ตั๊กบ้านโตน ร้านหมูกระทะต่างจังหวัด ที่คนแย่งกันจองคิวนานนับเดือน  ยอมขับรถไกลหลายชม. เพื่อไปกิน

Text : Surangrak Su.

Photo : Tak Baan Tone


     ถ้าพูดถึงร้านหมูกระทะที่กำลังเป็นไวรัลอยู่ในโซเชียล คนแห่จองคิวนานข้ามเดือน บางคนทำชาเลนจ์ยอมขับรถไกลหลายชั่วโมงข้ามจังหวัดเพื่อไปกิน คงเป็นร้านไหนไปไม่ได้ นอกจาก “ตั๊กบ้านโตน” (Tak Baan Tone) ร้านหมูกระทะเมืองอุทัยธานี ที่มีข่าวแว่วมาว่าตอนนี้ปิดรับจองคิวล่วงหน้า เพราะเต็มยาวไปถึงวันสิ้นปีแล้ว ใครอยากกินต้องวอคอินไปต่อคิวที่หน้าร้านแทน…ยั่วๆ บอกให้อยากรู้กันแบบนี้ ไปดูดีกว่า ว่ามีอะไรดี คนถึงแห่ไปกินกัน     

เปิดประสบการณ์ ‘หมูกระทะกากหมูเจียว’ เจ้าแรกในไทย

     ตั๊กบ้านโตน เกิดขึ้นจากแนวคิดของ ณัฐกิตติ์ พุทธยากูล หรือ “โตน” และแฟนสาวของเขา วรัญญา พจนาภรณ์ (ตาล) คู่รักนักชิมที่บังเอิญไปค้นพบรสชาติร้านหมูกระทะที่แปลกไม่เหมือนใคร จึงติดใจ และอยากนำมาถ่ายทอดต่อให้คนอื่นได้ลองกินเหมือนกันบ้าง

     “จริงๆ จุดเริ่มต้นมาจากเราสองคนได้ไปลองกินหมูกระทะที่ร้านของรุ่นพี่ ซึ่งมันแตกต่างจากที่อื่น ปกติร้านหมูกระทะส่วนใหญ่คนจะพูดกันว่าอร่อย ไม่อร่อย ให้ดูที่น้ำจิ้มก็พอ หมูมายังไงก็ได้ แต่สำหรับร้านนี้ไม่ใช่เลย ทุกอย่างรวมกันเป็นองค์ประกอบที่สมบูรณ์ ถึงจะออกมาอร่อย ตั้งแต่หมูหมัก, น้ำจิ้ม, น้ำซุป และยังมีกากหมู, คะน้า เราเลยอยากนำสูตรนี้มาต่อยอดให้เป็นที่รู้จักในแบบของเรา เพราะปกติทุกวันนี้พี่เขาก็ไม่ค่อยได้ขายอยู่แล้ว อายุเยอะแล้ว โดยเป็นสูตรที่ทำสืบทอดต่อกันมา 30 กว่าปี ตั้งแต่คุณแม่ของพี่เขาเลย

     “พี่เขาชื่อ ‘ตั๊ก’ เราไปขอสูตรเขามาทำต่อในบ้านเรา ก็เลยตั้งชื่อร้านว่า ‘ตั๊กบ้านโตน’ เอาชื่อพี่เขาขึ้นก่อน เพื่อเป็นการให้เกียรติ เวลามีคนเรียกชื่อร้าน ก็จะมีชื่อพี่เขาที่เป็นเจ้าของสูตรขึ้นก่อน ส่วนบ้านโตน ก็คือ บ้านของเราเอง” โตนเล่าแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจให้ฟัง

     โดยเล่าว่าถึงจะนำสูตรมาทำ แต่ก็มีการนำมาปรับวิธีการกินใหม่รูปแบบใหม่ให้มีกิมมิก เป็นแบบเฉพาะของตัวเองมากขึ้น เช่น เป็นหมูกระทะใส่กากหมูเจียวเหมือนกัน แต่สูตรเดิมอาจใส่ลงไปรวมกับน้ำซุปเลย แต่ตั๊กบ้านโตนจะใช้วิธีโรยไปบนกระทะก่อน เพื่อให้มีกลิ่นหอม ดูน่ากิน จึงค่อยไหลลงไปรวมกับน้ำซุปข้างล่าง เป็นต้น รวมไปถึงการคิดวิธีพรีเซ็นต์การกินที่ทำให้อร่อยมากยิ่งขึ้น

