ทายาทรุ่น 3 สวนส้มบางมด แตกยอดธุรกิจครอบครัวสู่น้ำผลไม้ สร้างยอดขายปังทั้งในห้างดังและ 7-11

TEXT : กองบรรณาธิการ
PHOTO : ไร่ชาญลดา





     ใครยังจำตำนานความอร่อยและชื่อเสียงของส้มบางมดได้บ้าง ครั้งหนึ่งย่านฝั่งธนเคยเป็นแหล่งปลูกส้มเขียวหวานขึ้นชื่อ  ที่สร้างชื่อเสียงและรายได้ให้กับชาวบางมดมานานหลายปี  ก่อนจะข้ามผ่านวิกฤต ความเปลี่ยนแปลง และกลายเป็นเพียงตำนานเช่นในปัจจุบัน
               

     หนึ่งในลูกหลานเกษตรกร ซึ่งมีศักดิ์เป็นทายาทรุ่น 3 อาณาจักรสวนส้มบางมดย่านฝั่งธน คือ “อังศุมา ศิริคุม” หลังจากเจอปัญหาโรคระบาดเมื่อกว่า 30 ปีก่อน ครอบครัวของเธอและเกษตรกรสวนส้มรายอื่นก็อพยพไปหาแหล่งเพาะปลูกใหม่ เริ่มแรกย้ายไปที่ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี แต่ก็ยังแก้ปัญหาโรคระบาดไม่ได้ เลยต้องเปลี่ยนแผนไปลงหลักปักฐานที่ อ.โกสัมพี จ.กำแพงเพชร ที่ตั้งในปัจจุบัน  


     จากจุดเล็กๆ ขยับขยายเป็นสวนผลไม้ขนาด 112 ไร่ ใช้ชื่อ  “ไร่ส้มชาญลดา” ซึ่งมาจากชื่อของพ่อและแม่ “เชี่ยวชาญและลดาวัลย์ ศิริคุม” ก่อนจะจัดตั้งเป็นบริษัทชื่อ “บริษัท ไร่ชาญลดา จำกัด” ขึ้นเมื่อปี 2556 ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท





     ในตอนเริ่มต้นไร่ชาญลดาเน้นส่งผลผลิตไปขายตามตลาดไท ตลาดในภาคอีสาน และภาคใต้ แต่ตอนที่ทายาทอย่างอังศุมาและน้องชายเข้ามาสานต่อ คนรุ่นใหม่อย่างพวกเขาเกิดแนวคิดต่อยอดธุรกิจขึ้น โดยเธอมีดีกรีปริญญาตรีด้านภาษาญี่ปุ่น จากเอแบค และสนใจในธุรกิจเกษตร จึงคิดสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลผลิตเกษตรด้วยการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์น้ำผักผลไม้เพื่อคนรักสุขภาพ ใช้ชื่อแบรนด์ว่า “Chan Lada” (ชาญลดา) เริ่มจากน้ำส้มเขียวหวาน น้ำเสาวรส น้ำอะโวกาโด้ น้ำฝรั่ง น้ำกีวี และอีกหลากหลายผลิตภัณฑ์ ค่อยๆ ปลุกปั้นแบรนด์เล็กๆ ให้แจ้งเกิดในตลาดคนรักสุขภาพเมื่อกว่า 6 ปีก่อน


     แนวคิดการทำธุรกิจของไร่ชาญลดา คือทำงานเป็นเครือข่าย โดยตัววัตถุดิบใช้ผลผลิตจากไร่ชาญลดาและสวนในเครือข่าย ซึ่งเป็นสวนที่ได้การรับรองมาตรฐานจีเอพี(GAP)  จึงไม่มีปัญหาในเรื่องผลผลิต โดยส้มเขียวหวานจะมาจากไร่ชาญลดาทั้งหมด ส่วนฝรั่ง อะโวกาโด้ ได้มาจากสวนในเครือข่ายที่อยู่ใน อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ขณะที่เสาวรสและบีทรูทมาจากสวนที่ อ.แม่สอด จ.ตาก โดยการรับซื้อเป็นไปตามกลไกของตลาด ซึ่งราคาจะไม่เท่ากันในแต่ละช่วงเวลา ขึ้นอยู่กับปริมาณของผลผลิตในช่วงนั้นๆ  
              

