ปิดจ๊อบดราม่าทุเรียนไทยส่งออก ด้วยนวัตกรรม Active Coating

Text กองบรรณาธิการ



     ข่าวดีสำหรับผู้ประกอบการค้าทุเรียนส่งออก รวมถึงเกษตรกรสวนทุเรียนที่ผันตัวมาเป็นผู้ประกอบการส่งออกทุเรียน เมื่อคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คิดค้นนวัตกรรมลดกลิ่น-ลดการแตกผลทุเรียนสด ที่สามารถชะลอการสุกของทุเรียนแก่ขณะขนส่งได้นานถึง 2 สัปดาห์และจะสุกพร้อมขายได้ทันทีเมื่อถึงปลายทาง รวมถึงต่ออายุการเก็บรักษาได้เท่าตัว และยังสามารถขจัดปัญหาเรื่องกลิ่นไม่พึงประสงค์ของผลทุเรียนเมื่อสุก และปัญหาทุเรียนแตกขณะขนส่งหรือส่งออกต่างประเทศได้ 100% โดยสามารถคงคุณภาพและรสชาติของเนื้อทุเรียนภายใน 






   
     รศ. วรภัทร ลัคนทินวงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์เครื่องมือวิทยาศาสตร์เพื่อการวิจัยขั้นสูง และอาจารย์ประจำสาขาวิชาเทคโนโลยีการเกษตร คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มธ. กล่าวว่า “ทุเรียน” ถือเป็นผลไม้เศรษฐกิจที่สำคัญอันดับ 1 ของไทย จนได้รับการขนานนามเป็น ราชาผลไม้ เนื่องจากมีมูลค่าการส่งออกผลทุเรียนสดสูงขึ้นในทุกๆ ปี โดยล่าสุด ปี 2559 มีมูลค่าการส่งออกสูงถึง 17,468 ล้านบาท ซึ่งเติบโตจากปีที่ผ่านมาประมาณ 31.87 % (ที่มา: สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร, 2560) โดยเฉพาะทุเรียนหมอนทองที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจาก ประเทศจีน ฮ่องกง และไต้หวัน แต่อย่างไรก็ตาม ในขณะเดียวกัน เกษตรกรในหลายพื้นที่ยังคงประสบปัญหาสำคัญในการส่งออก คือ กลิ่นไม่พึงประสงค์ของผลทุเรียนเมื่อสุก และผลแตกขณะขนส่งหรือวางจำหน่าย ณ ประเทศปลายทาง ซึ่งในแง่ของมาตรฐานสินค้าเกษตรเพื่อการส่งออกนั้น ผลทุเรียนจะต้องได้ทรงมาตรฐาน อยู่ในสภาพสมบูรณ์ รวมถึงได้รับการรับรองมาตรฐาน GMP และ GAP เป็นต้น 


     “คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มธ. จึงได้พัฒนา “นวัตกรรม Active Coating ลดกลิ่น-ลดแตกของผลทุเรียนสด” นวัตกรรมการเคลือบผลทุเรียนสดด้วยเทคนิค Active Coating ภายใต้การดูแล senior project ของ ประกาสิทธิ์ ชุ่มชื่น นักศึกษาปริญญาตรี ร่วมพัฒนาจนสามารถชะลอการสุกของผลทุเรียนแก่ ขณะขนส่งได้นานถึง 2 สัปดาห์ และจะสุกพร้อมวางขายได้ทันทีเมื่อถึงปลายทาง อีกทั้งยังสามารถต่ออายุการเก็บรักษา (Shelf Life) ได้เท่าตัว เพื่อเป็นการสนับสนุนให้เกษตรกรชาวสวนทุเรียนเลือกตัดผลทุเรียนแก่เพิ่มขี้นเพื่อการส่งออก แทนผลอ่อนที่เมื่อไปถึงปลายทางไม่มีคุณภาพการบริโภค หรือไม่สุกตามปกติ หรือเกิดปัญหาผลแตกเมื่อถึงปลายทาง เพื่อเพิ่มศักยภาพการส่งออกทุเรียนไทย ให้สามารถก้าวสู่ตลาดในระดับพรีเมียมได้มากยิ่งขึ้น”




 