สร้างปรากฏการณ์คนต่อคิวรอกินหมูกระทะ

     โตนเล่าว่า ตั้งแต่เริ่มต้นเปิดร้านมา ด้วยความแปลกที่ไม่เหมือนใคร ทำให้มีคนถ่ายลงโซเชียล โดยเฉพาะ TikTok จนเกิดเป็นกระแสไวรัล คนวอคอินมารอต่อคิวแน่นหน้าร้านตลอด สำหรับการจองคิวล่วงหน้า ก็ยาวไปจนถึงสิ้นปี จนปิดรับไปแล้วสำหรับปีนี้

     “เราเพิ่งเปิดตัวได้แค่ 3 เดือน แต่กระแสตอบรับดีมาก ตอนแรกคิดแค่ว่าขอให้มีลูกค้าเต็มทุกโต๊ะ 17 โต๊ะก็พอ แต่มาวันนี้เกินคาดมาก เราเคยรับลูกค้าได้มากสุด 96 โต๊ะต่อวัน สำหรับจองคิวออนไลน์ล่วงหน้าที่เปิดแค่วันละรอบ ตอนนี้ก็เต็มไปถึงสิ้นปีแล้ว ต้องปิดรับไปก่อน ค่อยเปิดรับจองใหม่ปีหน้า หลายคนยอมเดินทางไกลเพื่อมากิน บางคนยอมจ่ายขับรถไกลหลายชั่วโมง, จ่ายค่าเครื่องบินหลายพันบาท เพื่อมากินหมูกระทะแค่ 500 บาท ก็มี เช่น จากระนอง, อุบลราชธานี ไปจนถึงต่างประเทศบางคนจะมาไทยพอดี พอลงสนามบินปุ๊บ เช่ารถเพื่อมากินเลยก็มี หรือคนต่างชาติหลายคนรวมกลุ่มกันเพื่อมากินก็มี”

กลยุทธ์ตกลูกค้าตั้งแต่คำแรก จนคำสุดท้าย

     จากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น บอกได้เลยว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับตั๊กบ้านโตน ไม่ได้มาจากโชคช่วย หรือความฟลุก โตนเล่าว่าก่อนจะเปิดร้าน เขาใช้เวลาวางแผนสร้างร้าน, ระบบหลังบ้าน, ทดลองรสชาติและสูตร ไปจนถึงวิธีการพรีเซ็นต์กับลูกค้านานกว่า 2 ปีเลยทีเดียว โดยวางกิมมิกไว้หลายจุด ตั้งแต่ก้าวแรกที่ลูกค้าเดินเข้ามา จนถึงเดินออกไปจากร้าน

     1. ตัวกากหมู ที่ยังไม่มีหมูกระทะร้านไหน ใช้กากหมูมากินกับหมูกระทะ

     2. การเสิร์ฟ และการพรีเซ็นต์ เริ่มจากเมื่อลูกค้าเดินเข้ามานั่งในร้าน จะได้นั่งโต๊ะหมูกระทะกลมๆ มีธงเล็กๆ เขียนชื่อลูกค้า จากนั้นจะได้รับซองใส่ภาชนะ เช่น จาน, ชาม, ช้อน, ตะเกียบที่ติดโลโก้ร้านเอาไว้ ตัวชุดหมูกระทะก็จะพิเศษมีกากหมูมาให้เพิ่ม โดยใส่ไว้ในแก้วแชมป์เปญสแตนเลส เป็นกิมมิกสนุกๆ ให้ลูกค้าเปลี่ยนจากชนแก้วเหล้ามาเป็นชนแก้วกากหมูแทน โดยหลังจากตั้งกระทะแล้ว จะมีการราดกากหมูเจียวลงไปด้านบน เพื่อให้มีกลิ่นหอม และดูน่ากิน แถมแปลกใหม่ ทำให้ลูกค้าอยากถ่ายรูป

     3. “คำนี้ขึ้นสวรรค์” มีป้ายเล็กๆ เขียนพรีเซ็นต์วิธีการกินที่อร่อยเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ เริ่มจากคีบหมูที่ปิ้งเสร็จแล้ว ตามด้วยคะน้าลวก, กากหมูเจียว, ราดน้ำจิ้ม เสร็จแล้วบีบมะนาวตบท้าย จะช่วยให้การกินได้อรรถรสมากยิ่งขึ้น และแก้เลี่ยนได้ด้วย

