ล้มก็แค่ลุก! ร้านอาหารของสาว ป.โท ที่ใช้บทเรียนความเฟลธุรกิจเก่ามาสร้างธุรกิจใหม่

Text : Ratchanee P.


     อย่างที่รู้กันดีว่าการทำธุรกิจไม่ใช่เรื่องง่าย หลายคนเจอความล้มเหลว เจ๊ง ไม่เป็นไปตามที่คาดหมาย จนเข็ดขยาดกับการทำธุรกิจไปเลย แอมมี่-ไอลดา ฟอลเล็ต ก็เช่นเดียวกัน เมื่อตัดสินใจเดินออกจาก comfort zone มนุษย์เงินเดือน เพื่อมาเริ่มต้นธุรกิจของตัว ก็ต้องเจอกับการปิดกิจการไปถึง 2 ธุรกิจ แต่เธอก็ไม่เคยท้อถอย เพราะเธอบอกว่า “ไม่ได้สำคัญที่เราจะล้มบ่อยแค่ไหน สำคัญที่ว่าจะทำยังไงให้ลุกขึ้นมาแล้วก็สู้ใหม่ได้อีก ต่อให้ล้มอีกก็ล้มท่าใหม่ได้ ล้มให้มันเจ็บน้อยลง”

     ไอลดาเดินหน้าเอาบทเรียนที่ได้มาปั้นธุรกิจใหม่ กับร้านปิ้งย่างเกาหลี Sometime On A Sunday Korean BBQ  ที่เปิดในช่วงเย็น  ร้านล้ำรสก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นยักษ์ และร้านระกาข้าวมันไก่สิงคโปร์ ที่เปิดในช่วงเวลากลางวัน ในพื้นที่เดียวกัน เพื่อหวังใช้ประโยชน์จากพื้นที่ให้คุ้มค่าที่สุด

ถอดบทเรียนเพื่อเริ่มต้นใหม่

     ไอลดา ทำคอนเทนต์บน TikTok จนเป็นไวรัล ว่า

     “จบปริญญาตรีเกียรตินิยมอันดับ 1 จบปริญญาโท เกรด 3.96 ค้นพบว่าขายก๋วยเตี๋ยวมีความสุขดี”

     “ความสำเร็จไม่ได้มีแค่เส้นทางเดียว คนเราต่างมีความฝัน ความถนัด และความสุขที่แตกต่างกัน สิ่งสำคัญคือการได้ทำในสิ่งที่รักและทำมันอย่างเต็มที่”

     สิ่งนี้พอจะฉายภาพตัวตนของเธอได้เป็นอย่างดี โดยไอลดาเล่าว่าได้ตัดสินใจลาออกจากงานประจำที่กรุงเทพ เพื่อมาทำธุรกิจของตัวเอง ในตอนที่อายุ 26 ปี โดยธุรกิจแรกที่ทำคือร้านคาเฟ่ขนมหวานบิงซู ที่โคราช ซึ่งในเวลานั้นถือเป็นร้านแรกๆ ของจังหวัด จึงเป็นที่นิยมของลูกค้าและขายดี แต่แล้วก็มาถึงจุดที่ไปต่อไม่ได้ จนต้องปิดกิจการไป

     “เราอยากลองทำอะไรใหม่ๆ เป็นคนที่ชอบความท้าทาย ช่วงแรกของการเข้าสู่ธุรกิจ ก็ลองผิดลองถูกมาเยอะ ตอนนั้นบิงซูกำลังมา ช่วงแรกเลย success แล้วก็ค่อยๆ ดรอปลง เพราะโคราชเปิด 3 ห้างที่รีโนเวทใหม่พร้อมกัน อีกอย่างเราเลือกโลเคชั่นไม่เก่ง เลือกโลเคชั่นที่อยู่ไกลเพราะอยากได้ค่าเช่าที่ราคาไม่สูง กลัวไม่ไหว ก็เป็นธุรกิจแรกที่สุดท้ายไปต่อไม่ได้”

     ถัดจากนั้น ไอลดาก็ตัดสินใจย้ายมาอยู่ขอนแก่นและเปิดร้านอาหารเกาหลี โดยเปิดได้ประมาณ 5 ปี ก่อนที่จะปิดตัวลง เพราะเมื่อขยับขยายธุรกิจมากขึ้น แต่ไม่ลงไปดูแลอย่างใกล้ชิด ก็ทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมามากมาย

