SME ต้องรู้!!! 5 เทรนด์ Up Coming ปี 2026 รู้ก่อน เท่ากับ โอกาส

Text: Wipawan In.


     อีกไม่กี่เดือนก็จะเข้าสู่ปี 2026 แล้ว สำหรับ SME ไทยถือว่าเป็นปีที่ต้อง “จับตาและปรับตัว” ให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงรอบด้าน เพราะโลกธุรกิจไม่ได้เดินเหมือนเดิมอีกต่อไป ทั้งพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนเร็ว เทคโนโลยีที่พัฒนาแบบก้าวกระโดด รวมไปถึงความท้าทายทางเศรษฐกิจและการแข่งขันจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ ปี 2025 ที่กำลังจะผ่านไปเหมือนสัญญาณเตือนว่า ใครที่ยังไม่พร้อมปรับตัวให้ทันกับยุค ก็อาจเจอแรงกดดันหนักขึ้นเรื่อย ๆ การเตรียมตัวตั้งแต่วันนี้จึงไม่ใช่แค่เรื่องของ “อยู่รอด” แต่คือการวางรากฐานเพื่อ “โตต่อ” อย่างมั่นคงในปีหน้าและปีถัดไป

     สำหรับภาพรวมปี 2026 สิ่งที่ SME ไทยต้องโฟกัสคือการนำเทรนด์ใหม่ ๆ มาใช้ให้สอดคล้องกับธุรกิจของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องวิ่งตามทุกอย่าง แต่ต้องเลือกสิ่งที่เหมาะกับปัญหาและเป้าหมาย และเทรนด์ทั้ง 5 ที่จะเล่าต่อไปนี้ คือ “เข็มทิศ” ที่จะช่วยให้ SME ไทยเตรียมรับมือและพลิกเกมธุรกิจได้อย่างชาญฉลาดในปี 2026

     เพราะใครรู้ก่อน ปรับก่อน ก็มีสิทธิ์ “นำเกม” ได้ก่อนเช่นกัน

     1. AI-First Business Model AI จะไม่ใช่เครื่องมือเสริมอีกต่อไป แต่จะกลายเป็น “โครงสร้างหลักของโมเดลธุรกิจ” ตั้งแต่การคำนวณราคาขาย การจัดการสต็อก ไปจนถึงการทำตลาด สร้างคอนเทนต์ AI จะทำให้ SME ที่เคยมีทีม 10 คน ทำงานได้เทียบเท่าทีม 100 คน ช่วยลดต้นทุน เพิ่มความแม่นยำ และขยายตลาดเร็วขึ้น เช่น ร้านค้าใช้ ChatGPT + Gemini วิเคราะห์แนวโน้มตลาดอัตโนมัติ สรุปโอกาสใน 5 นาที นักออกแบบใช้ Canva + Midjourney สร้างภาพสินค้าและแคมเปญโฆษณา ได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งเอเจนซี่ 

     บริษัท Klarna ชี้ให้เห็นว่า AI มีส่วนช่วยในการประหยัดต้นทุน 37% ขณะเดียวกันยังช่วยเพิ่มจำนวนแคมเปญด้วย

     2. Personalized Longevity: ตลาดสุขภาพเฉพาะบุคคล โตจากอายุที่ยืนขึ้น โลกกำลังเผชิญกับประชากรสูงวัย (aging population) ซึ่งนำไปสู่คำถาม “จะอยู่ให้ยืน หรืออยู่ให้ยืนและมีสุขภาพดี?” ความต้องการไม่ใช่แค่เพิ่มอายุ (lifespan) แต่เพิ่มคุณภาพชีวิตในวัยสูงอายุ (healthspan) มากกว่า ทำให้ผู้บริโภคต้องการสินค้า บริการ เฉพาะตัวมากขึ้น เพื่อหาสิ่งที่เหมาะสมกับสุขภาพของตนเอง

     งานวิจัยของ McKinsey ระบุว่า "healthy aging" เป็นหนึ่งในหัวข้อที่ผู้บริโภครายใหญ่ให้ความสำคัญ หลายตลาดระบุว่า 60% ของผู้บริโภคในหลายประเทศมองว่าสุขภาพในวัยสูงอายุเป็น “เรื่องสำคัญ” 

     3. Hyper-Local Focus: กลยุทธ์ท้องถิ่นทรงพลัง เมื่อโลกเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน จากสงคราม เศรษฐกิจ ไปจนถึงโลจิสติกส์ที่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ส่งผลไม่ใช่แค่เรื่องของ CSR แต่คือ “ยุทธศาสตร์อยู่รอด” ผู้ผลิตหลายรายเริ่มหันกลับมาหาความแข็งแรงของ “ห่วงโซ่ท้องถิ่น” Local Sourcing และ Local Production เพื่อลดความเสี่ยงจากซัพพลายเชน และสร้างความเชื่อมั่นในตลาดท้องถิ่น แถมช่วยลดโลกร้อน อีกทั้งผู้บริโภค โดยเฉพาะ Gen Z และ Millennials เริ่มให้คุณค่ากับ “ของแท้” และ “เรื่องราวในพื้นที่” ซึ่งนับว่าเป็นโอกาสทางธุรกิจ ยกตัวอย่างเช่น ร้านอาหารที่จับมือเกษตรกรในพื้นที่เพื่อสร้างวัตถุดิบเฉพาะของย่านนั้น, แบรนด์แฟชั่นท้องถิ่นญี่ปุ่นอย่าง Visvim ใช้วัตถุดิบและช่างฝีมือท้องถิ่น สร้างสินค้าราคาสูงแต่มีเรื่องราว