     4. ปิดจบด้วยน้ำสัปปะรด หลังจากลูกค้าทานเสร็จแล้วจะมีการเสิร์ฟด้วยน้ำสัปปะรด เพื่อแก้เลี่ยน เพิ่มความสดชื่น เป็นการสร้างความประทับใจส่งท้ายก่อนกลับ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดี เกิดการบอกต่อ

     “เราอยากทำให้เป็นการเสิร์ฟหมูกระทะที่แปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร ให้ดูสนุกขึ้น เข้ากับคนรุ่นใหม่ เพราะตอนนี้โซเชียล ทุกคนมีมือถือ ทุกคนถ่ายรูป สุดท้ายเราแทบไม่ต้องทำการตลาดอะไรเลย เพราะทุกคนทำให้แล้ว เราแทบไม่เคยโพสต์รูปของเราลงในเพจเลย มีแต่แชร์มาจากลูกค้า เราคิดว่าสิ่งที่เขาได้ ไม่ใช่แค่การมากินหมูกระทะ แต่คือ ประสบการณ์ที่แปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร”

     อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญ ก็คือ การบริหารจัดการที่เป็นระบบ ได้มาตรฐาน รวมถึงการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว ยกตัวอย่างเช่น เมื่อลูกค้ามารอนาน ก็มีบริการน้ำแข็งไส, ไอศกรีม ให้กินฟรีระหว่างรอ

     “เราจะวางไว้เลยว่า พอลูกค้านั่งปุ๊บ การเสิร์ฟตั้งแต่น้ำจิ้ม จนถึงลงเตา ต้องห้ามเกิน 5-7 นาที หรือถ้าลูกค้ากดสั่งอาหารเพิ่ม 3 นาทีต้องมาแล้ว ถ้าเรียกเช็คบิลต้องเก็บโต๊ะให้เสร็จภายในกี่นาที เราจะกำหนดกับน้องพนักงานไว้เลย เพื่อให้คนรอคิวต่อๆ ไปรอไม่นาน แล้วเราจะได้เล่นรอบได้มากขึ้น ไปจนถึงการเตรียมวัตถุดิบ เราจะกำหนดสเปคไว้เลยว่าหมูต้องแบบนี้นะ ผักต้องหันแบบไหน ก้านคะน้าต้องปอกให้ขาวได้แบบนี้นะ”

     สำหรับราคาหมูกระทะของตั๊กบ้านโตน อยู่ที่ชุดละ 350 บาท นอกจากหมูกระทะก็มีอาหารอื่นเพิ่มเติม เช่น ส้มตำ, ยำ โดยร้านจะเปิดตั้งแต่ 17.30 – 22.00 น. การจองคิวมี 2 รูปแบบ คือ 1.เปิดให้จองล่วงหน้าแค่วันละรอบ คือ รอบแรก 17.30 น. 2.จากนั้นจะเป็นลูกค้าวอคอินให้มาลงชื่อต่อคิวที่หน้าร้าน ระหว่างรอสามารถไปเที่ยวเล่นในเมืองก่อน เมื่อใกล้เวลาทางร้านจะโทรตาม โดยตัวร้านจะตั้งอยู่ใกล้กับถนนคนเดินตรอกโรงยา ตัวเมืองอุทัยธานี

ทำอะไร ก็เป็นไวรัล

     รู้ไหมว่านอกจากความดังเปรี้ยงปร้างของตั๊กบ้านโตนแล้ว โตนและตาล ยังเป็นเจ้าของเดียวกันกับ TONE CAFÉ และ Boo Bun ร้านขนมปังเมืองอุทัยธานีที่เคยโด่งดังเป็นกระแสในโลกโซเชียล จนลูกค้าเรียกร้องให้ไปเปิดตามจังหวัดต่างๆ รวมถึงบรรทัดทองแหล่งกินเที่ยวสุดชิคของกรุงเทพฯ อีกด้วย

