งบวิจัยพุ่ง! เอกชนทุ่มทำนวัตกรรมเพิ่มแต้มต่อธุรกิจ

Text : wattar





Main Idea
  • ตัวเลขการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาทั้งภาครัฐและเอกชนในปี 2561 เพิ่มสูงถึง 155,143 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36 เปอร์เซ็นต์จากปีก่อนหน้า คิดเป็นสัดส่วนโดยประมาณที่เอกชนลงทุนถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ทำให้เห็นถึงการตื่นตัวเรื่องการสร้างนวัตกรรมในการทำธุรกิจมากขึ้น
 
  • นวัตกรรมจะเป็นกุญแจนำไปสู่คำตอบและสร้างโอกาสทางธุรกิจ ทั้งในแง่ของการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่แปลกใหม่ และกระบวนการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
 
  • รัฐบาลพยายามสร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนามากขึ้นผ่านนโยบายต่างๆ ซึ่งจะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการไทย





     ในยุคนี้นวัตกรรมเป็นอาวุธสำคัญในการทำให้ธุรกิจสำเร็จและอยู่รอดไปจนถึงอนาคต ซึ่งกระบวนการได้มานั้นเริ่มต้นจากการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา (Research & Development : R&D) นำไปสู่คำตอบและโอกาสทางธุรกิจไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่แปลกใหม่ หรือแม้แต่กระบวนการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม


     โดยเฉพาะในยุคที่โลกเปลี่ยนเร็ว คู่แข่งรายล้อมรอบตัว การวิจัยและพัฒนานวัตกรรมจึงกลายเป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการให้ความสำคัญมากขึ้น มีผลสำรวจจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) ว่าในปี 2561 ที่ผ่านมาภาคเอกชนลงทุน R&D รวมกว่า 123,942 ล้านบาทเลยทีเดียว ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าประมาณ 82,701 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นถึง 50 เปอร์เซ็นต์ภายในระยะเวลาเพียงปีเดียว

 


     ปัจจัยบวกที่ทำให้ผู้ประกอบการไทยลงทุนด้าน R&D เพิ่มขึ้น
 
  1. การตื่นตัวในการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาที่เพิ่มขึ้นเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการเอง
 
  1. รัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นให้เอกชนมีการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาเพิ่มมากขึ้นผ่านนโยบายต่าง ๆ เช่น การให้ทุนสนับสนุนสำหรับผู้ประกอบการ SMEs และ Startup ในการดำเนินธุรกิจนวัตกรรม นโยบายส่งเสริมการลงทุนทั่วไป โดยให้สิทธิประโยชน์ตามประเภทกิจการ (Product-based Incentives) และสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมตามคุณค่าโครงการตลอดจนมาตรการเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และการขยายเขตเศรษฐกิจนวัตกรรม Economic Zone of Innovation เช่น เมืองนวัตกรรมอาหาร (Food Innopolis) การขยายจำนวนนิคมวิจัย (อุทยานวิทยาศาสตร์) ใน 3 ภูมิภาค เป็นต้น


 อุปสรรคของการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม


     ภาคเอกชนยังประสบอุปสรรคในการดำเนินกิจกรรมนวัตกรรมและวิจัยและพัฒนาในด้านการขาดแคลนบุคลากรที่มีคุณสมบัติเหมาะสม ขาดเงินทุนในการทำนวัตกรรมที่มีต้นทุนสูง ขาดข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยี รวมถึงยังขาดข้อมูลเกี่ยวกับตลาด เป็นต้น


     การก้าวไปสู่เป้าหมายการลงทุนด้านวิจัยและพัฒนาจึงต้องเพิ่มบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนา ตลอดจนการสร้างบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนาเพื่อป้อนภาคเอกชนให้ตรงและทันต่อความต้องการ ซึ่งมีหน่วยงานอย่าง สวทน. ที่เป็นหน่วยสนับสนุนจัดทำมาตรการกระตุ้นการลงทุนวิจัยและนวัตกรรม และจัดทำ Skill and Brainpower Planning การวางแผนด้านกำลังคนอย่างมีประสิทธิภาพ ที่เน้นการพัฒนากำลังคนของประเทศทั้งในมิติทักษะและความรู้ควบคู่กันไป
 




