Trilling กล่าวในไตรมาสที่ 4 ช่วงเดือนพฤศจิกายนในปี 2565 ที่ผ่านมา สตาร์บัคส์รายางานว่าบริษัทมีรายได้จากน้ำเชื่อมหรือซอสรสชาติต่างๆ ที่ใช้ราดหน้าเครื่องดื่มกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ โดยเพิ่มขึ้นกว่า 60 เปอร์เซ็นต์จากปีก่อนหน้านั้น โดยยอดขายดังกล่าวเพิ่มขึ้นสองเท่าตั้งแต่ปี 2562

     โดยคำสั่งซื้อพิเศษต่างๆ เหล่านี้จะมีการคิดราคาเพิ่มขึ้นราว 80 เซ็นต์ต่อรายการ เช่น น้ำเชื่อมรสชาติต่างๆ อาจมีบ้างบางรายการที่ไม่ได้คิดค่าใช้จ่ายเพิ่ม ซึ่งปัจจุบันสตาร์บัคส์มีวิธีปรับแต่งเครื่องดื่มในร้านค้าของตนจากออร์เดอร์ที่ลูกค้าสั่งเข้ามารวมๆ แล้วกว่า 170,000 วิธีทีเดียว โดยผู้บริหารสตาร์บัคส์มองว่าแม้นี่จะส่งผลต่อความยุ่งยากในการทำงานที่เพิ่มขึ้น แต่ก็ถือเป็นเอกลักษณ์และจุดเด่นที่ทำให้สตาร์บัคส์แตกต่างจากคู่แข่ง ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลให้บริษัทมิได้เลือกที่จะลดหรือปรับเปลี่ยนเมนูเครื่องดื่มให้น้อยลง แต่เลือกที่จะหาโซลูชั่นเพื่อการทำงานที่ง่ายขึ้นมาทดแทนนั่นเอง

     “สตาร์บัคส์เรามุ่งเน้นที่จะใช้แนวทางให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลางในการสร้างสรรค์นวัตกรรมเครื่องดื่ม และมองหาวิธีใหม่ๆ เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าของเราในฐานะส่วนหนึ่งของ Starbucks Experience ซึ่งไม่มีร้านกาแฟอื่นใดในโลกที่มีความสามารถแบบเราในการตอบสนองคำขอของลูกค้าในการปรับแต่งเมนูต่างๆ ได้ในทันที และก็ไม่มีบริษัทกาแฟแห่งใดที่มีความสามารถเหมือนเราในด้านรสชาติ และการสร้างส่วนผสมสุดพิเศษ มีความหลากหลาย เช่น น้ำเชื่อม, สารปรุงแต่งอื่นๆ, วิปครีมโฟม เป็นต้น เพื่อมอบสิ่งที่ลูกค้าต้องการ” Howard Schultz ซีอีโอชั่วคราวของแบรนด์กล่าวที่งาน Starbucks ประจำเดือนพฤศจิกายนในปีที่ผ่านมา

ไม่ใช่ตามสั่งแค่รสชาติ แต่ยังออกแบบสีสันให้เข้ากับสีชุดได้ด้วย

     โดยแนวคิดในการพัฒนาเครื่องช่วยชงเครื่องดื่มตามสั่งนั้น มีการยื่นจดสิทธิบัตรไปเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา โดยว่ากันว่าเครื่องดังกล่าวจะช่วยให้การทำงานของเหล่าบาริสต้าเป็นไปได้ง่ายขึ้น โดยที่พวกเขาไม่ต้องจดจำออร์เดอร์ให้ยุ่งยาก ตัวเครื่องจะช่วยจ่ายน้ำเชื่อม ไปจนถึงสารปรุงแต่งต่างๆ ให้อัตโนมัติ แทนการที่พนักงานต้องไปไล่กดซอสหรือน้ำเชื่อมจากขวดปั๊ม ทำให้ช่วยลดขั้นตอนการทำงานลงได้ด้วย พนักงานสามารถทำงานได้เร็วขึ้น ลดความผิดพลาดได้น้อยลง

