TEXT : กองบรรณาธิการ
Main Idea
- “14 เมษายน วันครอบครัว” ของทุกปี หยุดสงกรานต์นี้หากใครไม่ได้ไปไหน จะชวนมาอยู่บ้านดู 5 หนังครอบครัวฟีลกู้ด ดูแล้วดีต่อใจ ทั้งสนุก ฮา ปนเรียกน้ำตานิดๆ แต่ก็ได้แง่คิดดีๆ กลับไปกัน
เพราะครอบครัว คือ สถาบันเล็กๆ ที่เป็นรากฐานสำคัญของทุกอย่าง ไม่ว่าสังคมเพื่อนฝูง สังคมที่ทำงาน ชุมชนที่อยู่อาศัย ไปจนถึงระดับประเทศ หากครอบครัวดี ก็จะผลิตบุคลากรที่ดีออกสู่สังคมต่างๆ วันนี้เลยจะชวนมาดู 5 หนังครอบครัวที่รับรองว่าคุณจะต้องยิ้มตามอย่างแน่นอน
Little Miss Sunshine
เรื่องแรกขอยกให้กับหนังครอบครัวในตำนานอย่าง “Little Miss Sunshine” ที่เริ่มต้นฉายตั้งแต่ปี 2006 เป็นเรื่องราวของครอบครัวใหญ่ประกอบด้วย พ่อแม่ ลูก ลุง ปู่ ซึ่งแต่ละคนต่างมีปมความขี้แพ้ในตัวเอง แต่แล้วเรื่องราวทั้งหมดก็เริ่มต้นขึ้น เมื่อ “โอลีฟ” สมาชิกที่เล็กที่สุดในบ้านมีความใฝ่ฝันอยากประกวดนางงามในเวที Miss Sunshine จนทำให้ทุกคนต้องออกเดินทางร่วมกัน เพื่อไปส่งเธอเข้าประกวดให้ทัน ด้วยรถตู้โฟล์คเก่าสีเหลือง เรื่องราวระหว่างทางทำให้ทุกคนได้ใช้ชีวิตร่วมกัน มีการปรับความเข้าใจกัน เปิดเผยถึงปมในใจความเป็นคนขี้แพ้ และให้กำลังใจกัน แม้สุดท้ายโอลีฟจะชนะหรือไม่ก็ตาม แต่สิ่งที่พวกเขาได้กลับคืนมาก็คือ ความรัก ความอบอุ่นของสมาชิกทุกคนในครอบครัวที่มีต่อกันนั่นเอง
Wonder
เป็นเรื่องราวของเด็กชายวัย 10 ขวบคนหนึ่งที่ชื่อว่า “ออกัสต์ พูลล์แมน” หรือ “ออร์กี้” ซึ่งเกิดมามีความผิดปกติของใบหน้า ทำให้ต้องสวมหมวกนักบินอวกาศอยู่ตลอดเวลาเพื่อปิดบังเอาไว้ แต่เรื่องราวของเขากลับกลายเป็นตัวอย่าง และแรงบันดาลใจที่ดีให้กับหลายคน ตั้งแต่เพื่อนรุ่นเดียวกัน พี่สาววัยรุ่น ไปจนถึงพ่อแม่และอีกหลายๆ คนที่ได้รู้จักเขา เรื่องเกิดขึ้นเมื่อวันหนึ่งออร์กี้ต้องไปโรงเรียนเป็นครั้งแรก ซึ่งนี่ไม่ใช่แค่จุดเริ่มต้นของเขาที่ต้องใช้ความกล้าในการปรับตัวเข้ากับสังคมภายนอก สายตาของผู้คนที่มองเข้ามา หรือการอดทนอดกลั่นจากถูกเพื่อนแกล้งและล้ออยู่บ่อยๆ แต่กลับทำให้ทุกคนในครอบครัวต้องต่อสู้พร้อมกันไปด้วย เพื่อยืนเคียงข้างเขา สิ่งที่ได้ไม่ใช่แค่ให้ออร์กี้กล้าออกมาเผชิญโลกภายนอก และใช้ชีวิตได้ปกติร่วมกับเด็กคนอื่นๆ แต่ทุกคนต่างได้เห็นหัวใจที่แข็งแกร่งของออร์กี้กลับมาเป็นแรงบันดาลใจให้ตัวเองอีกต่างหาก
The Mitchells vs. the Machines