   
     ทั้งนี้ นวัตกรรมดังกล่าว เป็นการประยุกต์ใช้องค์ความรู้เทคโนโลยีทางการเกษตร สู่การพัฒนาวัสดุห่อหุ้มผลทุเรียน (Active Coating) ใน 2 ขั้นตอน คือ 1) ขั้นเตรียม Active Coating และ 2) ขั้นเคลือบผิวทุเรียน นำผลทุเรียนมาเคลือบด้วย Active Coating ที่เตรียมดีแล้วให้ทั่วทั้งผล เพื่อป้องกันเปลือกทุเรียนแตกระหว่างทาง ก่อนนำไปบรรจุลงในบรรจุภัณฑ์พิเศษ


     รศ. วรภัทร กล่าวว่า จากการศึกษาและพัฒนานวัตกรรมลดกลิ่น-ลดแตกของผลทุเรียนสดเป็นเวลาถึง 2 ปี พบว่า เทคนิคการเคลือบผลทุเรียนด้วยเส้นใยจากพืช สามารถลดการแพร่กระจายกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ของทุเรียน และป้องกันการแตกของผลได้ 100% เมื่อเทียบกับทุเรียนที่ไม่ได้ห่อหุ้มผล อีกทั้งยังคงคุณภาพของเนื้อทุเรียนภายในได้เป็นอย่างดี ดังนั้น จึงนับเป็นอีกก้าวสำคัญของวิทยาศาสตร์ ในการพัฒนานวัตกรรมเกษตรยุคใหม่ให้ตอบโจทย์ความต้องการของเกษตรกรในยุค 4.0 ได้อย่างตรงจุด ในค่าใช้จ่ายที่ต่ำ ซึ่งมีต้นทุนโดยเฉลี่ยเพียง 2-3 บาทต่อผล


     อย่างไรก็ดี นวัตกรรมดังกล่าวยังไม่ได้เปิดจำหน่ายสูตรในเชิงพาณิชย์ แต่สำหรับเกษตรกรสวนทุเรียนสามารถขอรับคำปรึกษาได้ฟรี ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีสำหรับเกษตรกรสวนทุเรียนที่ต้องการผันตัวมาเป็นผู้ประกอบการส่งออกโดยตรงแบบไม่ผ่านคนกลาง หรือแม้แต่ SME ที่ทำธุรกิจส่งออกทุเรียน ก็ได้ประโยชน์จากนวัตกรรมนี้ด้วยเช่นกัน  



www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี


RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

ละเลียดวิธีคิด สุรชัย พุฒิกุลางกูร Illustrator ไทย ผู้ยืนหนึ่งเวทีโลก

ละเลียดวิธีคิดของ สุรชัย พุฒิกุลางกูร Illustrator อันดับหนึ่งของโลก CEO แห่ง Illusion CGI Studio ที่พาสตูดิโอขึ้นแท่นเป็น No.1 ของโลกติดต่อกันถึง 11 ปี เขามีวิธีคิดและกลยุทธ์อย่างไร ถึงพาธุรกิจไปได้ไกลขนาดนี้

Top Table บาร์ปิงปอง มิติใหม่การแฮงค์เอาท์ เมื่อโค้ชกีฬาผันตัวมาทำธุรกิจ ฮอต! จนคืนทุนได้ใน 2 เดือน

จะดีกว่าไหมถ้าคุณสามารถดื่มแฮงค์เอาท์กับเพื่อน ขณะเดียวกันก็ได้ออกกำลังกาย มีเกมสนุกๆ ให้เล่นได้ด้วย “Top Table” บาร์ปิงปองแห่งแรกของสิงคโปร์ ที่ผสมผสานระหว่างกีฬา การดื่ม และพบปะสังสรรค์ได้อย่างลงตัว

BaanRung จากโรงเก็บของสู่คาเฟ่ตัวท็อป สูตรลับธุรกิจที่เริ่มได้แม้ไม่มีทุนมหาศาล

หลายธุรกิจไม่ได้เริ่มต้นจากทุนมหาศาลหรือทำเลทอง แต่เริ่มจาก พื้นที่เล็กๆ หน้าบ้าน ดังเช่น “บ้านรุ่ง” ที่เปลี่ยนพื้นที่เล็กๆหน้าบ้านที่ถูกมองข้ามให้กลายเป็นคาเฟ่ที่มีกลิ่นอายของความโฮมมี่