BB Wash & Dry ซักอบรีดที่แตกต่าง สู่เป้าหมายแบรนด์แถวหน้าแห่งภาคเหนือ

     “รายได้ทางเดียวไม่พอ” คือจุดเริ่มต้นของการเดินทางครั้งใหม่ของ นรินวราภรณ์ ผลบังเกิด สถาปนิกสาวจากจังหวัดพิษณุโลก ที่ตัดสินใจพลิกวิกฤตเป็นโอกาสด้วยการลงทุนในธุรกิจซักอบรีดอัตโนมัติภายใต้ชื่อแบรนด์ BB Wash & Dry ที่แตกต่างด้วยกลิ่นหอมเฉพาะตัวและคาแร็กเตอร์อบอุ่นอย่าง “แมว BB” ซึ่งกลายเป็นที่จดจำของผู้คนในพื้นที่อย่างรวดเร็ว

จากอาชีพเดียว สู่การลงทุนที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตเมือง

     เมื่อตระหนักว่ารายได้ทางเดียวไม่สามารถสร้างความมั่นคงทางการเงินในยุคปัจจุบันได้ นรินวราภรณ์เริ่มมองหาช่องทางลงทุนที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ที่ต้องการความสะดวกสบาย และหนึ่งในคำแนะนำที่เธอได้รับจากคนรอบตัวคือ “ธุรกิจซักอบรีดน่าสนใจ”

     จากนั้น เธอจึงศึกษาตลาดซักอบรีดในพิษณุโลกอย่างจริงจัง พร้อมตั้งคำถามสำคัญกับตัวเองว่า

     “หากตลาดนี้มีคู่แข่งอยู่แล้ว เราจะสร้างความแตกต่างได้อย่างไร?”

     คำตอบที่เธอค้นพบมีสองประเด็นหลัก

          - การเลือกทำเลที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเป้าหมายอย่างแท้จริง

          - การสร้างประสบการณ์บริการที่แตกต่างและน่าจดจำ

ไม่ใช่แค่ซักผ้า แต่ขาย "ความสบายใจ"

     BB Wash & Dry เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยเครื่องซัก-อบคุณภาพสูงขนาด 12–22 กิโลกรัม จำนวนรวม 10 เครื่อง พร้อมเครื่องซักรองเท้าอัตโนมัติเพียงเครื่องเดียวในพื้นที่ เริ่มต้นบริการที่ 50 บาท และมีพนักงานคอยดูแลในช่วงเช้า–เย็น

     แต่สิ่งที่ทำให้ลูกค้าติดใจ ไม่ใช่แค่เครื่องซักผ้าใหม่หรือราคาที่เหมาะสม แต่คือ "ความสบายใจ" ที่ได้รับจากรายละเอียดเล็ก ๆ ที่ร้านใส่ใจ เช่น กลิ่นน้ำยาหอมเฉพาะตัว ที่มีกลิ่นสดชื่น ติดผ้าทนนาน คาแร็กเตอร์ “แมว BB” ที่เป็นมาสคอตน่ารัก สร้างความอบอุ่นและน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ ความใส่ใจในความสะอาดและการดูแลเครื่องให้พร้อมใช้งานเสมอ

     “เราไม่ได้แข่งที่ราคาถูกที่สุด แต่แข่งกันที่บริการด้วยความใส่ใจ ที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเราแตกต่าง” นรินวราภรณ์กล่าว

เมื่อธุรกิจไม่ใช่แค่เรื่องยอดขาย

     ในระหว่างการวางแผนและลงมือทำธุรกิจจริง นรินวราภรณ์พบว่าการบริหารร้านซักอบรีดไม่ใช่เพียงแค่เปิดร้านแล้วรอลูกค้า แต่ต้องเข้าใจในทุกมิติของการดำเนินงาน ตั้งแต่ต้นทุนอย่างค่าน้ำยาซักผ้าและค่าไฟไปจนถึงการซ่อมบำรุงเครื่องจักร การจัดการหลังบ้าน และการบริหาร
กระแสเงินสดให้ยั่งยืน

     หนึ่งในช่วงเวลาที่ช่วยให้เธอมองภาพธุรกิจได้ลึกซึ้งขึ้น คือการเข้าร่วม โครงการ NEC DIPROM ซึ่งช่วยให้เธอเห็นความสำคัญของการวางระบบตั้งแต่แรกเริ่ม และการรู้จักต้นทุนที่แท้จริงของกิจการ

