นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ภาคเอกชนต้องการให้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ช่วยดูแลอัตราแลกเปลี่ยนให้มีเสถียรภาพและไม่ผันผวนเร็วเกินไป เพราะแม้การที่เงินบาทได้อ่อนค่ามาอยู่ในระดับ 32 บาท/ดอลลาร์ จะส่งผลดีต่อภาคการส่งออกและทำให้ยอดการส่งออกเพิ่มขึ้นได้ก็ตาม

ก่อนที่ประเทศไทยและประเทศชิลีจะทำการลงนามความตกลงการค้าเสรี (FTA) อย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้ ซึ่งถือได้ว่าเป็นการทำ FTA ครั้งสำคัญ เพราะชิลีเองก็ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของประเทศไทย ที่เป็นทั้งฐานการผลิตและการค้าของอาเซียน รวมทั้งไทยเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของชิลีในบรรดาสมาชิกอาเซียน ซึ่งมีมูลค่าการค้าระหว่างกันประมาณ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และสำหรับประเทศไทยเองก็มองว่าประเทศชิลีเป็นประตูการค้าสำคัญของไทยในการขยายตลาดในภูมิภาคลาตินอเมริกา และคาดว่าจะสามารถส่งออกสินค้าต่างๆ ได้เพิ่มขึ้น เช่น ยานยนต์ ปลาแปรรูป (ปลากระป๋อง) พอลิเมอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้าง โดยเฉพาะปูนซีเมนต์ เม็ดพลาสติก ยางและผลิตภัณฑ์จากยาง อัญมณี และที่สำคัญ คือ การเปิดตลาดข้าว นอกจากนี้ ยังได้ประโยชน์ในการนำเข้าวัตถุดิบ เช่น ทองแดง สินแร่เหล็ก และเยื่อกระดาษอีกด้วย

นายศุภชัย พานิชภักดิ์ เลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (อังค์ถัด) เปิดเผยในงาน ไทยแลนด์ โฟกัส 2013 ว่า เศรษฐกิจไทยมีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ไม่เปราะบางอย่างที่กังวลไว้ แต่สิ่งจำเป็นในขณะนี้ คือรัฐบาลควรเร่งปรับปรุงพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท ให้แผนการต่าง ๆ มีความชัดเจน มากกว่ากังวลเรื่องเงินจะไหลออก เพราะปัจจัยพื้นฐานต่างๆ ของไทยถือว่าดีมาก และโครงการที่รัฐต้องทำอย่างจริงจัง อาทิ รถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูง ที่ควรมีตั้งนานแล้ว

นานมีบุ๊คส์, ธนาคารกสิกรไทย, มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และสถานเอกอัคราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย จัดสัมมนาหัวข้อ ถอดบทเรียนความสำเร็จของคนอิสราเอล จุดประกายคนไทยมุ่งมั่นสู่ความสำเร็จ ซึ่งเกิดจากการต่อยอดผ่านหนังสือ คิดอย่างไร ใหญ่อย่างอิสราเอล (Start-Up Nation) โดย ฯพณฯ ชีมอน โรเด็ด เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย กล่าวว่า “หนังสือเล่มนี้เล่าว่าเราคือใคร ซึ่งได้บรรยายภาพอันแท้จริงของอิสราเอลในทุกๆ ด้านนับตั้งแต่การสถาปนาประเทศมาจนถึงปัจจุบัน อนึ่งหนังสือเล่มนี้ไม่ใช่คู่มือที่จะนำความสำเร็จมาสู่ท่าน แต่ข้าพเจ้าใคร่ขอแนะนำให้เพื่อนชาวไทยเรียนรู้จากประสบการณ์ของเราแล้วนำมาปรับใช้ให้เข้ากับวัฒนธรรมไทยต่อไป”

เอสเอ็มอีแบงก์ เตรียมเงิน 3,000 ล้านบาท ปล่อยกู้สินเชื่อพิเศษ “Smile Factoring” ช่วยเสริมสภาพคล่องธุรกิจให้ผู้ประกอบการ เจาะฐานกลุ่มที่ทำงาน หรือค้าขายกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชนที่แปรรูปจากระบบราชการ และบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ คิดดอกเบี้ยพิเศษ และยกเว้นค่าธรรมเนียมลูกค้าเดิม และลดให้ 50% ลูกค้าใหม่ เปิดให้ยื่นกู้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ธันวาคม 2556

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช. พาณิชย์ เปิดเผยในงานสัมมนา “เสริมสร้างความเข้มแข็งธุรกิจ ค้าส่งค้าปลีกไทย” ณ ห้องสร้อยเพชร 2 โรงแรมโกลเด้น ซิตี้ จังหวัดระยอง ว่ากรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ดำเนินกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาธุรกิจค้าส่งค้าปลีกมาอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการสร้างความเข้มแข็งธุรกิจค้าส่งปลีกไทย จำนวน 5,449 ราย ซึ่งจะได้รับการส่งเสริมพัฒนาตามแนวทางที่กรมฯ กำหนด เพื่อพัฒนาร้านค้าให้มีความเข้มแข็ง พร้อมแข่งขันในตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี)

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับ ม.หอการค้าไทย จัดติวเข้มให้ผู้ประกอบการ SMEs รายคลัสเตอร์แทคทีมลุยเข้าตลาดอาเซียน กับกิจกรรมตั้งแต่ติวเข้มแบบอบรม เชิงปฏิบัติการ จับคู่ธุรกิจ ให้คำปรึกษาเชิงลึกรูปแบบพี่เลี้ยงธุรกิจ ภายใต้กิจกรรม DITP AEC Club หรือ “ชมรมนักธุรกิจไทยในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน” เพื่อสร้างเครือข่ายผู้ประกอบไทย SMEs เข้าสู่ตลาดประชาคมอาเซียนอย่างเป็นรูปธรรม

นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมฯ มีแผนที่จะจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าไทยในตลาดโบแลนด์ แทนซาเนีย ญี่ปุ่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และบาห์เรน โดยให้เอกชนเป็นผู้ดำเนินการ และภาครัฐเข้าไปให้การช่วยเหลือสนับสนุนด้านต่างๆ ให้เกิดความเชื่อมั่นในการซื้อขายสินค้าไทยผ่านศูนย์กระจายสินค้า เพื่อผลักดันยอดส่งออกให้กับสินค้าไทยให้หลากหลาย เนื่องจากในภาวะที่การส่งออกชะลอตัวรัฐบาลจำเป็นต้องมีกลยุทธ์และเทคนิคใหม่ๆ ในการหาช่องทางส่งออก

นายปณิธาน บำราศอรินทร์พ่าย ผู้ได้รับมอบหมายจากหอการค้าอิสตันบูล ประจำประเทศไทย และผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานจัดการประชุม บริษัท เอ็น.ซี.ซี.แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า ข้อมูลสถิติ เดือนมกราคม พ.ศ. 2556 ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่าผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนบริษัทจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศ จำนวน 8,184 ราย เพิ่มขึ้น 3,644 ราย คิดเป็น 80% เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม พ.ศ. 2555 แสดงว่าภาคธุรกิจตื่นตัวตอบสนองต่อภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น