     “มันเริ่มขาดทุนและเรารู้สึกว่าไม่ไหวก็ต้องปิด พอมันขยายๆ ไป คิดว่ามันลงตัวแล้ว ไว้ใจก็ปล่อย แต่จริงๆ พอเราไม่ได้อยู่ร้านตลอด ไม่ได้ดูแลใกล้ชิด ก็เจอปัญหาสะสม เช่น เด็กเช็กสต๊อกไม่ดี สต๊อกเหลือเยอะเกินไป เราใช้เงินซื้อสต๊อกใหม่เข้ามาเรื่อยๆ ทั้งที่ของก็ยังมีอยู่”

     ไอลดา เล่าต่อว่าจากประสบการณ์การทำธุรกิจที่เจอทั้ง 2 ร้าน ทำให้เธอได้บทเรียนการทำธุรกิจมามากมาย ตั้งแต่เรื่องการเลือกโลเคชั่น การตรวจสอบ การเช็คฟีดแบ็คลูกค้า หรือแม้แต่การศึกษาคู่แข่ง เพื่อการปรับตัว และพัฒนาตัวเอง  

     “เป็นปกติที่เรารู้สึกท้อ แต่ก็เรียกสติกลับมา เพราะว่าช่วงท้อเราอาจจะยังไม่มีสติ ทำให้เรารู้สึกแย่กับตัวเอง รู้สึกว่าทำพลาดอีกแล้ว แต่สุดท้ายเราก็ต้องดึงสติตัวเองกลับมาอยู่กับปัจจุบัน เพราะถ้าท้อจะไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้เลย เราก็เลยรู้สึกว่าต้องมีสติก่อนจะได้มีปัญญาในการแก้ปัญหา การทำธุรกิจเราก็เต็มที่กับมันอยู่แล้ว แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ไปต่อไม่ไหวจริงๆ ก็ต้องยอมตัดใจแล้วก็เริ่มใหม่เรียนรู้ว่าที่มันไปไม่รอดนั้นเกิดจากสาเหตุอะไร แล้วเก็บมาเรียนรู้ในรอบใหม่ดีกว่า”

     เพราะเหตุนี้ทำให้ในไม่ช้าธุรกิจที่ 3 ซึ่งเป็นร้านปิ้งย่างเกาหลีชื่อ Sometime On A Sunday Korean BBQ ก็เปิดขึ้นในเวลาต่อมา แต่คราวนี้เธอคิดใช้พื้นที่ให้คุ้มค่า คือร้าน Sometime On A Sunday Korean BBQ เปิดบริการในตอนเย็น ส่วนตอนกลางวันเอาพื้นที่โซนเอาท์ดอร์นั้นมาขายก๋วยเตี๋ยวและข้าวมันไก่ เพื่อเป็นรายได้เสริมอีกทางหนึ่ง

1 พื้นที่ 3 ร้านอาหาร

     ไอลดา เล่าว่าปิ้งย่างเกาหลี Sometime On A Sunday Korean BBQ นั้นเกิดจากการที่ชอบดูซีรีย์เกาหลี ประกอบการในช่วงเวลานั้น จังหวัดขอนแก่นยังไม่มีร้านสไตล์นี้ จึงมองเห็นโอกาส และได้ศึกษาหาวิธีทำ แต่เนื่องจากร้านนี้จะมีพื้นที่ 2 โซนคือโซนห้องแอร์กับโซนเอาท์ดอร์ และเปิดบริการช่วงเย็น จึงคิดว่าในเวลากลางวันน่าทำอะไรขายเพื่อเป็นรายได้อีกทาง  

     “ก๋วยเตี๋ยวกับข้าวมันไก่เพิ่งเปิดมาแล้วประมาณปีหนึ่ง โดยร้านถือว่าดีเพราะว่าเราเปิดเดลิเวอรี่ด้วย จริงๆ เราใช้เวลาเปิดร้านแค่ 4 ชั่วโมง แต่ขายได้วันละหมื่นกว่าบาทก็พอใจแล้ว ร้านข้าวมันไก่ เรามีจุดเด่นที่เป็นข้าวมันไก่คอลลาเจน ส่วนก๋วยเตี๋ยวก็เป็นลูกชิ้นยักษ์”

