“สมชาย” ประกาศปรับ 4 ประเด็นหลักเข้าถึงสินเชื่อกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอี มั่นใจพิจารณาเสร็จก.ย.นี้วงเงินกว่า 9,900 ล้านบาท




    นายสมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ และในนามประธานกรรมการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว. หรือ SME Development Bank) เปิดเผยถึงกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ วงเงิน 20,000 ล้านบาท ขณะนี้ได้ปรับขั้นตอน และกระบวนการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อในกองทุนดังกล่าวให้กระชับมีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น รวมถึงปรับสัดส่วนวงเงินสินเชื่อใหม่ให้เหมาะสมกับความต้องการของเอสเอ็มอีในพื้นที่ ซึ่งการปรับกระบวนการดังกล่าว อยู่บนพื้นฐานไม่กระทบต่อเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อ  

     โดยปรับ 4 ประเด็นหลัก ได้แก่  1. ลดขั้นตอนการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ เหลือเพียง 2 ขั้นตอนเท่านั้น พิจารณาจากด้านของคุณสมบัติ และวัตถุประสงค์ในการขอรับสินเชื่อเป็นสำคัญ จากนั้นจะส่งเข้าสู่กระบวนการวิเคราะห์สินเชื่อได้ทันที   

     2.กำหนดให้คณะอนุกรรมการวิเคราะห์เอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐประจำส่วนกลาง/ประจำจังหวัด รวมถึง คณะอนุกรรมการบริหารกองทุนฯ ประจำส่วนกลางและประจำจังหวัด เปิดการประชุมเพิ่มขึ้นอย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง จากเดิมประชุมอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง 

     3.ผ่อนปรนการเรียกตรวจเอกสาร โดยขอให้ส่งเฉพาะเอกสารที่สำคัญและจำเป็นเร่งด่วน เข้าสู่กระบวนการพิจารณาก่อน  ส่วนเอกสารประกอบอื่นๆ สามารถส่งตามภายหลังได้  

     และ 4. ปรับสัดส่วนวงเงินสินเชื่อ ซึ่งเดิมรายที่ขอสินเชื่อไม่เกิน 3 ล้านบาท อยู่ในสัดส่วน 75% และรายที่ขอสินเชื่อไม่เกิน 10 ล้านบาท อยู่ในสัดส่วน 25% มาเป็นสัดส่วน 50:50% เท่ากัน กล่าวคือ  สินเชื่อไม่เกิน 3 ล้านบาท อยู่ในสัดส่วน 50% และรายที่ขอสินเชื่อไม่เกิน 10 ล้านบาท อยู่ในสัดส่วน 50%  ทั้งนี้ เพื่อเป็นไปตามความต้องการของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในแต่ละพื้นที่ ที่จำเป็นใช้วงเงินสูงขึ้นในการลงทุนและปรับปรุงกิจการ 

     ทั้งนี้ จากการปรับกระบวนการดังกล่าว สามารถพิจารณาอนุมัติให้สินเชื่อได้กว่า 9,900 ล้านบาท ภายในเดือนกันยายนนี้  โดยจะเร่งรัดเข้าคณะอนุกรรมการวิเคราะห์เอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐประจำส่วนกลาง/ประจำจังหวัด และคณะอนุกรรมการบริหารกองทุนฯ ประจำส่วนกลางและประจำจังหวัด โดยเร็ว 

     สำหรับการดำเนินการพิจารณาสินเชื่อกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ณ วันที่ 14 กันยายน 2560 ที่ผ่านมา สามารถพิจารณาอนุมัติสินเชื่อไปได้แล้วถึง 4,971 ล้านบาท และอยู่ระหว่างเร่งรัดพิจารณา อีกจำนวน 5,025 ล้านบาท  

     "สินเชื่อกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ   มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อการลงทุน และปรับปรุงกิจการ ไม่ใช่เพื่อแก้ปัญหาสภาพคล่องทางการเงินให้แก่เอสเอ็มอี  ดังนั้น ผู้ประกอบการต้องใช้เวลาในการตัดสินใจในรายละเอียดของการลงทุน เช่น แบบก่อสร้าง spec เครื่องจักร จำเป็นต้องมีเอกสารข้อมูลประกอบการลงทุน ถึงแม้กองทุนจะผ่อนปรนเอกสารให้ตามกระบวนการดังกล่าว แต่ผู้กู้ก็ต้องใช้เวลาตัดสินใจลงทุนหรือปรับปรุงกิจการ ดังนั้นสินเชื่อกองทุนจึงมีกระบวนการแตกต่างจากสินเชื่อปกติทั่วไปที่เน้นให้เงินทุนหมุนเวียนเพียงอย่างเดียว" นายสมชาย กล่าว

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

The Rubik Theory ทฤษฎีบิดลูกบาศก์ธุรกิจให้ลงตัว ฉบับ After Yum  

“The Rubik Theory” ทฤษฎีบิดลูกบาศก์ธุรกิจให้ลงตัว คือกลยุทธ์ที่ After Yum นำมาใช้ การปรับกลยุทธ์ธุรกิจ การคิดแบบหลายมิติ รวมถึงการฝึกความอดทนและทดลองทำสิ่งใหม่ๆ จนวันนี้ไม่มีใคร ไม่รู้จักแบรนด์ที่คงความแซ่บได้แบบยืนหนึ่งแบรนด์นี้

บุญช่วยมัทฉะ คาเฟ่ในร้านขายของชำ คอนเซปต์สุดแปลก ที่เปลี่ยนจุดด้อย ให้กลายเป็นเสน่ห์

ตามไปดู "บุญช่วยมัทฉะ" คาเฟ่มัทฉะลับๆ ที่กำลังถูกพูดถึงใน TikTok เพราะไอเดียสุดแปลกเสิร์ฟมัทฉะคุณภาพระดับพรีเมียมจากครัวหลังร้านของชำของแม่ชื่อว่า “บุญช่วยพานิช” จนกลายเป็นเสน่ห์ กิมมิก ที่ทำให้ใครๆ ก็จดจำได้

เพราะทุกการขนส่ง คือการเติบโต เมื่อมีพาร์ทเนอร์ที่ใช่ ธุรกิจก็ไปได้ไกลกว่าเดิม

ในยุคที่โลกธุรกิจหมุนเร็วกว่าเดิม การดำเนินธุรกิจเพียงลำพังคนเดียวอาจเป็นไปได้ยาก แต่หากมีพาร์ทเนอร์ที่รู้ใจเข้ามาช่วยต่อยอด ธุรกิจคงไปได้ไกลมากกว่าที่คิด