​Back to the origin ฟื้นชีวิตฝ้ายไทยริมฝั่งโขงด้วยนวัตกรรม







     จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าริมฝั่งโขงแถบจังหวัดอุบลราชธานี คือ แหล่งปลูกฝ้ายชั้นดี ทว่าปัจจุบันอาณาจักรฝ้ายแห่งนี้กำลังถูกลดพื้นที่ลงเรื่อยๆ เพราะไม่มีตลาด เช่นเดียวกับภูมิปัญญาชาวบ้านในเรื่องการเข็นฝ้ายโดยใช้มือปั่นและรีดออกมาให้ได้เส้นใยธรรมชาติก็กำลังถูกลืมเลือนเช่นกัน และอาจจะหมดไปในวันหนึ่ง
               

     นิตยา โชติชัยชรินทร์ คือ ทายาทผู้รับช่วงต่อธุรกิจครอบครัว บริษัท โกลเด้น คีริน จำกัด โรงงานผลิตผ้าสำหรับเด็ก เช่น ผ้าสาลู ผ้าขนหนู ผ้าห่อตัวเด็ก ภายใต้แบรนด์มิมิเบบี้ เธอคือหนึ่งคนที่อยู่ในอุตสาหกรรมสิ่งทอมาตลอดชีวิต และผูกพันกับโลกของฝ้ายไทย จึงถักทอธุรกิจผ้าพันคอแบรนด์ Back to the origin ขึ้น เพื่อหวังคืนชีวิตให้กับฝ้ายไทยริมฝั่งโขง
     
     
   

     “ริมแม่น้ำโขงมีแร่ธาตุธรรมชาติ เมื่อน้ำลดชาวบ้านจะมาปลูกฝ้ายโดยไม่ใช้สารเคมีเป็นฝ้ายออร์แกนิก 100 เปอร์เซ็นต์ จากนั้นจึงเก็บมาปั่น รีดให้เป็นเส้นและทอด้วยมือ แต่ปัจจุบันพื้นที่ปลูกฝ้ายลดลงเพราะชาวบ้านหันไปปลูกอย่างอื่นที่ได้เงินเร็วกว่าแทน จึงคิดว่าจะทำอย่างไรให้ชาวบ้านมีรายได้และกลับมาปลูกฝ้ายอีกครั้ง เพื่อรักษาภูมิปัญญาของคนไทยไว้ แรกๆ ใช้วิธีรับซื้อผ้าของชาวบ้านมาขายแต่สุดท้ายมองว่าแค่นั้นไม่ยั่งยืนและเห็นผลช้า ครั้นจะลงไปสู้กับสินค้าโอท็อปก็ไม่ได้อีกเพราะเราเป็นผู้ประกอบการเอกชนธรรมดา จึงเปลี่ยนมาทำให้เขามีรายได้เพิ่มขึ้นจากการย้อมผ้าสีธรรมชาติที่ถ่ายทอดมาจากผู้เฒ่าในท้องถิ่น แล้วโปรโมตออกไปให้คนรู้จักว่าที่ทุ่งนาเมือง โขงเจียม มีดีเรื่องฝ้ายและการย้อมผ้า ให้คนหันมารู้จักพวกเขามากขึ้น และรู้ว่าที่นี่เป็นแหล่งปลูกฝ้ายที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศเรา”
               




     ผลิตภัณฑ์ของ Back to the origin มาจากฝ้ายออร์แกนิกและใช้วิธีย้อมโดยใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติทั้งสิ้น เช่น สีชมพูได้มาจากเปลือกไม้ประดู่ สีเขียวจากใบหูกวาง และสีเทาจากใบบัวบก เป็นต้น
ด้วยแต้มต่อของการเป็นผู้ผลิตสิ่งทออยู่แล้ว เธอจึงได้รู้จักกับนวัตกรรมเส้นใยฟิลาเจน (Filagen Fiber) เส้นด้ายที่มีส่วนผสมของคอลลาเจนที่สกัดจากปลามิลค์ (Milk Fish) ซึ่งสามารถนำมาผลิตเป็นผ้าคอลลาเจนที่มีคุณสมบัติกักเก็บความชุ่มชื้น ป้องกันรังสียูวีได้ และสวมใส่สบาย จึงนำมาพัฒนาใช้กับธุรกิจและเนรมิตความแตกต่างให้กับ Back to the origin จากเดิมผ้าพันคอฝ้ายขายในราคา 390 บาท แต่ปัจจุบันสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยนวัตกรรมใหม่ผ้าพันคอคอลลาเจนขายได้ในราคา 1,200 บาท และยังขายดีขึ้นกว่าเดิมมากด้วย
               

