นางเพ็ญทิพย์ พรจะเด็ด นายกสมาคมส่งเสริมผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย (ATSME) เปิดเผยว่า สำหรับแนวโน้มการเติบโตของ SMEs ในปี 2557 ขณะนี้ ยังไม่สามารถประเมินได้ ซึ่งเป็นผลจากสถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ส่งผลให้ขณะนี้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนไทยและต่างชาติชะลอลง โดยเฉพาะการลงทุนในกลุ่มประเภทอาหาร หรือสินค้าที่มีเงื่อนไขการกำหนดวันหมดอายุ รวมถึงสถาบันการเงินจะพิจารณาช่วยเหลือการลงทุนของผู้ประกอบการ SMEs ค่อนข้างยากขึ้น แต่ยังถือเป็นโอกาสดีของผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ ไม่ต้องพึ่งพาการกู้เงิน

สถาบันองค์ความรู้ด้านการค้าระหว่างประเทศ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กำหนดจัดโครงการสัมมนาเรื่อง “รู้เขา รู้เรา...การย้ายฐานการผลิตสินค้าแฟชั่นของไทยไปยังเมียนมาร์และเวียดนาม” ในวันอังคารที่ 28 มกราคม 2557 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ประกอบการได้ทราบข้อมูลการย้าย/ขยายฐานการผลิตสินค้าที่ยังขาดแคลนแรงงานหรือต้องใช้แรงงานคนเป็นจำนวนมากไปยังประเทศเพื่อนบ้าน รายละเอียด กำหนดการ และใบสมัครตามเอกสารแนบ

นายพรชัย รัตนตรัยภพ ประธานเครือข่ายผู้ประกอบการ SMEs ในประเทศไทย (DIP SMEs Network) กล่าวว่า จากปัญหาทางการเมืองที่เกิดอยู่ ณ ปัจจุบันส่งผลกระทบอย่างมากต่อกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs โดยเฉพาะSMEsที่อยู่ในเครือข่ายทั่วประเทศมียอดขายลดลงกว่า 30 - 50% เนื่องจากกลุ่มผู้ซื้อสินค้ามีความไม่มั่นใจในสถานภาพทางการเมืองจึงลดยอดการสั่งซื้อลงและเก็บเงินเพื่อใช้ในยามฉุกเฉิน ผนวกกับสภาวะทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 3 และ 4 ของประเทศมีการชะลอตัว

ส.ส.ท.- iSMED และ ATSME ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือสานต่อโครงการเชื่อมโยงและพัฒนาอุตสาหกรรมไทย-ญี่ปุ่น หรือ J-SMEs เพื่อประโยชน์ต่อภาคธุรกิจและผู้ประกอบการ รวมถึงเป็นศูนย์กลางในการส่งเสริมและสนับสนุนการลงทุนจากญี่ปุ่น

เผยผลสำรวจตลาดสื่อสารและฮาร์ดแวร์ไทยปีนี้หดตัว จากกำลังซื้อที่ลดลง คาดปีหน้าดีขึ้นจากการใช้งานสมาร์ทโฟนและกระแสทีวีดิจิทัล ชี้การชุมนุมทางการเมืองทำให้ยอดผู้ใช้งานข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตพุ่งสูง แต่หากยืดเยื้ออาจกระทบตลาดไอทีในภาพรวม

นางอรรชกา สีบุญเรือง อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กล่าวว่า จากเหตุการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2556 ซึ่งเป็นโค้งสุดท้ายของผู้ประกอบการในการดำเนินธุรกิจและเป็นช่วงไฮซีซั่น ซึ่งภาคการผลิตจะสามารถผลิตสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการของการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนทั่วไป โดยเชื่อว่าผู้ประกอบการโดยเฉพาะกลุ่ม SMEs จำนวนกว่า 2.646 ล้านรายทั่วประเทศ ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่หล่อเลี้ยงเศรษฐกิจของประเทศในทุกกลุ่มอุตสาหกรรมต่างได้รับผลกระทบอย่างมาก ทั้งในด้านยอดขายที่ลดน้อยลง ทำให้ต้องชะลอกำลังการผลิต จึงได้คิดนำเสนอกลยุทธ์การเพิ่มประสิทธิภาพในภาคอุตสาหกรรมให้สอดรับกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน โดยการช่วยเหลือผู้ประกอบการภาคการผลิตเพื่อลดความเสี่ยง

นายปฏิมา จีระแพทย์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจของอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ในปี 2556 ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว และขณะนี้อยู่ในช่วงขาขึ้น เห็นได้จากการขยายตัวของยอดการผลิตสินค้าต่างๆ เช่น รถยนต์นั่ง พาหนะเพื่อการพาณิชย์ ซีเมนต์ผสม ฯลฯ คาดว่าทั้งปีจะขยายตัว 3.3% ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศที่คาดว่าจะอยู่ที่ 3% ผลจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ เช่น ราคาพืชผลการเกษตรหลายประเภทตกต่ำ การส่งออกมีอัตราการขยายตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ต้นทุนด้านพลังงานสูงขึ้น สถานการณ์การชุมนุมทางการเมือง รวมทั้งเศรษฐกิจในประเทศคู่ค้าหลักที่ฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป

กรุงศรี เปิดตัวอีกกลยุทธ์มัดใจกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี ด้วย Loyalty Program กับโครงการ “ยิ่งใช้ ยิ่งได้คืน” โดยทุกๆ การใช้จ่ายวงเงินเบิกเกินบัญชี หรือโอดี ลูกค้าเอสเอ็มอีจะได้รับแต้มสะสมกรุงศรี Yellow Points ซึ่งสามารถนำมาแลกรับของรางวัลต่างๆ ได้ อาทิเช่น ทองคำ iPad mini บัตรเติมน้ำมัน หรือแลกกลับเป็นเงินสด โดยช่วงเปิดตัว 3 เดือน ยอดสินเชื่อเอสเอ็มอีเพิ่มขึ้น 3,300 ล้านบาท

นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) กนอ.มีนายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประธานเมื่อเร็วๆ นี้ มีการพิจารณาคัดเลือกโครงการที่เหมาะสมในการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมบริหารด้านโลจิสติกส์