     “ธุรกิจที่ยั่งยืนไม่ได้วัดจากยอดขายอย่างเดียว แต่มาจากการรู้ต้นทุนแท้จริง และบริหารให้สมดุล” นรินวราภรณ์กล่าว

     นอกจากนี้ ยังได้เรียนรู้จากการแลกเปลี่ยนกับผู้ประกอบการรายอื่น ๆ ซึ่งกลายเป็นเครือข่ายสำคัญที่ช่วยทั้งในด้านคำแนะนำและกำลังใจในระยะยาว

กล้าคิดต่างและสร้างประสบการณ์ที่เหนือกว่า

     นรินวราภรณ์ไม่ได้มองแค่ธุรกิจซักอบรีดธรรมดา แต่ตั้งใจสร้างแบรนด์ที่ลูกค้าเชื่อใจและรู้สึกผูกพัน ด้วยการสร้างคาแร็กเตอร์ “แมว BB” ที่อบอุ่นและกลิ่นหอมเฉพาะตัว ซึ่งเป็นองค์ประกอบเล็ก ๆ ที่สร้างความแตกต่างชัดเจน นอกจากนี้ เธอยังเลือกลงทุนและบริหารธุรกิจด้วยความรอบคอบ ผ่านการวางระบบการจัดการที่ช่วยให้ BB Wash & Dry พร้อมเติบโตอย่างยั่งยืนและสร้างฐานลูกค้าประจำในระยะยาว

ก้าวต่อไปของ BB Wash & Dry

     แม้จะเพิ่งเปิดบริการเพียง 1 เดือน แต่ BB Wash & Dry ก็มีแผนเติบโตชัดเจนในระยะสั้นและระยะยาว

          - ระบบ สมาชิกสะสมแต้ม เพื่อสร้างฐานลูกค้าประจำ

          - ขยายบริการสู่ โรงแรม หอพัก และองค์กร

          - ใช้ สื่อออนไลน์ โดยเฉพาะ TikTok เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์

          - มุ่งสู่เป้าหมาย : แบรนด์ซักผ้าชั้นนำของภาคเหนือตอนล่าง

     “ถ้าเป็นไปได้ เราอยากให้คนจดจำ BB ในฐานะร้านซัก-อบ-รีดแถวหน้าของภาคเหนือ” นรินวราภรณ์กล่าวทิ้งท้าย

     ข้อมูลติดต่อ : โทร.083-263-5415, FB : BB Wash & Dry

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

นวัตกรรมจาก Rehyphen อัปไซเคิลเทปคาสเซ็ตเก่า ให้เป็นผ้าผืนลายลวดลายเฉพาะตัว

การรีดีไซน์ที่ไม่ธรรมดา เมื่อ Rehyphen เปลี่ยนเทปคาสเซ็ตเก่าให้เป็นเนื้อผ้าล้ำสไตล์ ใส่ได้จริง แถมยังเล่าเรื่องความยั่งยืนได้

สาวผมยาวต้องถูกใจสิ่งนี้! Pony Cap ตัวช่วยสระผมแบบใหม่ ที่ให้คุณสระแค่ครึ่งหัว ก็สะอาด แห้งเร็วขึ้น

รู้จัก “Pony Cap” ถุงครอบป้องกันผมเปียกขึ้นมา เพื่อใช้คลุมส่วนของเส้นผมที่ไม่ต้องการให้เปียก โดยทำมาจากผ้าโพลีเอสเตอร์ ไอเดียธุรกิจที่เกิดจาก Pain Point ของสาวผมยาว

ปั้น Ocare Health Hub ยอมขาดทุน 3 ปีก่อนมีรายได้ 8 หลัก

เจาะลึกบทเรียนจาก พญ.ชุติมา ดุลมณี (หมอออม) CEO Ocare Health Hub ที่กล้าทิ้งความมั่นคงของคลินิกแพทย์ สู่สนามรบ Health Tech ที่ไร้กำไรในช่วง 3 ปีแรก เพื่อหาแนวทางสร้าง System ที่ปลดล็อกอิสรภาพทางธุรกิจทุบกำแพงรายได้เดิม