เป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องราวของครอบครัวสุดอลเวงที่ชื่อว่า “มิตเชลล์” เรื่องราวสุดป่วนเกิดขึ้นเมื่อ “เคที่” ลูกสาวของบ้านต้องไปเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยด้านภาพยนตร์ แต่คุณพ่อกลับไม่เปิดใจยอมรับ จนเกิดการทะเลาะกันอย่างหนัก แต่ในที่สุดก็ยอมจัดโร้ดทริปไปส่งลูกสาวที่มหาวิทยาลัย ด้วยระยะทางที่ยาวไกลทำให้ต้องพบเจอกับเรื่องราวมากมายระหว่างทาง ซึ่งดันมาเจอกับกองทัพหุ่นยนต์ที่จะมายึดครองโลกอีกต่างหาก ทำให้สุดท้ายพวกเขาต้องรวมใจเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในการต่อสู้ และผ่านอุปสรรคนี้ไปร่วมกันให้ได้ แม้จะเป็นแอนิเมชั่น แต่ฟีลของหนังกลับมีกลิ่นอายคล้ายกับ Little Miss Sunshine ในภาคการ์ตูนอย่างไรอย่างนั้นเลยทีเดียว ที่เกิดจากเรื่องราวป่วนๆ แต่สุดท้ายก็กลับมารักใคร่กลมเกลียวสามัคคีกัน แต่หนังดูง่าย ดูสนุก เด็กๆ น่าจะชอบ แถมได้ซึมซับแง่คิดดีๆ ด้วย
Gifted
เป็นหนังแนวดราม่านิดๆ แต่เนื้อหาจะทำให้คุณอบอุ่นหัวใจ ซึ่งเป็นเรื่องราวของเด็กผู้หญิงวัย 7 ขวบคนหนึ่งชื่อว่า “แมรี่” เธอเป็นเด็กอัจฉริยะที่มีความสามารถพิเศษด้านคณิตศาสตร์ สามารถแก้โจทย์ยากๆ ที่แม้แต่ผู้ใหญ่บางคนก็ทำไม่ได้ โดยพ่อแม่ของเธอนั้นได้เสียชีวิตลงตั้งแต่เธอเด็กๆ ทำให้ต้องอยู่ในการดูแลของน้าชายที่ชื่อ “แฟรงค์” จากคำสั่งเสียของแม่เธอที่ให้ไว้กับน้า คือ อยากให้เธอใช้ชีวิตเหมือนกับเด็กธรรมดาคนหนึ่ง ทำให้เกิดเป็นเรื่องราวการต่อสู้ของน้าชายจากสังคมรอบข้าง เพื่อให้หลานสาวของเขาได้ใช้ชีวิตปกติอย่างเด็กคนหนึ่ง แทนที่จะเป็นเด็กอัจฉริยะเหมือนอย่างที่หลายคนคาดหวัง จนเกิดถึงขั้นต้องแย่งชิงตัวขึ้นโรงขึ้นศาลกันเลยทีเดียว หนังได้ฉายให้เห็นว่าแม้จะไม่ใช่ความสัมพันธ์แบบพ่อแม่ ลูก แต่การเป็นครอบครัวก็เกิดขึ้นได้เสมอกับทุกคนที่รักและหวังดีต่อกัน
Yes Day
เป็นหนังเบาๆ ดูสนุก แต่ให้แง่คิดที่ดี โดยได้แรงบันดาลใจมาจากการที่พ่อแม่ส่วนใหญ่มักห้ามไม่ให้ลูกๆ ทำอะไรๆ อยู่เสมอ หนังจึงสร้างพ็อตเรื่องขึ้นมาโดยมีฉากเป็นโรงเรียนเด็กเล็กแห่งหนึ่งที่ครูให้โจทย์ผู้ปกครองกลับไปว่าจะมี 1 วัน 24 ชั่วโมงให้เป็นวัน “Yes Day” ของเด็กๆ ที่ไม่ว่าเด็กๆ ขออะไร อยากทำอะไร พ่อแม่ต้องห้ามปฏิเสธ เพื่อสานสัมพันธ์ความเข้าใจในครอบครัวให้เกิดขึ้น ซึ่งระหว่างวันมีเหตุการณ์ให้พ่อแม่ต้องคอยลุ้นอยู่บ่อยๆ เรื่องราวจะป่วน ฮา หรือชวนปวดหัวแค่ไหน วันหยุดนี้ลองหามาดูกันได้เลย
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
