สสว.มั่นใจ SME Provincial Champions ดันเศรษฐกิจไทยสู่ยุค 4.0





     สสว.ยืนยันโครงการพัฒนาสู่สุดยอดเอสเอ็มอีจังหวัด หรือ SME Provincial Champions ประสบผลสำเร็จเกินเป้าหมาย ผู้ประกอบการมีรายได้เพิ่มขึ้น 4,642.43 ล้านบาท ย้ำแผนปี 60 เร่งดำเนินการต่อเนื่องเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใส่นวัตกรรมและเทคโนโลยียกระดับให้เป็น SME 4.0

     นางสาลินี วังตาล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)  กล่าวว่า โครงการพัฒนาสู่สุดยอดเอสเอ็มอีจังหวัด (SME Provincial Champions) ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย โดยในปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการมีรายได้และผลิตภาพเพิ่มสูงขึ้น 4,642.43 ล้านบาท ซึ่งในปีงบประมาณ 2560 นี้ สสว.ได้ดำเนินงานโครงการอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นส่งเสริมและผลักดันให้ SME เป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจประเทศ ให้มีการเติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน

     ทั้งนี้ สสว.ได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย, กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม, สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์, หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในการตรวจประเมินและวินิจฉัยสถานประกอบการเชิงลึก พบว่ากลุ่ม Start Up ให้ความสำคัญกับการเพิ่มยอดขายมากกว่าการเพิ่มผลิตภาพ ดังนั้นแนวทางในการพัฒนาส่วนใหญ่ จึงเป็นการพัฒนา Product ให้ได้มาตรฐาน การพัฒนา Packaging  รวมทั้งกลยุทธ์ทางการตลาด เพราะจะช่วยเพิ่มยอดขายเป็นหลัก

     ในส่วนของกลุ่ม Rising Star ที่มีความชำนาญในการขาย มีความต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตหรือลดต้นทุนผลิต ซึ่งในกลุ่มนี้มีอัตราการเพิ่มขึ้นของยอดขาย  ร้อยละ 12.88 ในขณะที่การเพิ่มขึ้นของมูลค่าผลิตภาพเพิ่มสูงขึ้นในอัตราร้อยละ 12.15

     ในกลุ่มTurn Around เป็นกลุ่มที่ประสบปัญหาด้านยอดขายและด้านการเงิน ดังนั้นการพัฒนาจึงต้องดำเนินการทั้งเรื่องการเพิ่มยอดขาย การเพิ่มผลิตภาพการผลิต และการหาแหล่งเงินทุน เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดสภาพคล่องทางการเงิน

     ทั้งนี้ ในภาพรวมของโครงการฯ สามารถเพิ่มรายได้และผลิตภาพ ร้อยละ 21.06 ต่อปี สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาทางด้านมูลค่าทางเศรษฐกิจ  พบว่าผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯ มีรายได้รวม 22,047.17 ล้านบาท และเมื่อผ่านกระบวนการพัฒนาภายใต้โครงการพัฒนาสุดยอดเอสเอ็มอีจังหวัด ทำให้ผู้ประกอบการมีรายได้และผลิตภาพเพิ่มขึ้น 4,642.43 ล้านบาท

     กุญแจสำคัญในการสร้างความสำเร็จให้กับสินค้าอาหารของเอสเอ็มอี คือการมีบรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม มีฉลากข้อมูลครบถ้วนจะช่วยสื่อถึงคุณภาพของสินค้า ช่วยสร้างแบรนด์ และยังเป็นด่านแรกที่ดึงดูดใจผู้บริโภคให้ตัดสินใจซื้อสินค้า การมีมาตรฐานของสินค้าที่ต้องให้ความสำคัญมากกว่าที่จะแข่งขันด้วยราคา และรสชาติอาหารต้องอร่อยถูกปากผู้บริโภคส่วนใหญ่ ซึ่งถ้าผู้ประกอบการสามารถพัฒนาสินค้าให้มีบรรจุภัณฑ์ที่ดี อาหารรสชาติอร่อย มีคุณภาพ มาตรฐานในราคาที่เหมาะสม ก็จะทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อได้ไม่ยาก

     เชื่อว่าภายใต้การดำเนินโครงการดังกล่าว จะช่วยพัฒนาผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ให้มีศักยภาพและความสามารถในการดำเนินธุรกิจเพิ่มขึ้น ต่อยอดการยกระดับมาตรฐานสินค้าให้เป็นสากล พัฒนาศักยภาพการบริหารจัดการ พัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ รวมทั้งนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ มาเสริมสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าและบริการ ยกระดับให้ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการเป็น SME 4.0 เป็นต้นแบบให้กับเอสเอ็มอีในจังหวัดและนำไปสู่การสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในระดับจังหวัดต่อไป


www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด ฉบับทายาทรุ่น 3 จาก 3 แบรนด์เก๋า หอยนางรม-น่ำเอี๊ยง-เด็กสมบูรณ์

ธุรกิจครอบครัวที่ผ่านรุ่น 3 ไปได้ต้องทำอย่างไร ? เราจะพาไปดูวิธี ‘ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด’ จาก 3 แบรนด์เก๋า: หอยนางรม - น่ำเอี๊ยง - เด็กสมบูรณ์" ​ ที่ไม่เพียงรักษามรดกครอบครัวไว้ แต่ยังสร้างโอกาสใหม่ๆ อีกด้วย ​

Nyana Nyana Eco Fashion อดีตสถาปนิกนักสู้มะเร็ง สู่เจ้าของแบรนด์แฟชั่นออร์แกนิก เป็นมิตรต่อผู้สวมใส่ และสิ่งแวดล้อม

Nyana Nyana Eco Fashion แบรนด์แฟชั่นของอดีตสถาปนิกหญิงสิงคโปร์ที่ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา แม้พบว่าป่วยเป็นมะเร็ง แต่ “Clara Simanjuntak” กลับใช้เป็นแรงบันดาลใจ เพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิต ทำสิ่งดีๆ รวมถึงการสร้างแบรนด์เสื้อผ้าจากผ้าออร์แกนิก

บ้านโอบอุ่น ธุรกิจเล็กๆ ของนักศึกษาพยาบาล ที่ทำให้คนแปลกหน้ากลายเป็นเพื่อนกัน

พาไปรู้จักบ้านโอบอุ่น ธุรกิจโฮมสเตย์เล็กๆ ที่ปลูกขึ้นกลางทุ่ง ของ อั้ม-พัชราภา อ่ำปั้นนักศึกษาพยาบาล ที่นั่งรถไฟจากพิษณุโลกไปเชียงดาวทุกสัปดาห์เพื่อมาทำโฮมสเตย์เล็กๆ ที่เปลี่ยนคนแปลกหน้าให้กลายเป็นเพื่อนกัน