     “เราชอบสร้างแบรนด์ ชอบสนุกกับการทำแบรนด์ๆ หนึ่งให้คนมีความสุข เราให้ความสำคัญกับการสร้างสตอรี่ เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างแบรนด์กับลูกค้า เราพยายามคิดว่าจุดไหนทำแล้วจะโดนใจเขา อย่างบูบัน ก็ทำยังไงให้ขนมปังดูน่ากิน น่ารัก ทำยังไงให้คนสนใจเอาไปถ่ายรูปได้ เพราะเรารู้ว่าคนรุ่นใหม่ชอบถ่ายรูป พอเป็นอาหารคาวอาจจะยากกว่า แต่ก็ต้องพยายามหาวิธีพรีเซ็นต์ให้แตกต่าง แปลกใหม่ ทุกวันนี้ไม่ใช่แค่รสชาติอร่อยอย่างเดียวแล้วจะขายดี ต้องสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับเขาด้วย”

Soft Power จังหวัด แม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยว

     จากกระแสไวรัลที่เกิดขึ้น ไม่ได้ส่งผลแค่ธุรกิจเท่านั้นที่ประสบความสำเร็จ แต่ ตั๊กบ้านโตน รวมถึงธุรกิจอื่นๆ ของโตนยังช่วยดึงดูดผู้คนให้มาเที่ยวอุทัยธานีกันเยอะมากขึ้นด้วย

     “มีลูกค้าหลายคนเลยบอกกับเราว่า ที่เขารู้จักอุทัยฯ มาเที่ยวอุทัยฯ ก็เพราะตั๊กบ้านโตนเลย ผู้ประกอบการโรงแรม ร้านค้าต่างๆ ก็มาเล่าให้ฟังเหมือนกันว่า เขาได้ลูกค้ามาอุดหนุนจากที่มารอกินหมูกระทะร้านเราเยอะเลย ขอบคุณที่ช่วยดึงคนมาเที่ยวอุทัยฯ เยอะขึ้น ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นความตั้งใจของเราเลยที่เลือกเปิดธุรกิจที่บ้านเกิดก่อน  ก็เพราะอยากทำให้เศรษฐกิจที่บ้านดีขึ้นด้วย ตอนนี้ใกล้ๆ ร้านก็เริ่มมีบริการให้เช่าจักรยาน เพื่อปั่นเที่ยวชมเมืองระหว่างรอกินหมูกระทะ..รู้สึกภูมิใจครับ ใจฟูเลย” โตนกล่าวทิ้งท้ายเอาไว้

     ข้อมูลติดต่อ

    https://www.facebook.com/TakBaanTone

     โทร. 083 878 1189

 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

Taitier สบู่สาย Realistic ฝีมือคนไทย เหมือนจนตั้งราคาได้กว่า 5,000 บาทต่อก้อน!!   

ถ้าจะบอกว่า ผลไม้ที่เห็นตรงหน้านี้คือสบู่ คุณจะเชื่อมั้ย? นี่คือฝีมือของแบรนด์ไทยนามว่า Taitier ที่ผสานศิลปะและของใกล้ตัวออกมาได้อย่างเหมือนจริงสุดๆ ที่ต้องบอกเลยว่า Wow! คนไทยไม่พอ ยังโตต่อในต่างประเทศอีกด้วย

สายมูต้องมุง! กระเป๋าสานจากหางประทัดแก้บน ลดขยะล้นวัด ได้งานคราฟต์สุด Cool  

มูยังไงให้สิ่งศักด์สิทธิ์รักและรักษ์โลกด้วย? พาไปรู้จักหางประทัดแก้บนที่นำมาสานเป็นกระเป๋าสุดคูล จากวัดเจดีย์ หรือ วัดไอ้ไข่ โดยกระเป๋า 1 ใบ จะใช้หางประทัดมากถึง 999 ชิ้น ซึ่งช่วยอัพราคากระเป๋าให้แตะได้ถึงหลักพันทีเดียว

อร่อยเอาเรื่อง ขายคอนเฟลกคาราเมลยังไง แค่ปีเดียว สร้างรายได้ 100 ล้านบาท

ใครจะคิดว่าแค่ทำขนมหลังกล่อมลูกนอน ของแตม-ชัญญานุช สมเจษ จะกลายเป็นธุรกิจที่ลูกค้าซื้อซ้ำไม่หยุด คอนเฟลกคาราเมลโฮมเมดที่เริ่มต้นจากเตาอบ 3,000 บาท เอาเรื่องจนรายได้ทะลุ 100 ล้าน! ในปีเดียว