นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยในโอกาสเดินทางไปเยือนประเทศญี่ปุ่นเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ได้มีการประชุมหารือร่วมกับผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ สำนักงานที่ปรึกษาการพาณิชย์ สำนักงานที่ปรึกษาด้านอุตสาหกรรม ประจำกรุงโตเกียว และบีโอไอ ณ โรงแรมอิมพีเรียล กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เพื่อรับทราบสถานการณ์การเกษตรไทย-ญี่ปุ่น โดยเฉพาะเรื่องสินค้าเกษตร และอุตสาหกรรมยางพาราในญี่ปุ่น
นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงการค้าและการลงทุนของเมียนมาร์ หลังปี 2015 ว่า จากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 อย่างเต็มรูปแบบ เศรษฐกิจของเมียนมาร์จะขยายตัวได้ร้อยละ 7.6 จากการนำเข้าสินค้าเพื่อการลงทุนแบบก้าวกระโดด และส่วนใหญ่จะเป็นการนำเข้าจากประเทศจีน ในขณะที่การค้าระหว่างไทยกับเมียนมาร์ ประเทศไทยยังคงเป็นฝ่ายขาดดุลการค้า เพราะส่วนใหญ่ ประเทศไทยจะมีการนำเข้าเชื้อเพลิงและพลังงานจากเมียนมาร์ ในขณะที่ สินค้าส่งออกของไทยจะเป็นสินค้าเกษตร อาหาร และเครื่องดื่ม แต่จากการเปิด AEC เชื่อว่าสินค้าส่งออกของไทยจะขยายตัวได้มากขึ้นเป็นร้อยละ 14 หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 5,100 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งจะทำให้การขาดดุลการค้าน้อยลง
นางเพ็ญทิพย์ พรจะเด็ด นายกสมาคมส่งเสริมผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (สสวท.) เปิดเผยว่า วันที่ 15 พ.ค.นี้จะเข้าพบนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานการทำงานในการออกมาตรการช่วยเหลือเอสเอ็มอี ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเสนอโครงการจัดตั้งกองทุนเพื่อให้การช่วยเหลือเอสเอ็มอีแบบถาวร วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท โดยจะผลักดันให้สำเร็จ
นางสาววิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ในวันที่ 8พฤษภาคมนี้ กรมฯจะเชิญผู้ประกอบการอาหารห้างโมเดิร์นเทรด ผู้ประกอบการค้าปลีก เจ้าของสถานที่ ขอความร่วมมือในการตรึงราคาอาหารสำเร็จรูปภายหลังจากราคาก๊าซหุงต้มได้มีการปรับราคาขึ้น นอกจากนี้ กรมฯจะขอความร่วมมือผู้ประกอบการห้างโมเดิร์นเทรดเพิ่มจุดจำหน่ายอาหารจานเดียวเพิ่มมากขึ้น เพื่อช่วยเหลือผู้ที่มีรายได้น้อย
EXIM BANK ช่วย SMEs ป้องกันความเสี่ยงครบวงจร ตั้งแต่วิเคราะห์ผู้ซื้อ และปิดความเสี่ยงทางการค้าระหว่างประเทศและการลงทุนในต่างประเทศด้วยบริการประกันการส่งออกระยะสั้น ประกันการส่งออกระยะกลางและระยะยาว และประกันความเสี่ยงการลงทุน พร้อมทั้งปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนด้วยบริการสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า ท่ามกลางภาวะความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ขณะที่โอกาสทางการตลาดเปิดกว้างในตลาดอาเซียน
นายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งออกทางเรือแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์เงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องจากต้นปี แต่มาในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมานับว่ามีความผันผวนมาก เพราะค่าเงินเคลื่อนไหวประมาณ 29 บาทต่อดอลาร์สหรัฐ นับว่าแข็งค่าถึงร้อยละ 6 และคาดว่าจะกระทบต่อการส่งออกในไตรมาส 2 และขณะนี้ผลกระทบบายปลายไปยังอุตสหากรรมขนาดใหญ่แล้ว จากเดิมผู้ประกอบการเอสเอ็มอีได้รับผลกระทบหนักมาก
กระทรวงอุตฯระบุไตรมาสแรกปี56 โรงงานปิดกิจการ 187 ราย เลิกจ้างงาน 1 หมื่นรายหลังต้นทุนปรับสูงขึ้น โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปิดตัวมากที่สุดคือ เครื่องนุ่งห่ม อิเล็กทรอนิกส์ เฟอร์นิเจอร์
แหล่งข่าวกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบหนี้เสีย (เอ็นพีแอล) ของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือเอสเอ็มอีแบงก์ ณ สิ้นปี 2555 ธนาคารมียอดเอ็นพีแอล สูงถึง 3.13 หมื่นล้านบาท และ BIS ที่ระดับ 3.28% พบสาเหตุที่ทำให้เอ็นพีแอล สูงจนทำให้ธนาคารเกิดปัญหาขาดสภาพคล่อง BIS ต่ำกว่ามาตรฐานธปท. กำหนดไว้ที่ 8.5% นั้น เกิดจากการธนาคารมีการปล่อยสินเชื่อจำนวนมากในปี 2552-2554 วงเงินสินเชื่อถึง 9 หมื่นล้านบาท และกลายเป็นเอ็นพีแอลประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการปล่อยสินเชื่อรายใหญ่ 100-200 ล้านบาทต่อราย ทั้งนี้ จากตรวจสอบลูกหนี้ 100 รายใหญ่ ที่ทำให้มีเอ็นพีแอล ถึง 1.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งขณะนี้ดำเนินการตรวจสอบเจอแล้ว 2-3 ราย วงเงินสินเชื่อต่อรายประมาณ 100 ล้านบาท นับว่าเป็น การปล่อยสินเชื่อผิดวัตถุประสงค์ของแบงก์ เนื่องจากปล่อยสินเชื่อรายใหญ่วงเงินเกิน 20 ล้านบาท และให้วางหลักทรัพย์ค้ำประกัน ที่เป็นสินทรัพย์เสื่อมมูลค่า ไม่ได้เป็นสัมปทานทางธุรกิจ เป็นต้น
สศอ.เผยผลสำรวจศึกษาเพื่อติดตามการปรับตัวของอุตสาหกรรม SMEs ภายใต้ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ วางแผนรองรับการปรับตัวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และปัจจัยที่จำเป็นต่อการปรับตัวของภาคอุตสาหกรรมที่เป็น SMEs ไทย โดยสำรวจปรับตัวในอุตสาหกรรมสำคัญ 15 กลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่ 1)อาหารและเครื่องดื่ม 2)สิ่งทอ และเครื่องนุ่งห่ม 3)ผลิตภัณฑ์เครื่องหนัง 4)ผลิตภัณฑ์ไม้ 5)ผลิตภัณฑ์กระดาษและสิ่งพิมพ์ 6)เคมีภัณฑ์ 7)ผลิตภัณฑ์พลาสติก 8)ผลิตภัณฑ์ยาง 9)ซีเมนต์ คอนกรีต 10)เซรามิค 11)แก้ว 12)อัญมณีและเครื่องประดับ 13)ผลิตภัณฑ์เหล็ก และโลหะ 14)ยานยนต์และชิ้นส่วน 15)เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์