Banana-mâché สรรค์สร้างกาบกล้วยด้วยเทคนิคที่แตกต่าง พาสินค้าไทยยืนหนึ่งในเวทีโลก

Text : รุจรดา
Photo : เจษฎา ยอดสุรางค์






Main Idea
 
  • กล้วยเป็นพืชมหัศจรรย์ที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วนทั้งของกินของใช้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีอีกหลายมิติที่จะนำส่วนต่างๆ ของกล้วยมานำเสนอในวิธีที่ต่างออกไป
 
  • แบรนด์ C-SENSE ได้หยิบเอากาบกล้วย ส่วนที่เรียกได้ว่าสร้างมูลค่าได้น้อยที่สุดมาแปรรูปด้วยวิธีใหม่ ใช้เทคนิคเปเปอร์มาเช่สร้างสรรค์เป็นภาชนะและของตกแต่งบ้านให้กลายเป็นสินค้าส่งออกไปทำเงินได้ในเวทีโลก



     กล้วยนับเป็นพืชมหัศจรรย์ที่นำมาใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจหากเราจะได้เห็นผลิตภัณฑ์จากกล้วยมากมาย ทั้งในรูปแบบอาหารการกินและข้าวของเครื่องใช้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีคนหยิบเอากล้วยมานำเสนอในมิติที่ต่างออกไปจนกลายเป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติที่ส่งออกไปไกลถึงทวีปยุโรปและสหรัฐอเมริกา





     เรากำลังพูดถึงแบรนด์ C-SENSE ที่หยิบเอากาบกล้วยมาแปรรูปใหม่ ใช้เทคนิคเปเปอร์มาเช่ (Papier-mâché) สร้างสรรค์เป็นภาชนะ ของตกแต่งบ้าน หรือกระทั่งโคมไฟ แล้วให้ชื่อผลิตภัณฑ์นี้ว่า Banana-mâché มาจากกล้วยผสมกับการทำเปเปอร์มาเช่ ซึ่งเมื่อพูดออกไปผู้คนก็เข้าใจถึงวิธีการผลิตได้ทันที
               

     วัตถุดิบสำคัญในการผลิต คือ ต้นกล้วย โดยปาดเอาผนังออกด้านหนึ่งก่อนจึงจะเห็นลวดลาย (Texture) ที่สวยงาม จากนั้นจึงลอกกาบกล้วยเป็นชั้นๆ นำไปตากให้แห้งและชุบสารเคมีเพื่อให้ใช้งานได้คงทน มีทีมงานขึ้นโครงว่าต้องการผลิตงานในรูปไหน และทีมสุดท้ายนำกาบกล้วยไปติดทับเข้ากับโครงซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องพิถีพิถันอย่างมาก แน่นอนว่ากาบข้างนอกที่ถูกแยกออกในขั้นตอนแรกก็นำมาเย็บเป็นกระเป๋าขาย สร้างมูลค่าเพิ่มได้อีกต่อหนึ่ง
ซึ่งเพียงแค่ปีแรกที่ทำผลิตภัณฑ์มาวางขายในงานแสดงสินค้าเพื่อการส่งออกก็ได้รับความสนใจจากลูกค้าชาวต่างประเทศอย่างมาก จากการที่ลูกค้าเห็นคุณค่าใน 3 ประการ คือ เป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ สามารถใช้ซ้ำได้เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมได้ และเป็นงานคราฟท์ (ทำมือ)
 



     ปิยะนุช ชัยธีระยานนท์ เจ้าของแบรนด์ 
C-SENSE บอกเราว่าเธอเน้นสร้างงานฝีมือ ไม่ใช้เครื่องจักรช่วยผลิต เพราะในตลาดโลกมีสินค้าที่ใช้เครื่องจักรผลิตจำนวนมาก หากเธอลงไปเล่นในตลาดนี้จะต้องแข่งขันกับผู้ผลิตชาวอินเดีย อินโดนีเซีย หรือเวียดนาม แต่การใช้งานคราฟท์ตีตลาดจะได้ลูกค้ากลุ่มเฉพาะ ทั้งยังสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านที่ทำงานฝีมือได้ดีและประณีตกว่าเครื่องจักร


     “ผลงานของเราเป็นภาชนะตกแต่งบ้านได้ดีกว่าใส่อาหารแบบใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง เพราะหากผลิตสินค้าที่ใช้ได้เพียงครั้งเดียวก็ไม่คุ้มกับค่าแรงคนทำที่ตั้งใจมาก และจุดประสงค์ของเราไม่ได้อยากให้เขาใช้แล้วทิ้ง แต่จะเป็นของแฮนด์เมดทำด้วยมือที่ควรจะอยู่กับเราไปนานๆ”





     หลังจากที่ตลาดหลักเป็นต่างประเทศมานับ 10 ปี จึงหันมาเปิดตัวขายสินค้าในเมืองไทยมากขึ้นเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเพราะตลาดโลกเริ่มชะลอตัว ในขณะที่กระแสเรื่องการใส่ใจสิ่งแวดล้อมเข้ามาถึงประเทศไทยพอดี นับเป็นการจับทิศทางตลาดได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ


     นี่เป็นตัวอย่างของการหยิบเอาของคุ้นเคยใกล้ตัวมาประยุกต์เข้ากับวิธีการผลิตและใส่ดีไซน์ที่ต่างออกไป แล้ววัตถุดิบที่เราคิดว่าสร้างมูลค่าได้ไม่เท่าไร จะกลายเป็นสินค้าทำเงินได้มากกว่าที่คาดเดาได้เลยทีเดียว
 
 

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี


 

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

ละเลียดวิธีคิด สุรชัย พุฒิกุลางกูร Illustrator ไทย ผู้ยืนหนึ่งเวทีโลก

ละเลียดวิธีคิดของ สุรชัย พุฒิกุลางกูร Illustrator อันดับหนึ่งของโลก CEO แห่ง Illusion CGI Studio ที่พาสตูดิโอขึ้นแท่นเป็น No.1 ของโลกติดต่อกันถึง 11 ปี เขามีวิธีคิดและกลยุทธ์อย่างไร ถึงพาธุรกิจไปได้ไกลขนาดนี้

Top Table บาร์ปิงปอง มิติใหม่การแฮงค์เอาท์ เมื่อโค้ชกีฬาผันตัวมาทำธุรกิจ ฮอต! จนคืนทุนได้ใน 2 เดือน

จะดีกว่าไหมถ้าคุณสามารถดื่มแฮงค์เอาท์กับเพื่อน ขณะเดียวกันก็ได้ออกกำลังกาย มีเกมสนุกๆ ให้เล่นได้ด้วย “Top Table” บาร์ปิงปองแห่งแรกของสิงคโปร์ ที่ผสมผสานระหว่างกีฬา การดื่ม และพบปะสังสรรค์ได้อย่างลงตัว

BaanRung จากโรงเก็บของสู่คาเฟ่ตัวท็อป สูตรลับธุรกิจที่เริ่มได้แม้ไม่มีทุนมหาศาล

หลายธุรกิจไม่ได้เริ่มต้นจากทุนมหาศาลหรือทำเลทอง แต่เริ่มจาก พื้นที่เล็กๆ หน้าบ้าน ดังเช่น “บ้านรุ่ง” ที่เปลี่ยนพื้นที่เล็กๆหน้าบ้านที่ถูกมองข้ามให้กลายเป็นคาเฟ่ที่มีกลิ่นอายของความโฮมมี่