เทคนิคสร้างเรื่อง แบบธุรกิจได้ยอดขาย ลูกค้าไม่เมินหนี

Text : กองบรรณาธิการ



 
     ยุคนี้ การสร้าง Story ให้กับผลิตภัณฑ์หรือบริการ เป็นเรื่องที่เราไม่ควรมองข้ามเป็นอย่างยิ่ง ขนาดตอนเราสมัครงาน เรายังต้องบอกเลยว่าตัวเองจบจากไหน เกรดเฉลี่ยเท่าไหร่ มีความสามารถพิเศษอะไรบ้าง เพื่อสร้างความแตกต่างและโดดเด่นให้เหนือกว่าคู่แข่งคนอื่นๆ

     
     เรื่องการทำธุรกิจเองก็ไม่ต่างกัน เพราะถ้าเราสร้าง Story เพื่อฉีกตัวเองให้นำหน้าคู่แข่งไม่ได้ “ลูกค้า” ย่อมเกิดความรู้สึกว่า “ก็เหมือนๆ กัน” จะซื้อของใครก็ได้ สุดท้ายแบรนด์จึงต้องลงมาแข่งขันกันที่ราคา เพราะฉะนั้น เพื่อให้แบรนด์ของเราโดดเด่น มีความแตกต่างที่น่าสนใจ และไม่ต้องลงมาต่อสู้ในสงครามราคา ลองมาดูแนวทางและวิธีการสร้างเร่ื่อง (Story) ที่เรียบง่ายแต่เฉียบขาดกันเถอะ

 
1. เชื่อมโยงเรื่องราวกับสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายต้องการได้ยิน

     ยกตัวอย่างเช่น ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับอาหาร ถ้าเราบอกว่าอร่อยที่สุด นั่นเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็สามารถพูดได้ แต่ถ้าเราสร้างเรื่องราว ที่บ่งบอกถึงความปลอดภัย ความสะอาด พนักงานใส่ถุงมือกับผ้าปิดปาก และมาตรฐานการผลิตที่ดีอย่าง GMP เพราะอาหารที่รับประทาน หากไม่สะอาด จะมีใครอยากซื้อไปชิมหรือซื้อไปฝากคนอื่นละ ถูกไหม เรื่องราวในหัวข้อนี้ จะช่วยทำให้ลูกค้าเห็นภาพความตั้งใจ และความใส่ใจของเราได้อย่างชัดเจน 

 
2. สร้างเรื่องราว เพื่อสร้างความแตกต่าง
 
     ยังคงอยู่ที่ตัวอย่างเดิมกับผลิตภัณฑ์อาหาร กล่าวคือ เราควรเพิ่มความชำนาญหรือความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ลงไปให้มีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น เช่น เป็นเจ้าแรกของจังหวัด หรือ เปิดมาแล้วกว่า 50 ปี หรือถ้าจะให้ดูอินเตอร์หน่อยก็ใช้คำว่า Since 19xx หรือหากเป็นผลิตภัณฑ์ผลไม้แปรรูป เราอาจสร้างเรื่องราวที่โดดเด่นตั้งแต่การคัดเลือกผลไม้ อย่างการปลูกด้วยตัวเองจากฟาร์มเกษตรอินทรีย์ รับซื้อผลผลิตจากฟาร์มที่ได้มาตรฐาน GAP เท่านั้น เพื่อสร้างความแตกต่าง และสร้างความรู้สึกในเชิงบวกให้กับกลุ่มเป้าหมาย

 
3. สร้างเรื่องราวที่เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับบุคคล

     บางทีเราไม่ได้ต้องการซื้อผลิตภัณฑ์หรือบริการเพียงเพราะว่าสินค้าเหล่านั้นดีเยี่ยมเพียงอย่างเดียว แต่ภาพลักษณ์และเรื่องราวของผู้นำธุรกิจก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เช่น อุดหนุนสินค้าเพราะเจ้าของธุรกิจมีความใจบุญสุนทาน เป็นต้น รวมถึงจากผลวิจัยของ Robert Cialdini นักจิตวิทยาที่ทำงานวิจัยเกี่ยวกับอิทธิพลทางสังคม พบว่า เรามีแนวโน้มที่จะชอบคนที่มีแนวความคิดคล้ายกับเรา ดังนั้น หากเราสามารถสร้างเรื่องราวของตัวเองให้น่าสนใจ มีความหลากหลาย ย่อมส่งผลให้เกิดความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับกลุ่มเป้าหมายได้ด้วย     

 
     การสร้างเรื่องราว (Story) สามารถเชื่อมโยงกลุ่มเป้าหมาย กับแบรนด์ให้มีความรู้สึกและความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นได้ ซึ่งสุดท้ายจะส่งผลเชิงบวกต่อยอดขายและภาพลักษณ์ให้กับธุรกิจของเราไปโดยปริยาย


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
 

RECCOMMEND: MARKETING

ใช้ “Baby Schema” สิ่งที่เรียกว่า “ความน่ารัก” ตกลูกค้า มัดใจคนให้อยู่หมัด!

รู้จัก “Baby Schema” จิตวิทยาบ่งบอกความคิ้วท์ ซึ่งมีลักษณะทางกายภาพที่จะกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกอมยิ้ม อยากหยิก อยากหยอกสิ่งที่เห็น

อวสานฟาสต์ฟู้ด! ทำยังไง? เมื่อร้านสะดวกซื้อเขยิบขึ้นมาเป็นคู่แข่ง ตอบโจทย์ผู้บริโภค ถูก ดี และสะดวก

ทำยังไง? เมื่อคุณกำลังทำธุรกิจร้านอาหาร แต่คู่แข่งของคุณวันนี้ ไม่ใช่แค่กลุ่มร้านอาหารด้วยกันเอง แต่เป็น C-Stores หรือร้านสะดวกซื้อที่อยู่ใกล้บ้าน ที่กำลังเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์และถูกใจผู้บริโภคยุคใหม่ ที่ทั้งถูก ดี และสะดวก

“Grandfluencer” อินฟลูวัยเก๋า เพราะเรายังมีไฟ วัยไหนก็พร้อมมันส์ ฮาสนั่นไปกับ “คุณยายวัลย์ & น้องบูรพา”

เมื่อ Grandfluencer ลูกผสมระหว่างคำว่า “Grandparent” กับ “Influencer” จนออกมาเป็น “อินฟลูวัยเก๋า” กำลังเป็นเทรนด์ล่ามาแรง เราจึงมี Trick สำหรับผู้ประกอบการสูงวัยที่ยังมีไฟและอยากขยับมาเป็น Grandfluencer มาฝากกัน