หนทางได้มาซึ่งนวัตกรรม


         โดยที่ลักษณะการพัฒนานวัตกรรมของผู้ประกอบการไทยเปลี่ยนไป เน้นนวัตกรรมที่มีความยากและซับซ้อนมากขึ้น ทั้งในแง่ของผลิตภัณฑ์และกระบวนการ ซึ่งแนวทางที่ได้มาซึ่งนวัตกรรมนั้นมาจาก

 
  • ผู้ประกอบการมีการวิจัยและพัฒนาภายในกิจการหรือกลุ่มกิจการมากขึ้น
 
  • ผู้ประกอบการร่วมมือในการทำกิจกรรมนวัตกรรมและวิจัยและพัฒนากับลูกค้าและซัพพลายเออร์ไทยเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค ซึ่งจะมีการลดหรือแบ่งความเสี่ยงและต้นทุน บริหารการใช้เวลาเข้าสู่ตลาดหรือเทคโนโลยีสั้นลง รวมถึงยังเป็นการสร้างพันธมิตรทางกลยุทธ์ในระยะยาว
 
  • ซื้อความรู้จากภายนอกเข้ามาพัฒนาต่อยอดเพิ่มขึ้น
     
     เห็นได้ว่าผู้ประกอบการไทยจะไม่โดดเดี่ยว หันไปทางไหนก็มีพันธมิตรที่สามารถช่วยให้การคิดค้นนวัตกรรมเป็นไปได้มากขึ้น
 

แหล่งข้อมูล : สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.)

 
www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี
 
 

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

Momento Coffee Roaster  จากคั่วกระทะหลังหอ สู่แบรนด์กาแฟ ที่สร้างรายได้ 1.5 ล้านบาทต่อเดือน

จากเด็กที่ไม่รู้ว่าชอบอะไร สู่เจ้าของโรงคั่วกาแฟที่โตมาด้วยความเชื่อว่าทำก่อน แล้วค่อยรู้ว่ารัก ตามไปรู้จัก เต้ย-เฉลิมชาติ สีเขียว เจ้าของแบรนด์ “Momento Coffee Roaster” ที่เริ่มคั่วกาแฟจากกระทะหลังหอ สู่เจ้าของโรงคั่วที่ขายได้ 1.5 ล้านบาทต่อเดือน

Tasty Toastys ขนมปังสุดน่ารัก ที่เริ่มต้นจาก NFT ก่อนมาปังในโลกจริง

Tasty Toastys แบรนด์ขนมปังคาแรกเตอร์น่ารักจากสิงคโปร์ ที่เริ่มต้นจากแรงบันดาลใจง่ายๆ แต่ลึกซึ้งจนกลายเป็นธุรกิจของสะสมและไลฟ์สไตล์ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก

JR Farm ปั้นไข่ผำแนวตั้งเจ้าแรกของไทย พลิกพืชพื้นบ้านสู่ซูเปอร์ฟู้ดหลักพันต่อกิโล  ด้วยสมาร์ทฟาร์มเต็มระบบ

ย้อนไป 5 ปีก่อน...วันที่คนอื่นมองว่าเขาบ้า เขากำลังสร้างระบบ วันที่ไม่มีใครเชื่อในผำ วันนี้ เขาคือผู้บุกเบิก “ไข่ผำแนวตั้งระบบปิด” รายแรกของไทย จากพืชน้ำที่หลายคนเคยขยะแขยง สู่ซูเปอร์ฟู้ดหลักพันต่อกิโล ส่งออกไปยุโรป ตะวันออกกลาง และเอเชีย