รวมตัวเลขเศรษฐกิจน่ารู้! ตัวช่วยวางแผนธุรกิจ SME ปี 66

TEXT : ภัทร เถื่อนศิริ

Main Idea

  • ข้อมูล คือ อาวุธทางธุรกิจ นี่คือตัวเลขที่สำคัญที่จะช่วยให้การทำธุรกิจในปีกระต่ายกระโดดได้ไกลกว่าเก่า

 

     ยินดีต้อนรับเข้าสู่ปี 2566 ครับ ผมเชื่อว่าปีนี้คงเป็นปีที่ดีของหลายๆ ท่านอย่างแน่นอน มีแนวโน้มหลายๆ ปัจจัยที่น่าจะส่งผลกระทบทางบวกต่อภาวะเศรษฐกิจของไทย ผมขอเริ่มต้นปีกับการดูตัวเลขที่สำคัญๆ กับธุรกิจ SME อย่างเรากันนะครับ

  • ปี 66 เป็นปีแรง Double Effect ดีก็จะดีสองเท่า ร้ายก็เช่นกัน

 

  • 69 เราอาจจะใช้เลขหยินหยาง “69” เปลี่ยนปีร้ายกลายเป็นปีที่ดีก็ได้

 

  • 66 = ฮก ฮก  เทพเจ้าที่ชื่อว่า  ฮก ลก ซิ่ว  3 เทพเจ้าจีนแห่งความมงคล ที่คนจีนนับถือกันมาอย่างยาวนาน โดยความหายของ ฮก  หมายถึง ความโชคดี มีโชคลาภ มั่งคั่ง ดังนั้นปี 66 นี้น่าจะแสดงถึงความมั่งคั่งx2

 

  • 3.8% คือ ตัวเลขประมาณการณ์ GDP ของธนาคารแห่งประเทศไทย และ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในปี 2566 ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเติบโตขึ้นมากกว่าปี 2565 อย่างแน่นอน

 

  • 3.4% คือ แนวโน้มการขยายตัวของการส่งออกที่ลงลง จากราว 8% ในปี 2565 โดยได้รับผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงพุ่งสูง และนโยบายการเงินที่ตึงตัวเร็วพร้อมกันทั่วโลก โดยสหภาพยุโรปและอังกฤษมีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะถดถอยชัดเจนขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ และประเทศสำคัญในเอเชียล้วนมีทิศทางชะลอตัวลง อย่างไรก็ดี สินค้าบางหมวดยังคงมีแนวโน้มเติบโตดีต่อเนื่อง ได้แก่ สินค้ากลุ่มบริโภค อาหาร อาหารแปรรูป สินค้าเกษตรแปรรูป สินค้าเทคโนโลยี ยานยนต์ ตลอดจนสินค้าเกี่ยวเนื่องกับราคาน้ำมัน

 

  • 2% คือ คาดการณ์ ณ สิ้นปีอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยมีแนวโน้มปรับขึ้นต่อเนื่องในปี 2566 ทำให้ดอกเบี้ยธนาคารพาณิชย์ขยับขึ้นตาม ส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินสูงขึ้น และส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจ โดยในภาพรวมภาคธุรกิจอุตสาหกรรมจะได้รับผลเชิงลบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ดี เชื่อว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากการดำเนินนโยบายทางการเงินที่ตึงตัวจะช่วยลดแรงกดดันด้านราคาได้ แต่ส่งผลให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจปรับชะลอลงเช่นกัน โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยังไม่แข็งแกร่งนัก

 

  • 18.5 ล้านคน เป็นตัวเลขคาดการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2566 ภาคการท่องเที่ยวมีโมเมนตัมฟื้นตัวต่อเนื่อง จากความต้องการท่องเที่ยวเพื่อชดเชยในช่วงสถานการณ์โควิด และพฤติกรรมการท่องเที่ยวภายหลังเปิดประเทศส่วนใหญ่เป็นจุดหมายปลายทางระยะใกล้ ซึ่งไทยได้อานิสงส์จากกลุ่มที่มีแนวพรมแดนติดกัน รวมถึงอินเดียและตะวันออกกลาง ส่งผลให้นักท่องเที่ยวอินเดียกลายเป็นกลุ่มที่ครองส่วนแบ่งตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงเป็นอันดับ 2 รองจากมาเลเซีย อีกทั้งตลาดตะวันออกกลางซึ่งเป็นกลุ่มมีกำลังซื้อสูงก็เติบโตได้อย่างโดดเด่น หนุนการเติบโตในแง่ของรายรับจากการท่องเที่ยวระหว่างรอการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเข้ามาในช่วงครึ่งหลังของปี 2566

 

  • 98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เป็นราคาคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ย ลดลงจากราว 102 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในปี 2565 ซึ่งเป็นผลจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง แต่ก็ยังสูงกว่าระดับปกติ ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิต โดยอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจะอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมพลาสติก เคมีภัณฑ์ และที่เกี่ยวเนื่องกับการใช้น้ำมันและก๊าซ ในขณะที่อุตสาหกรรมอื่นๆ จะได้รับผลกระทบในรูปแบบของค่าใช้จ่ายด้านโลจิสติกส์และราคาวัตถุดิบที่แพงขึ้น ทำให้ต้นทุนของสินค้าเพิ่มขึ้นเร็ว สวนทางกับราคาขายที่ไม่สามารถเพิ่มขึ้นได้ในอัตราที่เท่ากัน โดยเฉพาะในภาวะที่อำนาจซื้อลดลง ย่อมส่งผลต่อผลกำไรของธุรกิจให้ลดลง