     “เรานำนวัตกรรมผ้าคอลลาเจนจากไต้หวันเข้ามาได้ประมาณ 5 ปีแล้ว ก่อนจะมาถึงตรงนี้ก็ได้ร่วมพัฒนากับสถาบันสิ่งทอ เราเรียนรู้จากธุรกิจหลักว่าต้องปรับเปลี่ยนมาทำนวัตกรรมและผลิตสินค้าที่มีมูลค่าสูงขึ้น เพราะถ้ายังสู้ในตลาดล่างก็ต้องแข่งกับสินค้าจากจีนที่เข้ามาเยอะและเขาเก่งมาก วงการสิ่งทอชอบซื้อสินค้าจากจีนเพราะง่ายและถูก ผู้ประกอบการไทยจึงต้องปรับตัว ที่จริงแล้วสินค้าของไทยเราไม่แพ้ชาติอื่นถ้าเทียบกันเรื่องราคาและคุณภาพ สินค้าจีนความคงทนปลอดภัยยังด้อยกว่าของไทยเรามาก นี่คือจุดแข็งของเรา”



     

     นอกจากผ้าพันคอคอลลาเจน เธอมีแผนจะทำชุดเครื่องนอนสำหรับผู้สูงอายุ ที่ส่วนใหญ่จะใช้เวลานอนและอยู่กับเตียงมากขึ้น ซึ่งนอกจากจะช่วยเรื่องรักษาความชุ่มชื้นให้ผิวแล้ว ยังช่วยป้องกันเชื้อโรคได้อีกด้วย
               

     “จุดหมายปลายทางเรามุ่งหวังว่าจะทำให้ทุ่งนาเมือง จังหวัดอุบลราชธานี เป็นที่รู้จักมากขึ้นเพื่อที่จะให้ชาวบ้านได้กลับไปพัฒนาพื้นที่ของตัวเอง พัฒนาการท่องเที่ยวและเป็นศูนย์การเรียนรู้เกี่ยวกับฝ้าย สุดท้ายแล้วที่อยากได้คือ ทำให้มีโรงเรียนการเข็นฝ้ายเกิดขึ้นที่นี่ เพื่อให้เด็กในชุมชนมีรายได้และแก้ปัญหายาเสพติดไปได้ในคราวเดียวกัน” 
    

           

     ไม่เพียงแค่การพัฒนาชุมชนบ้านทุ่งนาเมืองเท่านั้น นิตยายังเปิดรับความร่วมมือกับวิสาหกิจอื่นๆ เพื่อนำนวัตกรรมสิ่งทอนี้ไปต่อยอดเพิ่มเติมในชุมชนต่างๆ เช่น จังหวัดตรัง ที่มีกระบวนการพิมพ์ลายผ้าด้วยการจุ่มเทียนแล้วนำไปย้อมคล้ายผ้าบาติก เป็นต้น


     “เราเกิดมากับสิ่งทอที่คุณพ่อทำมาตั้งแต่ต้น จึงอยากจะทำดีคืนกลับไปสู่ชุมชนด้วย จุดเริ่มต้นของแบรนด์ไม่ได้เกิดมาจากธุรกิจเพราะธุรกิจหลักของเราคือ สินค้าเด็กซึ่งทำเงินได้เยอะอยู่แล้ว งานนี้เป็นส่วนหนึ่งที่อยากทำเพื่อสังคมแล้วมันก็โตเกินคาด ที่ผ่านมาเราไม่ได้คาดหวังอะไรเพราะถูกสอนมาว่าการทำความดีไม่ต้องเร่ง แค่ทำไปเรื่อยๆ ก็จะถึงจุดหมายเอง”






www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

เพราะคิดถึงรสชาติความหนึบของขนม    หนุ่มไต้หวันสร้างแบรนด์แพนเค้กโมจิ KiuKiu ที่ทำเงิน 100,000 ดอลลาร์ในเดือนแรก

ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่เริ่มจากไอเดียเล็กๆ แต่ลงมือทำอย่างจริงจัง ทดลองสูตรกว่า 80 ครั้ง จนทำให้ KiuKiu แบรนด์แพนเค้กและวาฟเฟิลสไตล์โมจิ เติบโตเร็วแบบชวนทึ่ง ทำรายได้แตะ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในเดือนแรกของการเปิดขาย

จาก Home School สู่ธุรกิจ Event เงินล้าน เจาะความคิด CEO วัย 19 ที่ทำให้ลูกค้ายอมไว้ใจ Gen Z

ทิ้งมหาลัย เพื่อออกมาเปิดบริษัท! นี่คือการเดิมพันครั้งใหญ่ของ CEO วัย 19 ที่พิสูจน์แล้วว่า 'ประสบการณ์' สร้างรายได้ถึง 'เงินล้าน' ได้จริง

MATCHAZUKI จากความหลงใหลสู่แบรนด์มัทฉะไทยกว่า 11 ปี ที่ “ใส่ใจ” ลูกค้าในทุกย่างก้าวของการเติบโต

แม้วันนี้มัทฉะจะฟีเว่อร์ แต่ไม่ใช่ 11 ปีก่อน เมื่อการหามัทฉะคุณภาพดีในไทยไม่ใช่เรื่องง่าย จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นให้ทีมเล็กๆ ก่อกำเนิด MATCHAZUKI แบรนด์ไทยที่หลงใหลในมัทฉะไม่แพ้ใคร พร้อมเปิดประตูชวนผู้คนให้ก้าวเข้าสู่โลกสีเขียวใบนี้ไปด้วยกัน