     องค์กร CPR รายงานว่า 75% ของบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภค มีแนวโน้มการเปลี่ยนไปใช้ local sourcing

     4. Health Community: สังคมใส่ใจสุขภาพ ผู้คนทั่วโลกให้ความสำคัญกับสุขภาพมากกว่าที่เคย ไม่ใช่แค่การไม่มีโรค แต่คือการใช้ชีวิตอย่างมีสมดุล ทั้งกายและ ใจ เพื่อสร้างบาลานซ์ให้กับชีวิต ที่ยังได้ใช้ชีวิตและดูแลสุขภาพไปพร้อมๆ กัน ตัวอย่างเช่น Coffee party การรวมตัวสังสรรค์รูปแบบใหม่ ที่เน้นเครื่องดื่มกาแฟและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ โดยมีดนตรี กิจกรรมสนุกๆ และบรรยากาศที่อบอุ่นคล้าย เน้นความสนุกคึกคักแต่ไร้เครื่องดื่มมึนเมา ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สายสุขภาพ หรือ Reading Party ปาร์ตี้ที่กำลังฮิตในกลุ่มคนรุ่นใหม่

     ข้อมูลล่าสุดจาก IWSR คาดการณ์ว่า สินค้าหมวดหมู่แอลกอฮอล์ต่ำหรือไม่มีแอลกอฮอล์จะเติบโตที่อัตรา CAGR 6% ระหว่างปี 2023 - 2027

     5. Nano-Content Commerce: คลิปสั้นพลังสูง ผู้บริโภคในปัจจุบัน โดยเฉพาะ Gen Z และ Millennials มีช่วงความสนใจ (attention span) สั้นลง เฉลี่ยเพียง 8 วินาที (Microsoft Consumer Insights 2024) ทำให้คลิปสั้นที่กระชับและน่าสนใจสามารถดึงดูดและปิดการขายได้เร็ว

     ยุคใหม่ของคอนเทนต์ไม่ใช่แค่สร้างการรับรู้ แต่ต้อง “ปิดการขายได้ในคลิปเดียว” แพลตฟอร์มอย่าง TikTok, Reels, YouTube Shorts กำลังพัฒนาเครื่องมือ Shoppable Content ที่เชื่อมกับระบบคลังสินค้าและชำระเงินแบบเรียลไทม์

     สถิติล่าสุดของ TikTok Shop แสดงให้เห็นว่า วิดีโอสั้นครองส่วนแบ่งทางการขายหลัก มีบทบาทสำคัญในการซื้อ ผู้ใช้ 48% ซื้อสินค้าจากโพสต์ของคลิป influencer

     และนี่คือ 5 เทรนด์ที่ต้องเตรียมตั้งรับ ทั้งหมดนี้ไม่เพียงช่วยให้ธุรกิจตอบสนองความต้องการลูกค้าได้ทันเวลา แต่ยังสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ผู้ประกอบการที่ไม่อยากพลาดการอัปเดตเทรนด์ล่าสุด พร้อมแรงบันดาลใจและคำแนะนำแนวทางสำหรับปีหน้า ห้ามพลาด SME Thailand Future Day 2026 ที่จะจัดขึ้นวันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน 2568 เวลา 09.00 - 17.00 น. ณ หอประชุม ศ.สังเวียน อินทรวิชัย ชั้น 7 อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (Tower B)

     งานรวมสุดยอด ผู้เชี่ยวชาญและผู้ประกอบการ SME หลากหลายธุรกิจ ที่พร้อมมาแชร์กลยุทธ์และแนวทางธุรกิจแห่งอนาคตที่จะช่วยให้ทุกคนปรับตัว เติบโต และแข่งขันได้อย่างมั่นใจ

     

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

นวัตกรรมจาก Rehyphen อัปไซเคิลเทปคาสเซ็ตเก่า ให้เป็นผ้าผืนลายลวดลายเฉพาะตัว

การรีดีไซน์ที่ไม่ธรรมดา เมื่อ Rehyphen เปลี่ยนเทปคาสเซ็ตเก่าให้เป็นเนื้อผ้าล้ำสไตล์ ใส่ได้จริง แถมยังเล่าเรื่องความยั่งยืนได้

สาวผมยาวต้องถูกใจสิ่งนี้! Pony Cap ตัวช่วยสระผมแบบใหม่ ที่ให้คุณสระแค่ครึ่งหัว ก็สะอาด แห้งเร็วขึ้น

รู้จัก “Pony Cap” ถุงครอบป้องกันผมเปียกขึ้นมา เพื่อใช้คลุมส่วนของเส้นผมที่ไม่ต้องการให้เปียก โดยทำมาจากผ้าโพลีเอสเตอร์ ไอเดียธุรกิจที่เกิดจาก Pain Point ของสาวผมยาว

ปั้น Ocare Health Hub ยอมขาดทุน 3 ปีก่อนมีรายได้ 8 หลัก

เจาะลึกบทเรียนจาก พญ.ชุติมา ดุลมณี (หมอออม) CEO Ocare Health Hub ที่กล้าทิ้งความมั่นคงของคลินิกแพทย์ สู่สนามรบ Health Tech ที่ไร้กำไรในช่วง 3 ปีแรก เพื่อหาแนวทางสร้าง System ที่ปลดล็อกอิสรภาพทางธุรกิจทุบกำแพงรายได้เดิม