     นอกจากนี้ ไอลดายังทำคอนเทนต์ เพื่อโปรโมทร้านผ่าน TikTok จนมีคลิปที่ไวรัลด้วย ในช่องแอมมี่เจ้าของร้านประสาทแดก โดยเธอคนที่ชอบพูดคุยอยู่แล้ว และการทำร้านอาหารนั้นจริงๆ มีความวุ่นวายมาก เลยมีคอนเทนต์วิ่งเข้าหาในแต่ละวันเยอะมาก เช่น เรื่องพนักงาน ลูกค้า ซัพพลายเออร์  

     “แต่ก่อนเราเคยคิดว่าการที่เราทำธุรกิจเยอะขึ้น เรามีเงินเยอะขึ้น ความสุขมากขึ้น แต่พอจริงๆ แล้วมันไม่ใช่เลย  ตอนนี้เรารู้สึกว่ามีความสุขกับการทำงาน ตื่นมาก็ยังรู้สึกว่าโอเคไปดูร้าน ออกไปขายก๋วยเตี๋ยวเอง ลูกค้าส่วนใหญ่เขาก็อยากคุยกับเจ้าของ แล้วความสุขของการทำร้านอาหารมันก็แค่การมีคนบอกว่าอาหารอร่อยแล้วก็ชื่นชมกับอาหารของเรา”  

     ไอลดา ได้ปิดท้ายด้วยการให้กำลังใจสำหรับผู้ประกอบการที่กำลังเจอปัญหาและรู้สึกท้อถอยไว้ว่า  

     “ต่อให้มีช่วงเวลาที่ท้อแต่มันก็ผ่านไป เพราะว่าเรื่องราวความทุกข์ในชีวิตของคนไม่ได้เกิดกับเราแค่คนเดียวมันเกิดขึ้นกับทุกๆ คน ต่อให้วันนี้ทำพลาดต่อให้เราล้มลงไป มันไม่ได้สำคัญว่าเราจะล้มบ่อยแค่ไหนหรือล้มเจ็บแค่ไหน แต่สำคัญที่ว่าเราจะทำยังไงให้เราลุกขึ้นมาแล้วก็สู้ใหม่ได้อีก ต่อให้ล้มอีกก็ล้มท่าใหม่ได้ จะได้ล้มให้มันเจ็บน้อยลง ต่อให้วันนี้เราประสบความสำเร็จ รอบหน้าเราอาจจะมีเรื่องผิดพลาดก็ต้องเรียนรู้อยู่ดีเป็นปกติของชีวิต อย่าไปโทษว่าทำไมฉันซวยทำไมฉันไม่เก่ง เพราะจริงๆ แล้วมันไม่ใช่เลย เราต้องมีสติดึงตัวเองกลับมาปัจจุบันแล้วก็แก้ปัญหาให้ดีแค่นั้นเอง”

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

เกือบหลับ แต่กลับมาเป็นธุรกิจร้อยล้าน Plantae - La Glace 2 แบรนด์รุ่นใหม่ใจถึงทำถึง

Plantae และ La Glace สองแบรนด์รุ่นใหม่คือ ตัวอย่างของผู้ที่ไม่ยอมแพ้ ทั้งคู่ต่ายเคยตกอยู่ในวิกฤต แต่ด้วยแพชชันและการปรับตัวที่รวดเร็ว พวกเขากลับมาสร้างรายได้ระดับร้อยล้านได้สำเร็จ

อย่างอาร์ต! MAMAD แบรนด์แฟชั่น X ศิลปะ วาดลวดลายสไตล์ Semi Abstract สร้างความแปลก ออกแบบ “ศิลปะที่สวมใส่ได้”

“Me As My Art Daily” ศิลปะคือส่วนหนึ่งของตัวตนเราในทุกวัน คือนิยามของแบรนด์แฟชั่นสุดอาร์ตอย่าง MAMAD ที่นำเอาศิลปะและแฟชั่นมาผสานกัน กลายเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า และหมวกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ความแปลกตา และสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร

เค้กหรือมายากล!? ไอเดียสุดแหวก! เมื่อ “ราเมน” กลายเป็นเค้ก

Bob The Baker Boy ร้านเค้กในสิงคโปร์ทำให้คำว่า “เค้ก” เปลี่ยนไปตลอดกาล จาก "หน้าตา" เค้กที่แทบทุกคนเห็นแล้วต้องหยิบมือถือขึ้นมาถ่าย! ไอเดียแบบนี้เกิดจากความตั้งใจของเมย์ ฟง เจ้าของร้านสุดครีเอทีฟ