 

  • 12% คือ ตัวเลขภาคการท่องเที่ยวที่คิดเป็นสัดส่วนของ GDP และ 20% ของการจ้างงานรวม โดยมียอดนักท่องเที่ยวต่างชาติล่าสุด ณ วันที่ 24 ธันวาคม อยู่ที่ 10.6 ล้านคน และมีแนวโน้มที่ยอดรวมทั้งปีจะใกล้เคียง 11 ล้านคน หรือมากกว่า 1 ใน 4 ของสถิติสูงสุด 40 ล้านคนในปี 2562 ก่อนเกิดวิกฤตโควิด

 

4 เรื่องที่ภาคธุรกิจต้องให้ความสำคัญปี 2566

     นอกจากประเด็นด้านเศรษฐกิจมหภาค ที่มีความผันผวนและไม่แน่นอนสูงแล้ว ภาคธุรกิจยังต้องเตรียมพร้อมปรับตัวให้ทันกระแสโลกที่แปรเปลี่ยนไป โดยให้ความสำคัญกับ 4 เรื่อง ได้แก่

     1. การเปลี่ยนผ่านสู่สังคมคาร์บอนต่ำ

     โดยเฉพาะด้านนโยบายใหม่ๆ อาทิ การเริ่มบังคับใช้มาตรการปรับคาร์บอนก่อนเข้าพรมแดน (CBAM) ของสหภาพยุโรป การกำหนดมาตรฐานการจัดกลุ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และนโยบายของไทยที่มุ่งสู่เศรษฐกิจ BCG

     2. การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลเทคโนโลยีอย่างเต็มขั้น

     ซึ่งทำให้การแข่งขันโดยใช้เทคโนโลยีเป็นแกนหลักจะมีความรุนแรงมากขึ้น ขณะที่ต้องบริหารความเสี่ยงด้าน Cyber security อย่างรัดกุม

     3. การเปลี่ยนผ่านสู่ตลาดแรงงานที่ต้องมีการ Up & Re-skill อย่างเข้มข้น      ให้ตอบโจทย์โลกยุคใหม่ ตลอดจนการปรับแผนทรัพยากรบุคคลเพื่อรองรับสังคมสูงวัย

     4. การเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืนในทุกมิติของการดำเนินธุรกิจ

     ซึ่งหมายถึงการยึดหลัก ESG สอดคล้องกับแนวโน้มที่ลูกค้าและนักลงทุนต่างให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากยิ่งขึ้น

     SMEs ควรพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อลดต้นทุน เปิดโอกาสขยายตลาดออนไลน์ และหาพันธมิตรกับธุรกิจขนาดใหญ่เพื่อเกาะกลุ่มลูกค้าที่เติบโตได้ดี ส่วนประชาชนทั่วไป มีความไม่แน่นอนทางรายได้ มีผลต่อความเชื่อมั่น คนลดการใช้จ่ายสินค้าไม่จำเป็น โดยเฉพาะช่วงดอกเบี้ยขาขึ้นส่งผลต่อต้นทุนการกู้ยืมเงิน แต่หากคนกู้อยู่ในกลุ่มที่เศรษฐกิจเติบโตได้ในปีหน้า สามารถกู้ลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ทำเลที่ดีได้ เพราะราคายังไม่ปรับขึ้นมาก ส่วนการกู้ซื้อรถยนต์อาจมองหารถยนต์มือสองสภาพดีราคาถูก เป็นทางเลือกที่ดีในภาวะที่มีความไม่แน่นอนสูง

Ref : https://thestandard.co/thai-gdp-3/

https://www.infoquest.co.th/2022/206422

https://thestandard.co/thailand-economy-2566/

https://thestandard.co/thai-gdp-2566-forecast/

https://www.nationtv.tv/news/economy-business/378890533

https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/62824

https://www.matichonweekly.com/column/article_635739

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

 

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

เกือบหลับ แต่กลับมาเป็นธุรกิจร้อยล้าน Plantae - La Glace 2 แบรนด์รุ่นใหม่ใจถึงทำถึง

Plantae และ La Glace สองแบรนด์รุ่นใหม่คือ ตัวอย่างของผู้ที่ไม่ยอมแพ้ ทั้งคู่ต่ายเคยตกอยู่ในวิกฤต แต่ด้วยแพชชันและการปรับตัวที่รวดเร็ว พวกเขากลับมาสร้างรายได้ระดับร้อยล้านได้สำเร็จ

อย่างอาร์ต! MAMAD แบรนด์แฟชั่น X ศิลปะ วาดลวดลายสไตล์ Semi Abstract สร้างความแปลก ออกแบบ “ศิลปะที่สวมใส่ได้”

“Me As My Art Daily” ศิลปะคือส่วนหนึ่งของตัวตนเราในทุกวัน คือนิยามของแบรนด์แฟชั่นสุดอาร์ตอย่าง MAMAD ที่นำเอาศิลปะและแฟชั่นมาผสานกัน กลายเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า และหมวกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ความแปลกตา และสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร

เค้กหรือมายากล!? ไอเดียสุดแหวก! เมื่อ “ราเมน” กลายเป็นเค้ก

Bob The Baker Boy ร้านเค้กในสิงคโปร์ทำให้คำว่า “เค้ก” เปลี่ยนไปตลอดกาล จาก "หน้าตา" เค้กที่แทบทุกคนเห็นแล้วต้องหยิบมือถือขึ้นมาถ่าย! ไอเดียแบบนี้เกิดจากความตั้งใจของเมย์ ฟง เจ้าของร้านสุดครีเอทีฟ