     ว่ากันว่าเจ้าเครื่องดังกล่าวที่คิดจะทำออกมานี้ ยังมีคุณสมบัติพิเศษสามารถช่วยออกแบบ หรือทำเครื่องดื่มที่มีชั้นหลากสีสันให้เข้ากับชุดของผู้สั่ง ไปจนถึงสีของสภาพอากาศที่เกิดขึ้นในวันนั้น สีทีมกีฬาที่ชอบ สีตามวันในสัปดาห์ ไปจนถึงสีสันต่างๆ ที่ต้องการได้ โดยลูกค้าสามารถป้อนข้อมูลผ่านออนไลน์ในแอปพลิเคชันบนมือถือของแบรนด์ได้

     อย่างไรก็ตาม ถึงจะมีการยื่นจดสิทธิบัตรไปแล้ว แต่ก็ยังไม่มีการรายงานที่แน่ชัดเจนว่าเครื่องดังกล่าวจะถูกผลิตเพื่อนำออกมาใช้งานเมื่อใด หน้าตาที่แท้จริงของเครื่องเป็นเช่นไร ทุกอย่างยังถูกเก็บไว้เป็นความลับอยู่ คงต้องรอติดตามชมกันต่อไป แต่อย่างน้อยๆ วันนี้สตาร์บัคส์ก็ได้ทำให้เห็นแล้วว่า การให้ความสำคัญกับการทำตลาดเฉพาะบุคคลในโลกยุคปัจจุบันนี้มีความสำคัญเช่นไร และสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทได้จริงๆ เพียงแต่อาจต้องหาวิธีการจัดการที่มีประสิทธิภาพ เพื่อบาลานซ์ระหว่างการทำงานจริงและความต้องการของลูกค้าให้ไปด้วยกันได้ดีนั่นเอง

ที่มา : https://www.businessinsider.com/starbucks-patents-machine-elaborate-customized-drinks-coffee-change-color-modify-2023-2?fbclid=IwAR1h4B-cqaAh-qdVNxu7sDkbf00v4k-3ulQEVzbotG8MLk-ANYwuHE0CP9A

https://www.standard.co.uk/tech/starbucks-patent-coffee-machine-custom-drinks-outfit-b1061745.html?fbclid=IwAR3fni6Eljz4k-ntC4bhld0I8huNu3Djms72UujmKvuq3R1RygesD8cBhd4

https://www.buzzfeed.com/shelbyheinrich/starbucks-order-twitter-viral?bfsource=relatedmanual

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

อย่างอาร์ต! MAMAD แบรนด์แฟชั่น X ศิลปะ วาดลวดลายสไตล์ Semi Abstract สร้างความแปลก ออกแบบ “ศิลปะที่สวมใส่ได้”

“Me As My Art Daily” ศิลปะคือส่วนหนึ่งของตัวตนเราในทุกวัน คือนิยามของแบรนด์แฟชั่นสุดอาร์ตอย่าง MAMAD ที่นำเอาศิลปะและแฟชั่นมาผสานกัน กลายเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า และหมวกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ความแปลกตา และสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร

เค้กหรือมายากล!? ไอเดียสุดแหวก! เมื่อ “ราเมน” กลายเป็นเค้ก

Bob The Baker Boy ร้านเค้กในสิงคโปร์ทำให้คำว่า “เค้ก” เปลี่ยนไปตลอดกาล จาก "หน้าตา" เค้กที่แทบทุกคนเห็นแล้วต้องหยิบมือถือขึ้นมาถ่าย! ไอเดียแบบนี้เกิดจากความตั้งใจของเมย์ ฟง เจ้าของร้านสุดครีเอทีฟ

ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด ฉบับทายาทรุ่น 3 จาก 3 แบรนด์เก๋า หอยนางรม-น่ำเอี๊ยง-เด็กสมบูรณ์

ธุรกิจครอบครัวที่ผ่านรุ่น 3 ไปได้ต้องทำอย่างไร ? เราจะพาไปดูวิธี ‘ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด’ จาก 3 แบรนด์เก๋า: หอยนางรม - น่ำเอี๊ยง - เด็กสมบูรณ์" ​ ที่ไม่เพียงรักษามรดกครอบครัวไว้ แต่ยังสร้างโอกาสใหม่ๆ อีกด้วย ​