​ยิ้ม ห้วยขวาง โฮสเทลไทยแบบมีสไตล์

 



    เพราะรักในการเดินทางท่องเที่ยว เมื่อวันหนึ่งตัดสินใจที่จะทำธุรกิจ โชติรัตน์ อภิวัฒนาพงศ์ และ ผานิต อร่ามกุล คู่ชีวิตจึงนำประสบการณ์จากการเดินทาง และสิ่งที่พบเห็นมาเป็นไอเดียในการสร้างธุรกิจโฮสเทลของตัวเอง ภายใต้ชื่อ ยิ้มห้วยขวาง หรือ Yim Huai Khwang Hostel ที่สะท้อนความเป็นไทยและพร้อมที่จะต้อนรับลูกค้าทุกคน

    “ผมชอบเดินทาง ครั้งหนึ่งได้ไปฝึกงานที่ยุโรป สวีเดน ก็เลยท่องเที่ยวแบบแบ็กแพ็กคนเดียว เวลาพักก็ชอบไปพักยูสโฮสเทลหรือ โรงแรมที่ดีไซน์เก๋ๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเราอยากที่จะทำธุรกิจแต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี พอดีผมแต่งงานเราก็พากันไปเที่ยวยุโรปอีกรอบหนึ่ง ก็มีความรู้สึกว่าเวลาที่ได้ไปพักในที่สวยๆ เก๋ๆ หรือที่ที่มีดีไซน์แปลกๆ ทำให้เราแฮปปี้ แต่ไม่ว่าเราจะไปกี่ครั้งโฮสเทลก็ยังเหมือนเดิม มีแค่เตียงเหล็กธรรมดา 2 ชั้น ซึ่งต่างกับโรงแรมที่เขามีโปรดักส์และการดีไซน์ที่หลากหลาย แต่เราไม่เคยเห็นดีไซน์โฮสเทลเลย ก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นให้คิดที่จะทำดีไซน์โฮสเทลขึ้นมา” โชติรัตน์ อภิวัฒนาพงศ์ เล่าถึงจุดเริ่มต้นของยิ้มห้วยขวาง
 

    Yim Huai Khwang Hostel ตั้งอยู่ที่บนถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ เขตห้วยขวาง ถ้าจะว่าไปแล้วที่นี้อาจไม่ใช่ทำเลทองของธุรกิจที่พัก เพราะในโซนนี้โรงแรมที่พักส่วนใหญ่จะตั้งบนถนนรัชดาภิเษก ซึ่งเป็นถนนสายหลักมากกว่า นอกจากนี้โฮสเทลส่วนใหญ่มักจะเลือกตั้งในโซนที่มีนักท่องเที่ยวชุกชุมอย่างถนนข้าวสารและแถบสีลม แม้จะดูเหมือนทำเลไม่เอื้ออำนวย แต่แต่การฉีกตัวออกมานอกโซนของยิ้มห้วยขวางกลับไม่ได้อุปสรรคในการเข้าถึงลูกค้า หากกลายเป็นทางเลือกใหม่ของนักท่องเที่ยวสะพายเป้ ที่ต้องการที่พักที่ไม่จอแจพลุกพล่าน

    “ช่วงแรกไม่ได้ตั้งใจที่จะทำตรงนี้ ตอนนั้นเรามีที่ดินของทางบ้านก็คิดว่าจะทำ แต่ระหว่างนั้นเราผ่านไปเห็นทำเลตรงย่านนี้พอดี เขาประกาศให้เช่า ก็ลองมาดู เป็นอาคารพาณิชย์เก่า 4 คูหา ห่างจากรถไฟฟ้าใต้ดินห้วยขวางแค่ 50 เมตร ก็คิดว่าตรงนี้น่าจะเหมาะกว่า โดยที่เราวางกลุ่มลูกค้าเป้าหมายคือกลุ่มแบ็กแพ็กเกอร์”



    สำหรับที่มาของชื่อ ยิ้มห้วยขวางนั้น โชติรัตน์บอกว่าเพราะต้องการสื่อถึงความเป็นไทย เพราะยิ้มเป็นคำไทยๆ เวลาเขียนเป็นภาษาอังกฤษสะกดไม่ยาก และด้วยมุมมองและการต้องการสร้างความแตกต่าง ยิ้มห้วยขวางจึงกลายเป็นดีไซน์โฮสเทล ที่โชติรัตน์เลือกเฉพาะสิ่งที่ชอบจากประสบการณ์ที่ได้ไปพบเห็นมา นำมาเป็นคอนเซ็ปต์ในการคุยกับสถาปนิก ผสมผสานความเป็นไทย ทันสมัย และโมเดิร์น การตกแต่งที่มีสีสัน สนุกสนาน ภายใต้ธีม fun and friendly รวมถึงการมีนาฬิกาเรือนใหญ่อยู่ส่วนกลางชั้นล่าง ซึ่งเขาต้องการให้เป็นแลนด์มาร์กของที่นี่ บวกกับไอเดียในการออกแบบห้องพักรวมแต่มีความเป็นส่วนตัวแฝงอยู่ กลายเป็นเสน่ห์และเป็นจุดขายได้อย่างยอดเยี่ยม
 