     สินค้าดี มีมาตรฐาน แต่ถ้าไม่มีตลาดก็คงไม่ต่อไม่ได้  เธอและน้องชายเลยเริ่มหาตลาด ด้วยการขยันออกบูธตามงานต่างๆ  เปิดโอกาสให้คนได้เห็นและลองลิ้มชิมสินค้า จนไปเข้าตาห้างสรรพสินค้าชั้นนำและโรงแรมหรูใจกลางกรุงเทพเลยได้โอกาสไปวางจำหน่าย รวมถึงร้านอิ่มสะดวกอย่างเซเว่น อีเลฟเว่น ด้วย 
               

     แต่การจะเข้าไปขายในเซเว่นไม่ใช่เรื่องง่าย หลังมีทีมงานลงมาดูกระบวนการผลิตที่โรงงาน พวกเขาเลยได้คำแนะนำให้ปรับปรุงกระบวนการผลิต การพัฒนาสินค้าให้ได้คุณภาพมาตรฐาน ตลอดจนออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความน่าสนใจขึ้น 



              

     จนปัจจุบันสามารถนำสินค้าไปวางขายในเซเว่นได้ 2 ตัว คือน้ำเสาวรสผสมบีทรูท และเสาวรสผสมอะโวกาโด้ บรรจุขวดขนาด 250 ซีซี โดยเริ่มจากวางขายใน 3 สาขา หลังจากนั้นเพียง 3 เดือน ก็เพิ่มเป็น 7 สาขา และขยายเป็น 300 สาขา ในกรุงเทพฯ ในปัจจุบัน โดยตั้งเป้าว่าในปีหน้า 2564 จะขยายสาขาเซเว่นให้ได้ที่ 3,000 สาขา และเพิ่มจำนวนขึ้นในปีถัดไปเพื่อให้ครอบคลุมทั่วประเทศ รวมถึงยังมีแผนในการทำตลาดส่งออกในอนาคตอีกด้วย โดยตั้งเป้าที่จะไปญี่ปุ่นเมืองแห่งคนรักสุขภาพ และใช้ทักษะภาษาญี่ปุ่นที่ร่ำเรียนมาเป็นใบเบิกทางสู่ตลาดอินเตอร์ของพวกเขา 
  
              
     ส้มบางมดคือชื่อเสียงและร่องรอยความสำเร็จที่คนรุ่นก่อนได้สร้างเอาไว้ แต่วันนี้คนรุ่นใหม่อย่างพวกเขากำลังทำให้ตำนานนี้กลับมามีลมหายใจอีกครั้ง ด้วยการต่อยอดผลผลิตทางการเกษตรให้ไปไกลมากกว่าส้ม และชื่อเสียงที่ดังไกลกว่าบางมด    
      
 



www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลธุรกิจเอสเอ็มอี

RECCOMMEND: ENTREPRENEUR

อย่างอาร์ต! MAMAD แบรนด์แฟชั่น X ศิลปะ วาดลวดลายสไตล์ Semi Abstract สร้างความแปลก ออกแบบ “ศิลปะที่สวมใส่ได้”

“Me As My Art Daily” ศิลปะคือส่วนหนึ่งของตัวตนเราในทุกวัน คือนิยามของแบรนด์แฟชั่นสุดอาร์ตอย่าง MAMAD ที่นำเอาศิลปะและแฟชั่นมาผสานกัน กลายเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า และหมวกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ความแปลกตา และสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร

เค้กหรือมายากล!? ไอเดียสุดแหวก! เมื่อ “ราเมน” กลายเป็นเค้ก

Bob The Baker Boy ร้านเค้กในสิงคโปร์ทำให้คำว่า “เค้ก” เปลี่ยนไปตลอดกาล จาก "หน้าตา" เค้กที่แทบทุกคนเห็นแล้วต้องหยิบมือถือขึ้นมาถ่าย! ไอเดียแบบนี้เกิดจากความตั้งใจของเมย์ ฟง เจ้าของร้านสุดครีเอทีฟ

ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด ฉบับทายาทรุ่น 3 จาก 3 แบรนด์เก๋า หอยนางรม-น่ำเอี๊ยง-เด็กสมบูรณ์

ธุรกิจครอบครัวที่ผ่านรุ่น 3 ไปได้ต้องทำอย่างไร ? เราจะพาไปดูวิธี ‘ทรานฟอร์มธุรกิจให้รอด’ จาก 3 แบรนด์เก๋า: หอยนางรม - น่ำเอี๊ยง - เด็กสมบูรณ์" ​ ที่ไม่เพียงรักษามรดกครอบครัวไว้ แต่ยังสร้างโอกาสใหม่ๆ อีกด้วย ​