    “ความจริงโฮสเทลก็คือหอพักที่มีคนมาพักรวมกัน ส่วนใหญ่จะเป็นเตียงเหล็ก 2 ชั้น ห้องน้ำรวม ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ และราคาถูก บางแห่งก็ตกคืนละสองร้อยกว่าบาท แต่ของเราจะแตกต่างจากที่อื่นโดยการออกแบบที่ไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะห้อง Dorm หรือห้องรวม เราออกแบบให้เป็นบล็อกไม้ส่วนตัว ฉะนั้นเมื่ออยู่ห้องรวมก็จริง แต่เมื่อลูกค้าเข้าไปในบล็อกแล้ว ก็เป็นพื้นที่ใคร พื้นที่มัน”  
 



    สำหรับการตอบรับจากลูกค้าในระยะ 1 ปีที่เปิดให้บริการมา โชติรัตน์บอกว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ อาจจะไม่หวือหวา  ซึ่งก่อนที่จะตัดสินใจทำยิ้มห้วยขวาง เขาได้ลองสำรวจกลุ่มลูกค้าที่น่าจะเป็นลูกค้าเป้าหมาย พบว่ากลุ่มลูกค้าที่เป็นชาวเอเชีย โดยเฉพาะคน เจน Y ที่ใช้สมาร์ทโฟน น่าจะเป็นกลุ่มหลักเพราะเขาได้วางช่องทางให้เป็นที่รู้จักในเว็บไซต์จองที่พักของนักท่องเที่ยวซึ่งเป็นที่นิยมของคนทั่วโลกไว้โดยเฉพาะ สำหรับปัจจุบันลูกค้ายิ้มหัวยขวางประมาณ 70% เป็นลูกค้าต่างประเทศ และเป็นคนไทย 30% 
 


    อย่างไรก็ตามโชติรัตน์ก็หวังที่จะขยายฐานลูกค้าออกไปในวงกว้างขึ้น โดยอาศัยช่องทางการตลาดหลากหลายรูปแบบเพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำประชาสัมพันธ์ในช่องทางของนักเดินทางอย่าง Tripadvisor ซึ่งเป็นเว็บจองที่พักยอดนิยมของคนทั่วโลก โปรโมทผ่านแมกกาซีน การใช้ช่องทางลงโซเซียลมีเดียอย่าง เฟสบุ๊ก ทวิสเตอร์ อินสตาร์แกรม และ www.yimhuaikhwang.com  ซึ่งเขาคาดว่าในอนาคตจะได้ลูกค้าจากการจองผ่านเว็บไซต์ของตัวเองมากขึ้น


Create by smethailandclub.com
 

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

นวัตกรรมจาก Rehyphen อัปไซเคิลเทปคาสเซ็ตเก่า ให้เป็นผ้าผืนลายลวดลายเฉพาะตัว

การรีดีไซน์ที่ไม่ธรรมดา เมื่อ Rehyphen เปลี่ยนเทปคาสเซ็ตเก่าให้เป็นเนื้อผ้าล้ำสไตล์ ใส่ได้จริง แถมยังเล่าเรื่องความยั่งยืนได้

สาวผมยาวต้องถูกใจสิ่งนี้! Pony Cap ตัวช่วยสระผมแบบใหม่ ที่ให้คุณสระแค่ครึ่งหัว ก็สะอาด แห้งเร็วขึ้น

รู้จัก “Pony Cap” ถุงครอบป้องกันผมเปียกขึ้นมา เพื่อใช้คลุมส่วนของเส้นผมที่ไม่ต้องการให้เปียก โดยทำมาจากผ้าโพลีเอสเตอร์ ไอเดียธุรกิจที่เกิดจาก Pain Point ของสาวผมยาว

ปั้น Ocare Health Hub ยอมขาดทุน 3 ปีก่อนมีรายได้ 8 หลัก

เจาะลึกบทเรียนจาก พญ.ชุติมา ดุลมณี (หมอออม) CEO Ocare Health Hub ที่กล้าทิ้งความมั่นคงของคลินิกแพทย์ สู่สนามรบ Health Tech ที่ไร้กำไรในช่วง 3 ปีแรก เพื่อหาแนวทางสร้าง System ที่ปลดล็อกอิสรภาพทางธุรกิจทุบกำแพงรายได้เดิม